อดีตบิ๊กทหารสหรัฐฯ สอนมวยนาโต ประเมินปมรัสเซีย-ยูเครนต่ำไป จุดจบสุดท้าย คือหายนะขั้นเลวร้าย!?

0

หลังจากที่นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการ องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ได้ประกาศว่า นาโตจะเพิ่มจำนวนทหารในการเตรียมความพร้อมระดับสูงขึ้นมากกว่า 7 เท่าเป็น 300,000 นาย ในขณะที่ชาติพันธมิตรเตรียมใช้กลยุทธ์ใหม่เพื่อรับมือกับรัสเซีย แต่นั่นเป็นจุดที่ทำให้นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศมองว่า นาโตและสหรัฐฯกำลังทำให้เกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ต่อโลก

ที่ผ่านมานาโตยอมรับว่า ได้เตรียมการมาตั้งแต่ปี 2014 เพื่อจะสู้กับรัสเซีย และเชื่อว่ามีกำลังงบประมาณและกำลังพลมากพอแน่นอน ทันทีที่นาโตออกมาประกาศเช่นนี้ ผู้นำยูเครนก็แถลงเปิดใจทันทีว่า ยูเครนจะขอเงิน 5 พันล้านเหรียญต่อเดือน เพื่อจะเอาชัยชนะเหนือรัสเซีย ซึ่งทำให้น่าจับตามองว่า เงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้ นาโตจะกล้าจ่ายหรือไม่

ล่าสุดมีรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญการทหารของสหรัฐฯ ระบุว่า นาโตประเมินวิกฤตยูเครนต่ำไป ซึ่งจะทำให้เกิดผลตามมาอย่างคาดไม่ถึง ผู้เชี่ยวชาญทางการทหารของสหรัฐฯ ซึ่งเรียกร้องให้มีการหยุดยิง และเจรจาทางการทูต เพื่อเป็นทางออกนั้น เปิดเผยว่า สหรัฐฯ และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือ นาโต ประเมินความเสี่ยงของสถานการณ์การต่อสู้ในยูเครนต่ำเกินไป ซึ่งจะนำไปสู่ผลตามมาอย่างคาดไม่ถึง

แจ็ค มิดจ์ลีย์ อดีตที่ปรึกษาผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความมั่นคงนานาชาติ หรือ ISAF ให้สัมภาษณ์กับ China Media Group ว่า ต้นทุนของการต่อสู้นั้นมหาศาลอยู่แล้ว และความเสี่ยงที่สงครามจะขยายตัว เขาคิดว่าสหรัฐฯ และพันธมิตรนาโต ประเมินสถานการณ์วิกฤตในยูเครนต่ำเกินไป

เนื่องจากในข้อเท็จจริง คือ รัสเซียยังคงมีศักยภาพทางนิวเคลียร์แข็งแกร่งมาก และรัสเซียสามารถใช้นิวเคลียร์ในอาณาเขตของยูเครน หากรัสเซียเลือกที่จะทำเช่นนั้น และถ้ารัสเซียทำจริง จะไม่สามารถคาดการณ์ได้ถึงผลที่ติดตามมา

ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยง ไม่ให้สถานการณ์บานปลาย ทุกฝ่ายยังจะต้องอดทนอดกลั้น นาโตจะต้องหยุดการหารือเรื่องการเข้าเป็นสมาชิกของฟินแลนด์ และสวีเดน รวมถึงหยุดส่งอาวุธให้ยูเครนด้วย

อย่างไรก็ตามมิดจ์ลีย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เขาหวังว่าจะมีการเจรจาทางการทูต เพื่อหยุดสถานการณ์ร้ายแรงที่จะตามมา ซึ่งอาจทำให้วิกฤตขยายวงกว้างและเกิดความเสียหายมหาศาล ดีกว่าปล่อยให้สถานการณ์เข้าขั้นเลวร้ายกว่านี้ จากการที่นาโตและสหรัฐฯ ส่งอาวุธช่วยยูเครนอย่างไม่หยุดหย่อน