การสู้รบในยูเครนล่วงเลยมากว่า ๔ เดือนตั้งแต่มอสโกว์เปิดปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนเมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ เพื่อตอบโต้การโจมตีที่โหดเหี้ยมต่อดอนบาส โดยกองทหารหัวรุนแรงของเคียฟอย่างต่อเนื่อง รัสเซียตั้งเป้าหมายที่จะหยุดสงครามที่ยาวนานถึง ๘ ปี ที่เคียฟต่อสู้กับโดเนตสก์และลูฮันสก์ โดยเรียกการกระทำของยูเครนว่าเป็นการล้างเผ่าพันธุ์
ล่าสุดปธน.ปูตินประกาศปลดปล่อยสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ (Lugansk)อย่างสมบูรณ์หลังยึดเมืองแฝดซีวีโรโดเนตสก์ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ด้านเซเลนสกี้ต้องยอมรับว่ายื้อไม่ไหว ถอนกำลังจากลีซีชานสก์แล้ว แต่ใช้อาวุธตะวันตกถล่มเมืองชายแดนรัสเซียทำชาวบ้านเด็กและผู้หญิงเสียชีวิต บาดเจ็บไม่น้อย หลังสู้ซึ่งหน้าแพ้ ยิงมิสไซล์ถล่มเมืองเบลโกรอด(Belgorod)ของรัสเซียที่อยู่ใกล้ชายแดนยูเครน รัสเซียประกาศแล้วว่าถ้าดินแดนรัสเซียถูกโจมตี รัสเซียจะตอบโต้ศูนย์กลางอำนาจที่ส่งอาวุธไปให้ยูเครน ครั้งนี้รัสเซียรู้ดีว่าเป็นการยั่วยุครั้งสำคัญเพื่อให้รัสเซียกดปุ่มก่อน จะตอบโต้กลับอย่างไรคงต้องติดตาม
วันที่ ๔ ก.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและรัสเซียทูเดย์รายงานว่า เซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้สรุปสถานการณ์ในสมรภูมิยูเครนแก่ปธน.วลาดิเมียร์ ปูตินเกี่ยวกับการปลดปล่อยสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ (LPR) อย่างสมบูรณ์ ซึ่งมอสโกว์รับรองเอกราชก่อนเปิดปฏิบ้ติการทหารในปีนี้
ตามรายงานของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย การปลดปล่อยลูฮันสก์ (LPR) เสร็จสิ้นลงด้วยการพ่ายแพ้ของกองทหารยูเครนในเมืองลิซิชานสก์ (Lisichansk) รวมถึงเมืองใกล้เคียงอีกหลายแห่ง เช่น เบโลโครอฟกา, โนโวดรูเชสก์, มาโลเรียซานเซโว และเบลายาโกรา (Belogorovka, Novodruzhesk, Maloryazantsevo , Belaya Gora) ซึ่งขณะนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพรัสเซีย และ กองทัพบก.ลูฮันสก์ กองกำลังของทั้งสองรัฐได้ปลดปล่อยดินแดนพื้นที่ ๑๘๒ ตารางกิโลเมตรจากกองกำลังที่ควบคุมโดยเคียฟ
มีรายงานหลายฉบับที่ระบุว่ากองกำลังรัสเซียยึดเมืองลิลิชานสก์ (Lisichansk) ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของกองทัพยูเครนในลูฮันสก์ เมื่อวันที่ ๒ ก.ค. โดยที่เคียฟปฏิเสธแม้จะยอมรับว่าสถานการณ์รุนแรงก็ตาม อย่างไรก็ตาม การยืนยันอย่างเป็นทางการมาถึงเมื่อวันที่ ๓ ก.ค.ที่ผ่านมา
กองทหารยูเครนในเมืองนี้ถูกตัดขาดจากเสบียงเมื่อต้นสัปดาห์นี้ เนื่องจากถูกปิดล้อมโดยกองกำลังผสมรัสเซีย-ลูฮันสก์
และในที่สุด ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ได้ยอมรับแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๓ ก.ค.ที่ผ่านมาว่า กองกำลังของเคียฟได้ถอนทัพออกจากเมืองลีซีชานสก์ ในภูมิภาคดอนบาส ทางภาคตะวันออกของประเทศแล้ว หลังถูกรัสเซียโจมตีบดขยี้อย่างหนัก แต่ยังปากแข็งจะทวงคืนพื้นที่ดังกล่าวให้ได้ โดยอวดว่ามีตัวช่วยคืออาวุธพิสัยไกลที่ได้รับมอบจากตะวันตกแล่ว
ในวันเดียวกันที่พ่ายแพ้ในสมรภูมิที่มั่นสุดท้ายในลูฮันสก์ ยูเครนได้ปฏิบัติการยั่วยุรัสเซียโดย ยิงระเบิดใส่เมืองชายแดนรัสเซีย
ผู้ว่าการภูมิภาคเบลโกรอดของรัสเซีย วยาเชสลาฟ กลัดคอฟ ( the governor of Russia’s Belgorod region, Vyacheslav Gladkov)รายงานว่า กองกำลังยูเครนเปิดฉากโจมตีดินแดนรัสเซีย มีผู้เสียชีวิต ๕ รายและบาดเจ็บอย่างน้อย ๔ ราย
ผู้ได้รับบาดเจ็บรวมถึงเด็กอายุ ๑๐ ขวบ ขณะที่อาคารอพาร์ตเมนต์ ๑๑ หลังและบ้านเรือนอย่างน้อย ๓๙ หลังได้รับความเสียหาย ดูเหมือนความเสียหายที่เกิดขึ้นเพียงวันเดียวครั้งนี้เลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์
กระทรวงกลาโหมระบุเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศสามารถสกัดกั้นกระสุนลูกระเบิดที่ยูเครนยิงใส่เบลโกรอดได้ แต่เศษซากของพวกมันตกลงบนอาคารที่อยู่อาศัย ในเวลาเดียวกัน โดรน ยูเครนอีก ๒ ลำที่บรรทุกระเบิดถูกยิงก่อนจะไปถึงเมืองคูร์สค์
มอสโกว์ได้เตือนสหรัฐและพันธมิตรไม่ให้ส่งอาวุธไปยังยูเครน ย้ำว่าแค่เป็นการยืดเวลาการต่อสู้เท่านั้น แต่จะเพิ่มความเสี่ยงของการเผชิญหน้าทางทหารโดยตรงระหว่างรัสเซียและนาโต้ แต่ดูเหมือนว่านาโต้กำลังเร่งเร้าสงครามขัดแย้งให้ถึงจุดแตกหัก มากกว่าจะให้เกิดการเจรจา นอกจากนี้นาโต้ยังเคลื่อนไหว เร่งขยายสมาชิกปิดล้อมรัสเซีย และกำลังเตรียมจ่อผุดฐานทัพในเพื่อนบ้านรัสเซียอีกด้วย สถานการณ์เช่นนี้รัสเซียอาจตัดสินใจบางอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด จับตาเมืองโอเดสซาที่ยูเครนเริ่มปล่อยข่าวว่า รัสเซียถล่มที่อยู่อาศัยของประชาชน ไปพร้อมกับการยิงข้ามแดนรัสเซียท้าทาย เป็นการยั่วยุทางทหารของฝ่ายตะวันตกที่เกิดขึ้นพร้อมๆกับสงครามข่าวสารให้ร้ายอย่างไม่หยุดหย่อนโดยสื่อตะวันตก วันนี้สงครามในยูเครนยังเข้มข้นแต่จุดวาบไฟใหม่กำลังเคลื่อนไหวอย่างดุเดือด!!