จากที่วันนี้ 30 มิถุนายน 2565 เพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงสถานการณ์ของสหรัฐ ผู้นำขั้วอำนาจเก่ากำลังเพลี่ยงพล้ำต่อขั้วอำนาจใหม่อย่างจีนและรัสเซีย ซึ่งมีความน่าสนใจกับการประกาศใช้เงินสกุลใหม่อย่างมีนัยยะสำคัญยิ่ง!!!
ทั้งนี้เนื้อหาที่ เพจ World Update นำมาเผยแพร่ไว้ได้ระบุถึงแหล่งที่มาคือ Reuters และ TNNworld โดยมีข้อความบางช่วงที่ชวนติดตามว่า “สหรัฐ รวยเละเป็นโจ๊ก! ดอลลาร์ไหลคืน ชาติมหาอำนาจใหม่ใช้หยวนแทน
ที่ผ่านมาหลายทศวรรษ สหรัฐ นอกจากจะใช้อาวุธแล้วยังใช้เงินตราเป็นเครื่องมือในการควบคุมระเบียบโลกเก่าขั้วเดียว บังคับให้ชาติต่างๆ ทั่วโลกซื้อ-ขายสินค้ากันด้วยเงินดอลลาร์ แทบทุกประเทศต้องนำเงินตราสกุลท้องถิ่นของตนที่พิมพ์เงินโดยใช้ทองคำค้ำประกัน “เงินกระดาษประเภทนี้จึงมูลค่าเท่าทองคำ” ดีๆ นั่นเอง
จากนั้นนำไปซื้อทุนแลกเปลี่ยนกับเงินดอลลาร์ ยูโร ปอนด์ ที่พิมพ์เงินเพิ่มโดยไม่มีทองคำค้ำประกัน นึกอยากจะพิมพ์เท่าไรก็ทำ QE รับรองเอกสารค้ำประกันตัวเอง “เงินกระดาษประเภทนี้มูลค่าไม่เท่าทองคำ”
การซื้อทุนแบบนี้เรียกให้ดูดีสากลว่า “เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ” เอาไว้เป็นเงินกลางจ่ายค่าสินค้าโภคภัณฑ์พลังงานน้ำมัน ก๊าซ ถ่านหิน อาหาร ฯลฯ ทั่วโลกโดยชาติตะวันตกกำหนดให้มีระบบ SWIFT ผูกกับธนาคารทั่วโลกแต่ละชาติไว้เป็นตัว Alert
เงินทุนสำรองของชาติผู้ซื้อ ไปยังชาติผู้ขาย เป็นแบบนี้มาแสนนานจนทั่วโลกชิน และไม่ฉุกคิดว่า “เอาทองคำไปแลกกระดาษทำไม?” นายธนาคารสหรัฐ และชาติตะวันตก ก็จับเสือมือเปล่านำเงินท้องถิ่นทั่วโลกที่เทียบเท่าทองคำ ไปแปลงเป็นสินทรัพย์ลงทุนในประเทศตนเองและไปลงทุนทั่วโลกเรียกคนพวกนี้ว่า “นักลงทุนต่างประเทศ” ผลิดอกออกผล งอกเงินมีคุณค่าเท่าทองคำไม่มีที่สิ้นสุด
พฤติกรรมเสมือน “ตกปลาในบ่อเพื่อน” คือไม่ลงทุนอะไรเลย ตัวอย่างคือ ศรีลังกา ในเวลานี้ ที่สะสมเงินดอลลาร์ ยูโร ถูกสูบจนแห้งเหลือหนังติดกระดูก
ดังนั้นประเทศใดถือครองดอลลาร์มาก ค่าเงินตนจะอ่อนลงมากกว่า ขืนตั้งเงินกองทุนชดเชยพยุงค่าเงินตนเองวิธีนี้หายนะรอได้เลย วิธีแก้คือเทขายดอลลาร์ทิ้งไปให้เยอะที่สุด แล้วไปเพิ่มสัดส่วนถือครองและค้าขายด้วยหยวน รูเบิล ที่มีทองคำค้ำประกันค่าเงินและแข็งกว่าดอลลาร์ เพื่อชดเชยค่าเงินท้องถิ่นอ่อนค่า จึงจะช่วยรอดหายนะได้
ตัวอย่างคือ ปัจจุบัน ผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ที่สุดของอินเดีย UltraTech Cement นำเข้าสินค้าถ่านหินจำนวน 157,000 ตันมูลค่าสินค้า 172,652,900 หยวน (25.81 ล้านดอลลาร์) จากผู้ผลิต SUEK รัสเซีย ที่มีธุรกิจค้าถ่านหินตัวแทนตั้งอยู่ในดูไบ UAE จากนั้นอินเดียก็ชำระเส้นทางการเงิน “รูปี-หยวน-รูเบิล” ไปให้รัสเซีย กลายเป็นที่น่าพอใจมาก
แม้แต่สิงคโปร์ ก็ทำแบบนี้มาสักระยะแล้ว เป็นเคล็ดลับที่ปัจจุบันสิงคโปร์มีอัตราเงินเฟ้อ 5.6% , วิธีนี้ช่วยผลักดันสัดส่วนของเงินหยวนที่เทียบเท่าทองคำให้เป็นสกุลเงินสากลยิ่งขึ้น ช่วยกันกดสัดส่วนดอลลาร์ลงมาในการค้าโลก
ผลักเงินดอลลาร์กระดาษแม่น้ำร้อยสายไหลกลับไปท่วมสหรัฐ ยุโรป ถล่มชาติตะวันตกอัตราเงินเฟ้อทะยานสูงลิ่ว ผลคือชาติต่างๆ ค่าเงินท้องถิ่นตนที่เทียบเท่าทองคำก็จะกลับมาแข็งค่าขึ้นเองตามธรรมชาติ พ้นการครอบงำของดอลลาร์กระดาษ อาจเรียกวิธีนี้ว่า “ยืมมือหยวน-รูเบิล” คว่ำบาตร “ดอลลาร์” ก็ไม่ผิดนัก
สมเหตุสมผลที่เงินสกุลท้องถิ่นเทียบเท่าทอง จะแลกเป็นหยวนที่เทียบเท่าทองเหมือนกัน เอาไปชำระค่าสินค้าพลังงานน้ำมันตะวันออกกลาง เพราะผู้ค้าในซาอุฯ และ UAE ก็รับชำระค่าสินค้าของเขาเป็นหยวนและรูเบิล ไม่บังคับให้ชำระดอลลาร์มานานแล้ว (ปัจจุบัน 1 ดอลลาร์ = 6.6899 หยวน)
การขายทิ้งเงินทุนสำรองระหว่างประเทศดอลลาร์ลดสัดส่วนให้เหลือน้อยที่สุด แล้วไปเพิ่มสัดส่วนหยวน รูเบิล ทดแทนแล้วใช้เงินทุนสำรองสัดส่วนใหม่นี้ชำระค่าสินค้าโภคภัณฑ์ จะรับประกันความหายนะค่าเงินท้องถิ่นก่อนจนเกิดต้มยำกุ้งทางเศรษฐกิจที่ดีกว่าการตั้งกองทุนพยุงค่าเงินที่อันตรายมาก
ยึดหลักว่า “เงินกระดาษมูลค่าเท่าทองคำ คนละสกุลแลกกันเองย่อมไม่เสียเปรียบ” และ “อย่ายอมให้คนอื่นมาตกปลาในบ่อเรา” หนามยอก ต้องเอาหนามบ่ง”