หลังจากที่ฝรั่งเศส ได้ส่งมอบอาวุธสุดล้ำให้กองทัพยูเครน ไปได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ ที่เหล่ากำลังพลได้ปล่อยให้รัสเซียเข้ายึดอาวุธล็อตใหม่ไปได้ เรื่องนี้ได้สร้างความปวดหัวให้ทางฝั่งประธานาธิบดีมาครง อย่างมาก เพราะไม่ว่าจะส่งอาวุธอะไรไป ก็ดูเหมือนว่ายูเครนจะปล่อยให้สิ่งนั้นสูญเปล่าเสมอ
ล่าสุดในกลุ่มเฟซบุ๊ก ติดตามสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนและข่าวสารต่างประเทศ แอดมิน Krajeab Nacha ได้โพสต์ข้อความรายงานว่า “ภายในรัฐบาลไบเดนเริ่มไม่มั่นใจว่ายูเครนจะสามารถเอาชนะรัสเซียแล้วยึดดินแดนคืนทั้งหมดกลับมาได้ เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกำลังสูญเสียความมั่นใจว่ายูเครนจะสามารถทวงคืนพื้นที่ทั้งหมดที่สูญเสียให้กับรัสเซียในช่วงสี่เดือนที่ผ่านมาของสงคราม แม้ว่ายูเครนได้รับอาวุธหนักและทันสมัยจากสหรัฐฯ และพันธมิตรที่วางแผนจะส่งไปแล้วก็ตาม
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สหรัฐบอกกับ CNN โดยที่ปรึกษาประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้เริ่มโต้เถียงกันภายในว่า ประธานาธิบดีเซเลนสกี ของยูเครนควรตั้งเป้า “ชัยชนะ” ของยูเครนใหม่ และควรปรับให้เข้ากับความเป็นไปได้ที่ประเทศของเขาอาจจะมีขนาดเล็กลงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เน้นย้ำกับ CNN ว่าการประเมินในแง่ร้ายที่มากขึ้นนี้ไม่ได้หมายความว่าสหรัฐฯ มีแผนที่จะกดดันให้ยูเครนยกดินแดนใด ๆ แก่รัสเซียเพื่อยุติสงคราม นอกจากนี้ยังมีความหวังว่ากองกำลังยูเครนจะสามารถยึดดินแดนที่สำคัญกลับคืนมาในการตอบโต้ที่อาจเกิดขึ้นในปลายปีนี้
นักการเมืองสหรัฐฯ ที่คุ้นเคยกับการพิจารณาดังกล่าวบอกกับ CNN ว่ารัฐยูเครนที่มีขนาดเล็กกว่าเดิมนั้นอาจหลีกเลี่ยงได้ “การที่ยูเครนสามารถทวงคืนดินแดนเหล่านี้ได้หรือไม่นั้น ส่วนใหญ่แล้ว หากไม่ใช่ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับการสนับสนุนที่เราให้การสนับสนุนพวกเขา” เขาตั้งข้อสังเกตว่ายูเครนได้ขอระบบจรวดยิงจรวดหลายลำกล้องอย่างน้อย 48 ระบบ แต่จนถึงวันนี้ได้รับสัญญาจากเพนตากอนเพียงแค่ 8 ระบบเท่านั้น
บรรยากาศเปลี่ยนไปในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากยูเครนพยายามดิ้นรนเพื่อขับไล่การรุกของรัสเซียในดอนบาส และได้สูญเสียทหารไปเป็นจำนวนมาก โดยสูญเสียถึง 100 นายต่อวัน กองกำลังของยูเครนยังเผาผลาญอุปกรณ์และกระสุนได้เร็วเกินกว่าที่ทางตะวันตกจะจัดหามาให้ รวมถึงฝึกฝนพวกเขาเกี่ยวกับระบบอาวุธใหม่ที่ได้มาให้ทันด้วย
เจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯ และแหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับหน่วยข่าวกรองตะวันตกเห็นพ้องต้องกันว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่ยูเครนจะสามารถระดมกำลังที่จำเป็นเพื่อเรียกคืนดินแดนทั้งหมดที่สูญเสียให้กับรัสเซียในระหว่างการสู้รบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในปีนี้ตามที่ ผู้นำยูเครนกล่าวว่านั่นคือเป้าหมายชัยชนะของเขา แหล่งข่าวคาดว่าอาจมีการตอบโต้อย่างรุนแรงด้วยอาวุธและการฝึกฝนที่มากขึ้น แต่รัสเซียอาจมีโอกาสเพิ่มกำลังทหารในช่วงเวลาดังกล่าวด้วยเหมือนกัน ดังนั้นจึงไม่มีการรับประกันใด ๆ
ความคิดภายในหมู่รัฐบาลไบเดนคิดว่า ผู้นำยูเครนอาจจะต้องเริ่มลดความคาดหวังในสิ่งที่กองกำลังยูเครนสามารถทำได้ตามความเป็นจริง โดยก่อนหน้านี้เซเลนสกีกล่าวเมื่อปลายเดือนที่แล้วว่าชัยชนะของยูเครนคือยึดดินแดนที่มีก่อน 24 กุมภาพันธ์คืน โดยไม่สูญเสียเกินความจำเป็น
ต่อมา เขาย้ำเป้าหมายใหม่อีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
