ดุเดือดทั้งในสนามรบเศรษฐกิจ และสมรภูมิสู้ศึกในยูเครน การต่อสู้ระหว่างมหาอำนาจตะวันตกกับรัสเซียในสงครามตัวแทนยังคงขับเคี่ยวกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ความพยายามที่จะกีดกันไม่ให้มอสโกว์ชำระหนี้ต่างประเทศเป็นการบ่อนทำลายระบบการเงินของตะวันตกเอง รัสเซียยืนยันและทุกฝ่ายก็รู้ว่ารัสเซียมีเงินและต้องการชำระหนี้ซึ่งชำระหนี้ไปแล้วด้วยเงินรูเบิล แต่สหรัฐและตะวันตกได้สร้างสถานการผิดนัดชำระหนี้เทียมขี้นเอง สะท้อนความไม่น่าเชื่อถือของระบบที่เน้นการเมืองเชิงภูมิรัฐศาสตร์ทำลายฝ่ายที่ไม่ยอมสยบ ย่อมส่งผลกระทบไปยังความรู้สึกไม่มั่นคงกับนานาประเทศทั่วโลก
ด้านการศึกในสมรภูมิ เป็นครั้งแรกที่ผู้บัญชาการทหารยูเครนเปิดเผยว่า ๘๐% ของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินชั้นยอดของยูเครนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้แล้ว เพราะบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต เพราะต้องการเรียกร้องให้กลุ่มประเทศจี ๗ และนาโต้หนุนช่วยเพิ่มเติมทุกด้าน ซึ่งก็คงได้เพราะสหรัฐ-นาโต้ต้องการเช่นนั้นอยู่แล้ว
หากประเมินภาพรวมของสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและพันธมิตรกับรัสเซียแล้วย่อมเห็นภาพชัดว่าใครเป็นฝ่ายมีแต้มต่อ อาการมันฟ้อง เพราะทั้งจี๗ ที่เป็นกลไกหลักถล่มรัสเซียทางเศรษฐกิจก็ทำอะไรไม่ได้แค่ห้ามซื้อขายทองคำของรัสเซีย จะมีใครฟังบ้างนอกจากแก๊งเดียวกัน ทางด้านสนามรบถึงขนาดยอมรับว่าเสียนายทหารไปเกือบหมด สูญเสียกำลังพลทุกวันจนต้องไล่ตามผู้หญิงและคนพิการมาสู้รบ สื่อตะวันตกทั้งหลายยังโฆษณาชวนเชื่อยูเครนชนะทุกวันอย่างไม่ละอาย
วันที่ ๒๘ มิ.ย.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า บรรดาสื่อตะวันตกโหมกระพือรายงานว่ารัสเซียผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี ๒๔๖๑ มอสโกว์ตอบโต้ว่าไม่เป็นความจริง เพราะรัสเซียถูกบังคับให้จ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรเป็นรูเบิลหลังจากวอชิงตันปิดกั้นการจ่ายดอลลาร์เอง
รมว.กระทรวงการคลังแอนทอน ซิลัวนอฟ (Anton Siluanov) เน้นย้ำว่าวอชิงตันพยายามสร้างสถานการณ์เทียม โดยยืนยันว่าประเทศยินดีและสามารถชำระหนี้ต่างประเทศได้ การเปลี่ยนไปใช้การชำระเงินรูเบิลไม่ได้หมายความถึงการผิดนัดชำระหนี้แต่อย่างใด
ภายใต้กลไกการชำระเงินใหม่ ซึ่งเพิ่งประกาศและลงนามในกฎหมายโดยประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน มอสโกว์ถือว่าภาระผูกพันของตนเสร็จสิ้นแล้ว“หากปฏิบัติตามด้วยเงินรูเบิลในจำนวนที่เทียบเท่ากับมูลค่าของภาระผูกพันในสกุลเงินต่างประเทศ”ที่อัตราแลกเปลี่ยนตาม วันที่โอนเงินไปยังศูนย์รับฝากเงินกลาง (NSD) ซึ่งจะจ่ายให้กับเจ้าหนี้
การจะเสียเครดิตของรัสเซียในแง่ของระบบการเงินตะวันตกนั้นไม่สำคัญ เพราะการคว่ำบาตรทำให้รัสเซียไม่สามารถทำการค้าได้เหมือนที่เคยเป็นมาอยู่แล้ว บริษัทตะวันตกส่วนใหญ่ถอนตัวออกไปและไม่สามารถกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินของตะวันตกได้ ทำให้อันดับความน่าเชื่อถือของรัสเซียในฝั่งตะวันตก จะดีหรือไม่ย่อมไม่มีความหมาย และสถานการเงินการคลังของรัสเซียในปัจจุบันแข็งแกร่งพอไม่ต้องกู้ยืมจากตะวันตกแต่อย่างใด
ในแง่ผลกระทบต่อพันธมิตรของรัสเซีย เช่นจีน อินเดีย และพันธมิตรรายใหญ่อื่นๆ ไม่มีผลกระทบในทางลบ การค้าของรัสเซียกับพันธมิตร BRICS เติบโตขึ้นเกือบ ๔๐% ในไตรมาสแรกของปี ๒๕๖๕ จากที่ถึง ๑๖๔,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว คู่ค้าของรัสเซียมีความกระตือรือร้นที่จะเข้ามาแทนที่ธุรกิจตะวันตกในรัสเซียอย่างยินดี
ถ้ารัสเซียต้องการกู้เงิน ก็จะไปกู้จากสถาบันการเงิน เช่น BRICS New Development Bank หรือ NDB ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยประเทศสมาชิก บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดหาเงินทุนโครงสร้างพื้นฐานและโครงการพัฒนาในประเทศเกิดใหม่ นี่คือเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับรัสเซีย
นักวิเคราะห์การลงทุนรู้ดีว่าผู้ถือพันธบัตรรัสเซียอาจได้รับความเสียหายร้ายแรงจากการกระทำของตะวันตกและยื่นฟ้องต่อรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินดอลลาร์ของรัสเซียได้ มอสโกว์ชี้ให้เห็นว่าความพยายามที่จะผลักดันให้รัสเซียผิดนัดนั้นเป็นเพียงการบ่อนทำลายชื่อเสียงของระบบการเงินตะวันตกเองเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลต่อสถานะทางเศรษฐกิจในแง่ข้อเท็จเป็นจริงของรัสเซียแต่อย่างใด
หันมาดูความคืบหน้าสถานการณ์สู้รบในยูเครน ท่ามกลางการประชุมนาโต้ เซเลนสกี้ถึงกับโอดครวญว่า เวลานี้ยูเครนได้สูญเสียนายทหารถึง ๘๐% ทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต นอกจากนี้ กองทัพรัสเซียล่าสุดควบคุมภูมิภาคดอนบาสทั้งโดเนตสก์และลูฮันสก์ได้อย่างสมบูรณ์ขับไล่กองกำลังยูเครนถอยร่น ที่ยอมจำนนก็ได้รับการดูแลตามฐานะเชลยศึก ที่เป็นหน่วยหัวรุนแรงที่มีหลักฐานทรมานเชลยศึกของรัสเซีย ก็ถูกตัดสินไปตามผลกรรม
พล.ท.อิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย(Lieutenant General Igor Konashenkov) เปิดเผยว่า กองกำลังรัสเซียได้กำจัดกลุ่มทหารรับจ้างชาวจอร์เจีย ที่ต่อสู้ให้กองทัพยูเครน ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดและสังหารนักโทษรัสเซียก่อนหน้านี้
ล่าสุด กระทรวงกลาโหมของรัสเซียรายงานว่า กองทัพใช้ขีปนาวุธโจมตีโรงงานผลิตจรวดในเคียฟ ซึ่งถูกใช้เพื่อผลิตกระสุนสำหรับระบบจรวดยิงจรวดหลายระบบ
การโจมตีได้ดำเนินการในวันอาทิตย์ด้วยขีปนาวุธความแม่นยำสูงจำนวนสี่ลูก ซึ่งทั้งหมด โจมตีไปถึงโรงงานผลิตจรวดอาร์ตยอม (Artyom) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเชฟเชนคอฟสกี้ (Shevchenkovskiy) ของเคียฟ โดยไม่ทำให้โครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนในเมืองเสียหาย
มีรายงานว่าทางการในเคียฟพยายามสกัดกั้นขีปนาวุธที่มีความแม่นยำสูงของรัสเซียโดยใช้อาวุธต่อต้านอากาศยานที่ประจำการอยู่รอบเมือง ซึ่งรวมถึงระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน S-300 และ Buk M1 ซึ่งมีรายงานว่าปล่อยจรวด 10 นัดระหว่างการโจมตี
กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังระบุด้วยว่า เนื่องจากขาดการสื่อสารที่ชัดเจนระหว่างระบบป้องกันอากาศยานที่ตั้งอยู่ในเมือง ยูเครนได้ยิงจรวดเอส-300 สองลูก ซึ่งหนึ่งในนั้นตกลงบนอาคารที่พักอาศัย แต่ออกสื่อว่าเป็นขีปนาวุธของรัสเซีย นั่นคือรัสเซียยิงขีปนาวุธส่งตรงไปยังโรงงานผลิตอาวุธ ลูกที่ตกอาคารอพาตเม้นท์ชาวบ้านเป็นของยูเครนเอง