หาเรื่องเดือดร้อน! “บิ๊กCEOโปรนักลงทุนทองสหรัฐ” ซัดไบเดนยับ แบนทองรัสเซีย ย้อนทำร้ายชาวอเมริกันเอง!
จากกรณีที่มีรายงานว่า ที่ประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 แห่ง หรือ “จี 7” ซึ่งสมาชิกประกอบด้วย สหรัฐ สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี แคนาดา และญี่ปุ่น ร่วมด้วยสหภาพยุโรป (อียู) โดยเยอรมนีทำหน้าที่ประธานประจำปีนี้ ประกาศร่วมกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับมาตรการแบนทองคำจากรัสเซีย
โดยในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทองคำกลายมาเป็นสินค้าส่งออกสำคัญอันดับสองของรัสเซีย รองจากเชื้อเพลิง โดยรัสเซียครองสัดส่วนเกือบ 5% ของตลาดทองคำโลก คิดเป็นมูลค่าเกือบ 19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 674,158 ล้านบาท) เมื่อปี 2563 แต่ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 15,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 549,777.25 ล้านบาท) เมื่อปีที่แล้ว
ขณะที่ 90% ของทองคำที่ส่งออกจากรัสเซีย มีประเทศกลุ่มจี 7 เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุด โดยเฉพาะสหราชอาณาจักร ด้านสหรัฐซื้อทองคำจากรัสเซียเป็นมูลค่าไม่ถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 35.48 ล้านบาท) เมื่อปี 2563 และ 2564
ในขณะที่ต่อมาทางด้านของ ปีเตอร์ ชิฟฟ์ นักลงทุนทองคำ เขาเป็นที่รู้จักในฐานะผู้หลงใหลทองคำ และเกลียดชังบิทคอยน์ ได้โพสต์ข้อความตอบโต้แผนการนี้ใน Twitter ของเขาพร้อมแท็กหา ปธน. โจ ไบเดน โดยบอกว่า
“โจ ไบเดน หาเรื่องเดือดร้อนสู่อเมริกาอีกครั้ง มิใช่ ปูติน ที่จะเดือดร้อน แต่จะเป็นชาวอเมริกันที่จะต้องซื้อทองคำในราคาแพง, สิ่งที่ ไบเดน ทำลงไปจะกลายเป็นสร้างประโยชน์ไปเข้าทางปูติน (ปธน. รัสเซีย)”
แม้เขาจะไม่ได้อธิบายเหตุผลถึงความเห็นดังกล่าว แต่มีผู้ใช้งานทวิตเตอร์รายหนึ่งได้คอมเมนต์ขยายความเห็นว่า
ถึงแม้ กลุ่มประเทศ G-7 จะไม่ซื้อทองคำจากรัสเซีย แต่ประเทศอื่นก็ซื้ออยู่ดี โดยเฉพาะประเทศยักษ์ใหญ่อย่างจีน และจีนก็สามารถนำไปขายให้ประเทศอื่น ๆ โดยบวกราคาขึ้นไปอีก
สำหรับ นาย Peter Schiff เขาเป็นซีอีโอ Euro Pacific Capital และประธาน schiffgold.com และยังเป็นนายหน้าการลงทุนชาวอเมริกัน ผู้เขียน นักพยากรณ์เศรษฐกิจและที่ปรึกษาการลงทุนชาวอเมริกัน
กลยุทธ์ของเขาได้รับอิทธิพลอย่างมากจากตลาดเสรีออสเตรียสคูลออฟเศรษฐศาสตร์ เขาได้รับการยกย่องในการทำนายการล่มสลายของตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2550 และวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2551 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ความเชี่ยวชาญของเขาในเรื่องการเงินและทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ทำให้เขาเป็นที่ต้องการของนักพูดและนักวิเคราะห์ในฟอรัมต่างๆ มุมมองและการคาดการณ์ของเขาออกอากาศผ่านสื่อต่าง ๆ
ซึ่งก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ประกาศว่ารัฐบาลของเขาจะดำเนินการห้ามนำเข้าน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหินจากรัสเซีย เพื่อลงโทษที่รัสเซียยกทัพบุกโจมตียูเครน ซึ่งขณะนี้ สหรัฐต้องเผชิญกับราคาน้ำมันมีราคาพุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ค่าครองชีพของประชาชนสหรัฐฯ สูงขึ้นตามไปด้วย รวมทั้งเงินเฟ้อแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
ในขณะที่รัสเซียมีรายได้ถึง 93,000 ล้านยูโร หรือ 3.4 ล้านล้านบาท จากการส่งออกพลังงานในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยเดือนพฤษภาคม รัสเซียผลิตน้ำมันดิบไปทั้งสิ้น 43.1 ล้านตัน หรือคิดเป็น 10.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับปริมาณการผลิตในเดือนเมษายน และเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
