สมรภูมิยูเครนนับวันดุเดือดมากขึ้น ฝั่งของยูเครนมีแต่สูญเสียมากอย่างต่อเนื่องทั้งกำลังพล อาวุธและดินแดนฝั่งตะวันออก ยิ่งยืดเยื้อยิ่งสูญเสีย ในขณะที่สหรัฐและตะวันตกผ่านองค์กรนาโต้ สหภาพยุโรปต่างพากันยุให้สู้จนถึงที่สุดไม่เปลี่ยนแปลง ฝ่ายสหรัฐและยุโรปต่างพากันตั้งองค์กรประสานงานเพื่อการต่อสู้กับรัสเซียขึ้นมาแล้วในลักษณะคณะกรรมาธิการสงคราม ท่ามกลางการประชุม จึ-๗ และนาโต้ เรียกว่าแนวโน้มส่อเค้าเผชิญหน้ากันหนักขึ้นมากกว่าจะยุติเข้าสู่โหมดเจรจา แบบนี้อาจเรียกได้ว่า โลกกำลังอยู่ในโหมดของสงครามที่ไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว
วันที่ ๒๕ มิ.ย.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และสปุ๊ตนิกรายงานว่า ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์ของยูเครนออกมายอมรับว่า ยูเครนต้องยอม “ถอนทหาร” ออกจากเมืองซีวีโรโดเนสตก์ (Sievierodonetsk) หลังกองทัพรัสเซียบุกโจมตีอย่างหนักหน่วงมานานกว่า ๑ เดือนสามารถรุกคืบยึดพื้นที่ในเมืองแห่งนี้ได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
กองทัพรัสเซียยังอ้างว่าหน่วยที่ติดอยู่ได้สูญเสียพละกำลังไปแล้วกว่า 60% ตามรายงานของกระทรวงกลาโหม ทหารยูเครน 41 นายที่ล้อมรอบพื้นที่นั้นได้มอบตัวแล้ว กระทรวงกลาโหมยังได้เผยแพร่วิดีโอที่แสดงภาพผู้วางอาวุธ
อเล็กซี บาบเชนโคหัวหน้าฝ่ายบริหารทหารของยูเครน (The head of the Ukrainian Gorskoye military administration, Aleksey Babchenko)ยืนยันกับสื่อของยูเครนเมื่อวันศุกร์ที่ ๒๔ มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า เมืองนี้ถูกกองกำลังรัสเซียและกองกำลังติดอาวุธ Donbass ยึดอย่างเต็มที่แล้ว
เซอร์ฮีย์ ไกได (Serhiy Gaidai) ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์ ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อโทรทัศน์รัสเซียว่า “การรักษาฐานที่มั่นซึ่งถูกทำลายย่อยยับนานเป็นเดือนๆ เพียงเพื่อให้ได้ชื่อว่ายังอยู่ มันไม่เมคเซนส์”
เขายืนยันว่า ทหารยูเครนในซีวีโรโดเนตสก์ “ได้รับคำสั่งให้เคลื่อนพลไปยังฐานที่มั่นแห่งใหม่แล้ว แต่ไม่ได้บอกว่าทหารเหล่านั้นปฏิบัติตามคำสั่งหรือยัง และจะย้ายไปสถานที่ใด แต่ที่แน่ๆทิ้งเมืองไปแล้ว
ด้านเซอร์เก ชอยกู(Sergei Shoigu) รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของรัสเซียกล่าวรายงานเมื่อวันอังคารที่ ๒๑ มิ.ย.ที่ผานมาแล้วว่า กองกำลังของรัสเซียได้เข้าควบคุมพื้นที่ที่อยู่อาศัยของซีวีโรโดเนตสก์อย่างเต็มที่ รัฐมนตรีประกาศว่ากองกำลังรัสเซียขณะนี้กำลังควบคุม ๙๗% เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ลูฮันสก์ (Luhansk) ที่สงบสุขของอดีตสาธารณรัฐโซเวียตแล้วเช่นกัน
ชอยกูกล่าวกับที่ประชุมกระทรวงกลาโหมในการกล่าวสุนทรพจน์ทางโทรทัศน์ว่า “เขตที่อยู่อาศัยของเมืองซีวีโรโนเนตสก์ได้รับการปลดปล่อยอย่างเต็มที่”
ก่อนหน้านี้ กองทัพอากาศรัสเซียรายงานว่า ประสบความสำเร็จในการยิงปืนใหญ่ทำลายปืนครก M777 ของยูเครนที่ผลิตในสหรัฐฯ ในภูมิภาคคาร์คอฟ
ซีวีโรโดเนตสก์ถือเป็นปราการด่านสำคัญที่รัสเซียต้องยึดให้สำเร็จเพื่อบรรลุเป้าหมายควบคุมแคว้นลูฮันสก์ได้ทั้งหมด ปลดโซ่ตรวนที่ต้องรบกันซ้ำซากกับกองทัพอะซอฟแห่งยูเครนมาตั้งแต่ปี ๒๐๑๔ โดยจะยังเหลือเพียงเมืองคู่แฝด “ลีซีชานสก์” (Lysychansk) เท่านั้นที่ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครนอยู่
สาธารณรัฐลูฮันสก์และสาธารณรัฐโดเนตสก์คือ ๒ แคว้นทางตะวันออกของยูเครนที่รวมกันเป็นภูมิภาคดอนบาส เป็นพื้นที่ตั้งอยู่ในยูเครนตะวันออก โดยรัสเซียได้ประกาศรับรองเป็นทางการแล้วก่อนหน้าเปิดปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน
ปธน. โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ออกมายอมรับเมื่อเร็วๆ นี้ว่า “ในหลายๆ แง่มุม ชะตากรรมของภูมิภาคดอนบาสขึ้นอยู่กับผลการสู้รบที่นี่” และผลก็ออกมาชัดเจนแล้วว่า กองกำลังยูเครนต้องถอยร่นออกจากซีวีโรโดเนตสก์ในที่สุด
สถานการณ์ล่าสุดเช่นนี้ ทำให้ยูเครนเรียกร้องต้องการอาวุธชั้นสูงมากขึ้น ขณะที่มีรายงานว่าวอชิงตันหยุดขายโดรนรบเกรย์ อีเกิ้ล (Grey Eagle) ให้กับยูเครน เจ้าหน้าที่ทหารในเคียฟ จึงขอซื้อเครื่องบินขับไล่ เช่น F-15 และ F-16 แทน โดยกล่าวว่าพวกเขามีโอกาสที่ดีกว่าในการป้องกันระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซีย
นักบินคนหนึ่งบอกกับสื่อ Foreign Policy ในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ยูเครนไม่ใช่อัฟกานิสถานและโดรนราคาแพงจะถูกยิงจากรัสเซียไม่ช้าก็เร็ว
เจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญในสหรัฐฯ ที่เกษียณอายุจากกองทัพสหรัฐแล้ว แม็กซ์ บูท ( Max Boot)ได้ออกมาสนับสนุนให้ส่ง Grey Eagles ไปยังยูเครน เขาเชื่อว่าอาวุธชนิดนี้จะเป็นตัวเปลี่ยนเกม ทำให้ยูเครนได้เปรียบมากขึ้น ในความขัดแย้ง
อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวได้วางแผนที่จะส่งโดรนดังกล่าว ๔ ลำไปยังเคียฟแต่ถูกระงับเนื่องจากกลัวว่าพวกมันจะตกไปอยู่ในมือของรัสเซีย ทำเซเลนสกี้ฝันค้าง
ในปัจจุบัน กระบวนการทางการทูตระหว่างรัสเซียและยูเครนยังไม่ได้รับการฟื้นฟูอย่างจริงจัง มอสโกว์กล่าวว่าการเจรจาในอนาคตขึ้นอยู่กับสถานการณ์ “บนพื้นดินในสมรภูมิ” โดยเรียกร้องให้เคียฟคำนึงถึงเจตจำนงของประชาชนของตนเอง
เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าวถึงสถานการณ์นี้ว่า “มีพื้นที่โล่งใจอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระ ที่นั่นประชากรส่วนใหญ่ไม่แม้แต่คิดที่จะกลับไปอยู่ภายใต้การควบคุมของทางการ ที่เชิดชูลัทธิทหารสุดโต่งหรือกับไปถูกควบคุมโดยหน่วยงานที่มีอำนาจของยูเครนในทุกวิถีทางอีกต่อไป”
ตามรายงานของเครมลิน ยูเครนไม่ได้รับอนุญาตให้ยื่นข้อเสนอใดๆ เพื่อเริ่มต้นกระบวนการเจรจาใหม่ เพราะแรงกดดันจากฝ่ายตะวันตกที่ไม่สนับสนุนให้เจรจา แต่หนุนให้รบกับรัสเซียอย่างถึงที่สุด สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และประเทศอื่นๆ บางประเทศ หนุนเงินและอาวุธต่อเนื่องไม่หยุด ทั้งประณามการปฏิบัติการพิเศษ๋ทางทหารของรัสเซียในยูเครนว่าเป็น “การรุกราน” แต่มอสโกว์ได้ยืนยันซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ปฏิบัติการทางทหารเริ่มต้นขึ้นเพื่อตอบสนองต่อการขอความช่วยเหลือจากประชาชนดอนบาสที่ถูกปราบปรามทารุณตั้งแต่การรัฐประหารไมดานในปี ๒๐๑๔ และรัสเซียมีเป้าหมายที่จะ “ทำให้ยูเครนปลอดลัทธิทหารหัวรุนแรงและหยุดทำลายล้างชีวิตประชาชนเชิ้อสายรัสเซียในพื้นที่”