ยูเครนวืดเข้าอียูแน่? ยกบทเรียนกรีซ ตกแต่งบัญชีเข้า EU-เป็นหนี้มหาศาล ทำเจ๊งยกแก๊ง อังกฤษถึงกับขอลาออก!
จากกรณีที่มีรายงานว่า ในที่ประชุมผู้นำ 27 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) มีฉันทามติ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา รับรองสถานะผู้สมัคร ให้แก่ยูเครนและมอลโดวา
นายโฮเซป บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของอียู กล่าวถึงยูเครน ว่าการได้รับสถานะดังกล่าว บ่งชี้ว่า ยูเครน “เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอียู” และคือ “จุดเริ่มต้นของการเดินทางอันยาวนานร่วมกัน”
ขณะที่นายวีเซโวลอด เชนต์ซอฟ หัวหน้าคณะผู้แทนถาวรยูเครนประจำอียู กล่าวว่า มติของสหภาพถือเป็นการส่งสัญญาณโดยตรงไปยังรัสเซีย และทุกประเทศซึ่งเคยอยู่ภายใต้เงาของสหภาพโซเวียตด้วยว่า ไม่สมควรอยู่ภายใต้อิทธิพลของรัสเซียอีกต่อไป ส่วนรัฐบาลมอลโดวายกย่องให้เป็น “วันแห่งประวัติศาสตร์”
อย่างไรก็ตาม กลุ่มประเทศในคาบสมุทรบอลข่าน ที่ประกอบด้วย แอลเบเนีย บอสเนีย โคโซโว มอนเตเนโกร นอร์ทมาซิโดเนีย และเซอร์เบีย ซึ่งได้รับสถานะผู้สมัครเมื่อช่วง 1 ทศวรรษที่แล้ว ต่างแสดงความไม่พอใจ ต่อการที่กระบวนการอันล่าช้า
ล่าสุดทางเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว โดยอ้างอิงจาก Wall Street Journal ระบุว่าสหภาพยุโรป (European Union: EU) เป็นสหภาพทางเศรษฐกิจและการเมือง ประกอบด้วยสมาชิก 27 ประเทศ ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในทวีปยุโรป มีประชากรน้อยราว 500 ล้านคน คิดเป็น 6.4% ของประชากรโลกเท่านั้น
มีระบบกฎหมายเป็นมาตรฐานใช้บังคับในสมาชิก นโยบายประกันการเคลื่อนย้ายบุคคล สินค้า บริการและทุนอย่างเสรีในตลาดเดี่ยว กฎหมายด้านยุติธรรม กิจการในประเทศ นโยบายร่วมกันด้านการค้า เกษตรกรรม การประมง การพัฒนาภูมิภาค การควบคุมหนังสือเดินทางซใช้สกุลเงินยูโร มี GDP ภายใน 16.48 ล้านล้านดอลลาร์ มีองค์กรตัดสินใจหลัก 7 องค์กร คือ ที่ประชุมยุโรป คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป รัฐสภายุโรป คณะกรรมาธิการยุโรป ศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรป ธนาคารกลางยุโรป และศาลผู้สอบบัญชียุโรป
การสมัครเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป จะใช้เวลายาวนานแต่ไม่ผ่าน เช่น ตุรกี สมัครผ่านมา 23 ปีไม่ผ่าน , สาธารณรัฐมาซิโดเนีย สมัครผ่านมา 17 ปีไม่ผ่าน , แอลเบเนีย สมัครผ่านมา 8 ปี ไม่ผ่าน อื่นๆ เช่น เซอร์เบีย มอนเตเนโกร ก็ยังไม่ผ่าน ซึ่งการใช้เวลาพิจารณาใบสมัครยาวนาน 20 ปี เปลี่ยนรัฐบาลและผู้นำ 5 สมัย แล้ว EU แจ้งกลับว่า “ยังไม่ผ่านเกณฑ์” จึงถือเป็นเรื่องปกติ และจากกรณียูเครน ยื่นใบสมัครเข้าร่วมกลุ่มสหภาพยุโรป นั้นทาฃรัสเซีย ก็ระบุแล้วว่าไม่ยุ่งเกี่ยวเพราะไม่ใช่กลุ่มทำสงครามแบบ NATO
ล่าสุดที่ประชุม EU ได้รับใบสมัครที่ยูเครนยื่นแล้ว นับแต่นี้ยูเครน จะต้องทำตามหลักเกณฑ์ที่เข้มงวดของ EU เช่น ปัจจัยทางเศรษฐกิจ จะต้องไม่มีหนี้สินล้นพ้นตัวต่างชาติจนใกล้ล้มละลาย เพราะ EU เคยมีบทเรียนที่เจ็บปวดจากกรณีประเทศกรีซ ที่ตบแต่งบัญชี เมื่อรับเข้ากลุ่มแล้วก็เกิดการล้มละลายทางเศรษฐกิจ ทาง EU ต้องระดมกันเอาเงินไปช่วย จนจะพากันเจ๊งยกกลุ่ม อังกฤษ ถึงกับตัดช่องน้อยหนีหายนะ ลาออกจาก EU ไปจนถึงปัจจุบัน
แต่ปัจจุบันยูเครน เป็นหนี้สหรัฐ และยุโรป แล้วประมาณ 70,000 ล้านดอลลาร์ แต่มีรายได้เฉลี่ยแค่เดือนละ 680 ล้านดอลลาร์ แถมหนี้สินเงินต้น ดอกเบี้ย ค่าซื้ออาวุธยังพอกหางหมูตลอดเวลา ส่วนพื้นที่เศรษฐกิจ อุตสาหกรรม เกษตรกรรม ทรัพยากร ท่าเรือ ที่เคยทำรายได้ราว 75% ของ GDP ก็แยกเอกราชไปเป็นสาธารณะรัฐโดเนตสก์ , ลูฮันสก์ ไปแล้วแถมยังมีจ่อคิวตามมาอีกหลายพื้นที่ ทำให้ยูเครน ส่วนที่เหลือมีรายได้แค่ 25% ของ GDP เมื่อก่อนเท่านั้น จึงตกเกณฑ์เศรษฐกิจ
ปัจจัยทางการเมืองต้องมีพรรคการเมืองเสรี ปัจจุบันผู้นำยูเครน ใช้อำนาจยุบพรรคฝ่ายค้าน 11 พรรคไปหมดแล้ว จึงสอบตกเกณฑ์ปัจจัยการเมืองเสรี , ปัจจัยกฎหมายที่เข้มแข็ง ตามระบอบประชาธิปไตย ปัจจุบัน รัฐบาลยูเครน จับตัวฝ่ายค้านขังคุก หรือกักบริเวณในบ้าน โดยที่ศาลยังไม่เคยตัดสินความผิด , การสั่งปิดสำนักงานสื่อที่เสนอความจริง , การออกกฎหมายให้ชาวยูเครน หมิ่นชาวยิวต้องโทษจำคุก 5 ปี จึงสอบตกเกณฑ์กฎหมายประชาธิปไตยชัดแจ้ง , ปัจจัยจัดการกับปัญหาคอร์รัปชั่น ที่ผ่านมาองค์กรมาตรฐานจัดอันดับให้ยูเครน ทุจริตมากที่สุดอันดับ 2 ของโลก เรียกรับสินบนกันสากเบือยันเรือรบเคยชินทุกระดับ ผู้นำยูเครน มีทรัพย์สินรวมราว 1,000 ล้านดอลลาร์ จึงสอบตกเกณฑ์นี้
ปัจจัยด้านละเมิดสิทธิมนุษยชน อันนี้หนักเลย เพราะรัฐบาลยูเครน ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวสลาฟยูเครนไปแล้วกว่า 14,000 ราย ปัจจุบัน ก็ยังยิงปืนใหญ่ถล่มพลเรือนในดอนบาส เสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมทั้งการเกณฑ์ทหารเด็ก เยาวชน ไปรบแนวหน้า สอบตกแน่นอน , ปัจจัย ความสงบเรียบร้อยปราศจากสงคราม อันนี้ไม่ต้องพูดถึง ถ้ายังไม่ประกาศขออาวุธจากต่างชาติทุกวัน และไม่ยอมเจรจาให้แยกดินแดนเป็นอิสระภาพ ประชาชนในเขตนั้นเขาก็ทำสงครามต่อสู้กับยูเครน อยู่แบบนี้อาวุธก็ใช้ของ NATO ที่ส่งไป ขาดเหลือรัสเซีย ก็โอนอาวุธมาให้ จึงสอบตกเกณฑ์ความสงบ
ส่วนรัสเซียนั้น จากภาวะร่ำรวยผิดปกติจากรายได้นำเข้ามหาศาลต้องกระจายเงินออก ทำให้กองทัพรัสเซีย ปรับเพิ่มเงินเดือนให้ทหารรับจ้างอดีตชาวยูเครน และพันธมิตร เดือนละ 216,000 รูเบิล (4,000 ดอลลาร์ ราว 141,338 บาท) และหากทำลายเครื่องบิน และรถถังฝ่ายยูเครนได้ก็จะได้โบนัสเพิ่มเติมอีก และจะช่วยจ่ายหนี้เงินกู้ยืมให้ทันทีในวันเซ็นสัญญาไปรบอีกด้วย , ด้านประธานาธิบดี เซเลนสกี้ แห่งยูเครน ประกาศผ่านไลฟ์โซเชียลว่า “เราจะเอาชนะอย่างแน่นอน อนาคตของยูเครนอยู่ในสหภาพยุโรป”..ยูเครน สู้ต่อไป ชนะคว้าลมแน่นอน
