นี่ถึงได้เรียกว่าเล่นการเมืองเมื่อ 5พรรคเล็ก 8 เสียงออกมาตั้งกลุ่มชื่อว่า นักชน มีความน่าสนใจในขณะเดียวกันก็น่าสะพรึงอยู่ไม่น้อยสำหรับรัฐบาลที่เสียงค่อนข้างจะปริ่มน้ำอยู่แล้วยิ่งอยู่ยากลำบาก
ถามว่าทำไมถึงอยู่ยากก็เพราะ8เสียงที่ว่านี้ หากถอนยวงออกไปก็จะทำให้รัฐบาลตกสภาพกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยทันที หรือถ้า8เสียงหันไปซบฝ่ายค้าน นั่นก็ต้องถือว่าจบเห่กันไปเลยทีเดียว!?!
13 พ.ย.62 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พูดถึงพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคเกิดความระหองระแหงจนอาจทำให้รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพว่า “ผมไม่เห็นมีเลย ใครหรือ ผมยังไม่เห็น ได้ข่าวอะไรเลย” เมื่อถามว่า แต่มีบางพรรคร่วมรัฐบาลระบุว่าอาจจะไม่ร่วมโหวตในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายกฯ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ ประชาธิปไตยก็เป็นแบบนี้
ถามย้ำว่า นายกฯยังยืนยันหรือไม่ว่ารัฐบาลยังมีเสถียรภาพ และไม่มีรอยร้าว นายกฯ กล่าวว่า “ก็ผมยังไม่เห็นมีเรื่องราวอะไร แต่ละคนก็ยังพูดคุยกันดีอยู่ มีการปรึกษากันดี ก็คงเป็นในเรื่องของสื่อโซเชียลอะไรพวกนี้ ก็ว่ากันไป
เมื่อถามว่า นายกฯยังคงมั่นใจในความเป็นพรรคร่วมที่จะเดินหน้าร่วมกันต่อไปใช่หรือไม่ นายกฯ ก็กล่าวว่า “ผมบังคับพวกท่านไม่ได้อยู่แล้ว ก็แล้วแต่ท่าน” เมื่อถามถึงกรณี 5 พรรคเล็ก เริ่มเคลื่อนไหวต่อรองอีกครั้ง หากรัฐบาลไม่สามารถชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้จะโหวตสวนรัฐบาล
ซึ่งคำถามนี้ทำให้นายกฯบิ๊กตู่ กล่าวว่า ก็แล้วแต่เขา ประเทศชาติอยู่ตรงไหนตนก็ไม่รู้เหมือนกัน วันนี้เขามองประเทศชาติอยู่ตรงไหนล่ะ จะเดินเกมการเมืองกันอย่างเดียวก็ตามใจท่าน ประชาชนก็จะรู้เองว่า เลือกกันมาแล้วทำประโยชน์กันบ้างหรือเปล่า ตนก็ไม่รู้เหมือนกัน
เมื่อถามย้ำว่า ดูเหมือนเป็นพฤติกรรมต่อรองทุกครั้งในการใช้เสียงรัฐบาล นายกฯ ตอบว่า “ไม่มีหรอก มาต่อรองอะไรผมไม่ได้อยู่แล้ว ยืนยันว่าไม่กังวลอะไรกับเรื่องเหล่านี้ ผมทำงานของผมให้ดีที่สุด แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องยอมรับมัน ประเทศก็ต้องรับไปด้วย ประชาชนก็เดือดร้อนไปด้วย รับไปด้วย ผมก็ทำของผมดีที่สุดแล้วแหละ”
นั่นคือ คำตอบจากคำถามที่ว่า ถ้า5พรรคเล็ก8เสียงต่อรองจะสร้างความหวั่นไหวให้กับเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งแม้บิ๊กตู่จะยืนยันในความมั่นคง แต่ในความเป็นจริงย่อมไหวหวั่นต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแน่นอน ???
13 พ.ย.62 – นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ตอบคำถามถึงอนาคตจะมีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมกับกลุ่ม 5 พรรคหรือไม่ โดยนพ.ระวี กล่าวว่า ในวันนี้ตนและพรรคพลังธรรมใหม่ยังเชื่อว่า สามารถทำงานร่วมกับรัฐบาล เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและประเทศชาติได้อยู่
12 พ.ย.62 รีเพลย์กลับไปหนึ่งวัน ที่บ้านพักนายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท มีการจัดงานคล้ายวันเกิดครบรอบ 76 ปี โดยมีแกนนำ 4 พรรคเล็กเข้าร่วมอวยพรวันเกิดและหารือแนวทางการทำงานการเมืองร่วมกันได้แก่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรม นายปรีดา บุญเพลิง หัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า มีการคุยกัน 2-3 เดือน สุดท้ายมารวมกลุ่ม 5 พรรคเล็ก 8 เสียง ชื่อว่ากลุ่ม “นักชน” เพื่อวางแนวทางในการทำงานร่วมกัน ในประเด็นสำคัญ เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะมีรัฐมนตรีหลายกระทรวงทำงานมีปัญหาหลากหลาย ซึ่งเราจะดูข้อมูลฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายรัฐมนตรีคนไหนมีการทุจริต รวมทั้งการอภิปรายนายกรัฐมนตรี
ซึ่งเราจะลงมติไปในแนวทางเดียวกัน โดยมติดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล แต่เป็นมติกลุ่ม และไม่ได้อยู่ในส่วนของฝ่ายค้านอิสระ ฝ่ายค้านอิสระยังมี 2 เสียงเหมือนเดิม เพียงแต่เราทำงานร่วมกัน
สมมุติเวลาลงมติเราจะมีการมาหารือกันว่าจะลงมติแบบไหน เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยจะมีการหารือร่วมกันทุกวันจันทร์ ช่วงบ่าย ที่บ้านพักนายชัชวาลล์ รัฐบาลจะคว่ำหรือไม่คว่ำก็อยู่ที่กลุ่มนี้แหละ” นายมงคลกิตติ์ กล่าว
ขณะที่นายชื่นชอบ คงอุดม โฆษกพรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวว่า ที่ผ่านมาแม้พรรคพลังท้องถิ่นไทจะสนับสนุนรัฐบาล แต่ก็เป็นพรรคการเมืองเล็ก ทำให้ไม่มีพลังในการผลักดันสิ่งที่คิดให้เป็นรูปธรรม การร่วมมือการทำงานครั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่ดี
ต่อมา นายชัชวาลล์ กล่าวถึง ส.ส. 8 คน จาก 5 พรรคเล็ก เพราะที่ผ่านมานโยบายพรรคเล็กยังไม่ได้รับการผลักดันจากรัฐบาลเท่าที่ควร อย่างพรรคพลังท้องถิ่นไทจะผลักดันเรื่องท้องถิ่น การแก้ปัญหายาเสพติดให้เห็นผล ถ้าเรามี 8 เสียงยังไงรัฐบาลก็ต้องฟังเราบ้าง แต่ยืนยันว่าไม่ใช่การรวมกลุ่มกันเพื่อล้มรัฐบาล แค่ต้องการผลักดันนโยบายแต่ละพรรคให้เห็นผล
นอกจากนี้ นายชัชวาลล์ ยังกล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า หลังจากนี้ 5 พรรคเล็กจะประชุมกันทุกวันจันทร์ที่บ้านของตน แต่ยังไม่ได้ตั้งชื่อกลุ่มว่าจะใช้ชื่ออะไร การลงมติของ 5 พรรคเล็กจะไปในทางเดียวกัน จะมาหารือกันก่อนที่จะลงมติทุกครั้ง
กระนั้นไฮไลที่สำคัญ อยู่ที่คำถามว่า 5 พรรคเล็กพร้อมจะโหวตสวนมติของรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งนายชัชวาลล์ ตอบว่า หากเป็นเรื่องดีก็พร้อมสนับสนุน แต่ถ้าเป็นเรื่องไม่ดี ก็ให้ไม่ได้ อย่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าฟังแล้วเห็นว่ารัฐมนตรีชี้แจงได้มีเหตุผล จะยกมือให้ แต่ถ้าตอบไม่ดี เหตุผลฟังไม่ขึ้น ก็เอาไว้ไม่ได้ จะไปสวนความรู้สึกประชาชนได้อย่างไร
สำหรับ กลุ่ม “นักชน” ถ้าฟังจากท่าทีของแกนนำ5พรรคที่ว่านี้แล้ว พอจะเห็นว่ามาจากกลุ่มการเมืองที่ไม่ได้รับการประสานมาจากรัฐบาลที่ผ่านมาเท่าที่ควร ทำให้การพิจารณาโหวตญัตติสำคัญๆ หลังจากนี้ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะรัฐบาลลุงตู่มีสิทธิ์คว่ำทั้งลำเรือได้ง่ายๆ
โดย 5 กลุ่มพรรคการเมืองขนาดเล็ก จำนวน 8 ส.ส. ประกอบด้วย 1.นายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย (1 เสียง) 2.นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย (2 เสียง) 3.นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ (1 เสียง) 4.นายปรีดา บุญเพลิง หัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน (1 เสียง) และ 5.นายชัชวาลย์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท (3 เสียง)
และหากแยกย่อย 5 พรรค 8 เสียง ก็จะเห็นว่าเป็นการควบรวม 2 เสียงจาก “ฝ่ายค้านอิสระ” คือ “ไทยศรีวิไลย์ กับ ประชาธรรมไทย” และอีก 6 เสียงจาก “ฝ่ายรัฐบาลอิสระ” ที่มาจาก “รักษ์ผืนป่าประเทศไทย พลังท้องถิ่นไท และครูไทยเพื่อประชาชน” ที่เคยร่วมงานกับรัฐบาล แต่ไม่ได้ตำแหน่งใดๆ ทางการเมือง
เช่นนั้นแล้ว ยิ่งจะเห็นใช่หรือไม่ว่า กลุ่มนักชน พร้อมชนแค่ไหน โดยดูได้จากงานแรก ซึ่งน่าจะเป็นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านที่จะยื่นต่อสภาฯ ที่มีรัฐมนตรีถูกจองกฐินในเวทีซีกฟอกไว้แล้ว และนายมงคลกิตติ์เองก็ประกาศดังๆชัดๆ รัฐบาลจะคว่ำหรือไม่คว่ำจะอยู่ที่กลุ่มนี้
อย่างไรก็ตามเสียงของรัฐบาลและฝ่ายค้าน ขณะนี้ก็ยังมีความเปลี่ยนแปลงกันอยู่ หากย้อนไปเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 62 ที่นายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย ประกาศนำพรรคแยกตัวจากรัฐบาลไปอยู่เป็นฝ่ายค้านอิสระร่วมกับนายมงคลกิตติ์ ทำให้จำนวนเสียง เป็นดังนี้
ณ วันที่ 6 กันยายน 2562 ทำให้ฝ่ายรัฐบาลมี 252 เสียง ฝ่ายค้าน 246 เสียง และฝ่ายค้านอิสระ 2 เสียง
24 ตุลาคม 2562 ผลการเลือกตั้งซ่อม เขต 5 จ.นครปฐม นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา ชนะอย่างท่วมท้น ถูกมองว่าทำให้เสียงรัฐบาลในสภามีเสถียรภาพมากขึ้น
31 ต.ค.62 ศาลจังหวัดพัทยา นัดอ่านคำพิพากษา ศาลฎีกาคดีแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำพากลุ่มคนเสื้อแดงบุกล้มการประชุมอาเซียนที่โรงแรมรอยัลคลิฟบีชรีสอร์ท เมืองพัทยา เมื่อวันที่ 11 เม.ย.2552 โดยมี พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ รวมอยู่ด้วย
แต่จำเลยได้ยื่นคำร้องขอถอนคำให้การต่อศาลฎีกา เปลี่ยนเป็นรับสารภาพ ทำให้ยังไม่ได้รับโทษจำคุก 4 ปี ดังนั้นศาลจึงเลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไปเป็นวันที่ 3 ธ.ค.62
13 พ.ย.62 ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัย หลัง กกต.ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า นายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98 (6) หรือไม่ หลังศาลจังหวัดขอนแก่นพิพากษาลงโทษประหารชีวิต ในคดีจ้างวานฆ่านายสุชาติ โคตรทุม ปลัด อบจ.ขอนแก่น และให้คุมขังนายนวัธ ไว้ระหว่างอุทธรณ์ฎีกา
โดยศาลรัฐธรรมนูญวินิฉัยว่า นายนวัธ พ้นสภาพ ส.ส. สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98 (6) นับตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง คือวันที่ 16 ตุลาคม 2562 พร้อมทั้งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง จัดเลือกตั้งใหม่แทนตำแหน่งที่ว่างภายใน 45 วัน นับตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย
9 พ.ย. 62 มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจหลังจากที่มีข่าวว่าฝ่ายค้านเตรียมเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในเร็ววันนี้ ขณะที่เนชั่นสุดสัปดาห์ ได้อ้างถึงแหล่งข่าวการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ฝ่ายค้านจะยื่นเป็นรายบุคคล เพราะอาจมีสส.บางคนในพรรคร่วมไม่พอใจกับการชี้แจงของรัฐมนตรี
ถามว่า ฝ่ายค้านจองกฐินใครบ้าง จากรายชื่อที่หลุดออกสื่อก่อนหน้านี้ ซึ่งคนสุดท้ายที่ฝ่ายค้านเคาะชื่อไว้เบื้องต้นคือ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ฝ่ายค้านแยกออกเป็น 2 ประเด็นคือ กรณีบริหารงานในกระทรวง และในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลจากภูมิใจไทย
หากฝ่ายค้านเคาะตามนี้ก่อนยื่นญัตติในวันที่ 6 ธันวาคม เท่ากับว่า ศักดิ์สยาม เป็นคนเดียวที่อยู่นอกพรรคพลังประชารัฐ และเมื่อถามว่าความผิดของ นายศักดิ์สยาม มีแค่ไหน ฝ่ายค้านตอบกับเนชั่นสุดสัปดาห์ว่า มีมาก โดยจะเน้นไปที่อภิมหาโปรเจ็กต์โครงการยักษ์ทั้งหลาย
ฝ่ายค้านจะเปิดแผลความไม่ชอบมาพากลในการบริหารงานในกระทรวงฯของศักดิ์สยาม ที่เกี่ยวพันกับผลประโยชน์ของบริษัทเอกชน ทั้งในอดีตและปัจจุบัน “หากชั่งน้ำหนักและมีหลักฐานตอนนี้ ยกให้ ศักดิ์สยามเป็นเบอร์ 1 เรารอข้อมูลเพิ่มเติม จะเคาะกันอีกครั้ง” แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยกล่าวกับเนชั่นสุดสัปดาห์
12 พ.ย. 62 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า มีพรรคแกนนำรัฐบาลอยากปรับคณะรัฐมนตรี โดยมีมือที่มองไม่เห็นพยายามเขย่านายศักดิ์สยามนั้น
ช่วงหนึ่งนายอนุทิน กล่าวว่า ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับนายศักดิ์สยาม ก็ต้องเอาตนออกไปด้วย เรามาด้วยกันก็ต้องไปด้วยกัน
เมื่อถามย้ำว่า ถ้าจะเอานายศักดิ์สยาม ออกจากรมว.คมนาคม หมายความว่าต้องเอาคนที่ชื่ออนุทินออกไปด้วยใช่หรือไม่ ซึ่งนายอนุทิน กล่าวว่า แน่นอน เพราะตนมั่นใจในความตั้งใจและความทุ่มเทของเลขาธิการพรรคของตน
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้จึงถูกตั้งข้อสังเกต วิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงการวิเคราะห์ไปถึงขั้นที่ว่า พรรคภูมิใจไทยถึงขนาดอาจจะขอถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลหรือไม่??? กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทั้งยังมีการคาดเดาไปถึงกรณีงูเห่าในการลงคะแนนเสียงในสภาฯ เพราะอย่าลืมว่า ก็เพิ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้?!?
จึงอยากจะให้ข้อสังเกตตรงนี้ว่า งานนี้อาจเกิดงูเห่าอย่างแน่นอน ทั้งจากสองฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟากพรรคร่วมฝ่ายค้านที่เกิดขึ้นมาแล้วทั้งการโหวตพรก.โอนกำลังพลฯ และพรบ.งบประมาณ ที่มีการลงให้ฟากรัฐบาล และที่สำคัญแกนนำบางคนในรัฐบาลก็เคนออกมาพูดในเชิงมั่นใจในเสถียรภาพ ซึ่งหมายรวมถึงเสียงที่บอกว่าได้มีการพูดคุยกันไว้บ้างแล้วนั่นเอง???
นั่นคือสภาพการณ์ความมีอยู่ของจำนวนสส.จากทั้งสองฝ่าย จะเห็นว่า ฝ่ายรัฐบาลได้ที่นครปฐมมาหนึ่งเสียง แต่ก็มีโอกาสสูงที่จะเสียไปก่อนหนึ่งเสียงจากกำแพงเพชร ขณะที่ฝ่ายค้านเสียไปจากนครปฐม หนึ่งเสียง และที่ขอนแก่นจะต้องจัดเลือกตั้งใหม่ ก็ยังไม่รู้ว่าผลจะออกมาอย่างไร???
กระนั้นประเด็นสำคัญจึงอยู่ที่ 8 เสียงของ5พรรคเล็ก เพราะถ้ายึดเอาตัวเลขรัฐบาลมี 252 เสียง ฝ่ายค้าน 246 เสียง และฝ่ายค้านอิสระ 2 เสียง หาก6เสียงจากฝ่ายรัฐบาลอิสระหลุดออกไปจะทำให้ รัฐบาลหดเหลือ 246 เสียงทันที ขณะฝ่ายค้านชั่วโมงนี้จะเหลือ 244 เสียงไม่นับนายธนาธร และหนึ่งเสียงที่เพิ่งเสียไปที่นครปฐม
ฉะนั้นตัวเลข 246เสียงจึงเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยทันที เพราะมีไม่ถึงกึ่งหนึ่งของสภาฯนั่นคือ 251 เสียง นั่นก็หมายความว่า ในการโหวต การลงมติใดๆก็แล้วแต่รัฐบาลมีความเสี่ยงปานจะขาดใจตายกับตัวเลขนี้ ดังนั้นจึงไม่ผิดถ้าจะบอกว่า ถ้าอยู่ในสภาพนี้รัฐบาลบิ๊กตู่ได้ยืนอยู่บนปากเหวแล้ว ทำได้เพียงอาศัยงูเห่าที่เลื้อยมาช่วยชีวิตแบบรอดตายไปครั้งๆไปเท่านั้น !?!