หลังจากที่เยอรมนีออกมาเปิดเผยว่า กำลังจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างแน่นอน หากว่ารัสเซียหยุดจ่ายอุปทานก๊าซธรรมชาติโดยสิ้นเชิง จากคำเตือนขององค์กรอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง ในขณะที่อิตาลีเผยว่ากำลังพิจารณามอบแรงสนับสนุนทางเงิน ช่วยบริษัทต่าง ๆ เติมเต็มคลังสำรองก๊าซ เพื่อหลีกเลี่ยงเจอวิกฤตเลวร้ายในช่วงฤดูหนาว หากรัสเซียตัดก๊าซแบบ 100 % ทำให้ขณะนี้ หลายประเทศในยุโรปต่างวิกฤตมาก เมื่อต้องเร่งหาแหล่งพลังงานมาทดแทน ในช่วงที่ฤดูหนาวกำลังจะมาถึง
ล่าสุดมีรายงานว่า ระบุว่า สาธารณรัฐเช็ก ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศโซนยุโรปประกาศก้อง ว่า ในฤดูหนาวนี้ เราจะเผาทุกอย่างที่เผาได้เพื่อให้ประชาชนของเราอุ่นสบาย เมื่อพูดถึงพลังงานและสิ่งแวดล้อม การจัดลำดับความสำคัญของประธานสหภาพยุโรปของสาธารณรัฐเช็กมีความชัดเจน โดยจะเน้นที่ความมั่นคงด้านพลังงานและทำลายการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลของรัสเซียของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สำคัญมากกว่าการเปลี่ยนผ่านเพื่อสิ่งแวดล้อม
“หากมีการตัดแก๊ซในฤดูหนาวนี้ เราจะเผาทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้คนของเราอบอุ่นและผลิตไฟฟ้า” โดยเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็กกล่าวก่อนการเริ่มต้นของตำแหน่งประธานสหภาพยุโรปของสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 1 กรกฎาคม เป็นระยะเวลาหกเดือน
ในช่วงที่ประเทศของเขาเป็นประธานสหภาพยุโรป เป้าหมายหลักของกลุ่มคือ การกักเก็บก๊าซให้เพียงพอในช่วงฤดูหนาว โดยประเทศในยุโรปต้องลงนามในสัญญาระยะยาว (15-20 ปี) กับประเทศผู้ผลิต LNG ซึ่งคณะกรรมาธิการยุโรปไม่เคยคิดที่จะเซ็นสัญญาระยะยาวมาก่อน แต่จากข้อมูลที่มีสถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว
“คุณจะไม่ได้ยินเรื่องนั้นจากผู้บริหารเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว หรือครึ่งปีที่แล้ว หรือสี่เดือนก่อน มีความเข้าใจชัดเจนว่าประเทศสมาชิกจำเป็นต้องอยู่รอด รัฐบาลจำเป็นต้องอยู่รอดในฤดูหนาว”
ส่วนความตั้งใจที่จะผลักดันการเปลี่ยนแปลงของสหภาพยุโรป สู่ ‘พลังงานสะอาด” นั้น เมื่อต้นเดือนนี้ สมัชชาของสหภาพยุโรปได้ปฏิเสธชุดกฎหมายที่จะปฏิรูปตลาดคาร์บอนเพื่อจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอุตสาหกรรม โดยตีกลับให้ฝ่ายนิติบัญญัติปรับปรุงให้ประนีประนอมมากขึ้น “การเปลี่ยนแปลงจะยากและซับซ้อน แต่เราจะชนะ และผู้ชนะคือเทคโนโลยีสะอาด จะใช้เวลาสักระยะและห้าปีต่อจากนี้