เยอรมันต้านไม่อยู่! ขุดเปิดโรงถ่านหินเก่า สต็อกฤดูหนาว ขณะอิตาลีเข้าคิวใช้ด้วย ไม่แคร์EUห้ามเหตุมีมลพิษ
จากกรณีที่บริษัทก๊าซพรอมของรัสเซียประกาศลดการส่งมอบก๊าซธรรมชาติผ่านท่อส่งก๊าซใต้ทะเลนอร์ด สตรีม 1 ให้กับเยอรมนี โดยเบื้องต้นก๊าซพรอมประกาศลดการจัดส่งก๊าซ 40% และวันถัดมาก็ประกาศลดการส่งมอบก๊าซเพิ่มเติมรวมทั้งสิ้นคิดเป็นประมาณ 60%
ก๊าซพรอมให้เหตุผลเรื่องการลดการส่งมอบก๊าซธรรมชาติให้กับเยอรมนีครั้งนี้ว่าเป็นเพราะปัญหาทางเทคนิค โดยระบุว่ากรณีที่แคนาดาคว่ำบาตรรัสเซียจากประเด็นสงครามในยูเครนได้ขัดขวางบริษัทซีเมนส์ เอนเนอร์จี ซึ่งเป็นพันธมิตรในเยอรมนีจากการส่งมอบอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการซ่อมบำรุงท่อส่งก๊าซ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเยอรมนีไม่ยอมรับเหตุผลดังกล่าว โดยระบุว่าก๊าซพรอมไม่ควรประสบปัญหาเรื่องการซ่อมบำรุงท่อก๊าซจนกระทั่งฤดูใบไม้ร่วง และการตัดสินใจของรัสเซียนั้นเป็นเพียงเล่ห์กลทางการเมืองเพื่อสร้างความไม่แน่นอนและดันราคาพลังงานให้พุ่งสูงขึ้น
ในขณะนายฮาเบกระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย “ทำในสิ่งที่เราวิตกกังวลกันมาตั้งแต่แรก โดยเขาลดปริมาณส่งออกก๊าซไม่ใช่ในคราวเดียว แต่ลดแบบค่อยเป็นค่อยไป” โดยอ้างอิงถึงกรณีที่รัสเซียลดการส่งออกอุปทานพลังงานให้กับบัลแกเรีย เดนมาร์ก และประเทศอื่น ๆ ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ การลดการส่งมอบก๊าซธรรมชาติดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่เยอรมนีและประเทศอื่น ๆ ในยุโรปพยายามลดการพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย โดยเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรป อาศัยก๊าซจากรัสเซียเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมและผลิตไฟฟ้าประมาณ 35%
ล่าสุดทางเพจ World Maker ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ เยอรมนีเตรียมเปิดใช้โรงถ่านหินเก่าหลังโดนรัสเซียตัดก๊าซ โดยมีรายละเอียดระบุว่า หลังจากโดนเฮียปูตัดก๊าซไป -60% ตอนนี้แรงกระแทกได้กระเทือนไปทั่วยุโรปกันเลยทีเดียว ทำเอาล่าสุดรัฐบาลเยอรมนีต้องเตรียมผ่าน ‘กฏหมายฉุกเฉิน’ เพื่อกลับไปเปิดใช้งานโรงถ่านหินเก่าอีกครั้ง เพราะจะต้องสำรองแหล่งพลังงานเอาไว้ในหน้าหนาวนี้
นอกจากนี้ จะมีการดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อจูงใจให้ธุรกิจและผู้บริโภคลดการใช้พลังงานลง เนื่องจากตอนนี้จำเป็นต้องเพื่อ Stock เอาไว้ในยามฉุกเฉินเด้อ ! ขณะที่ทางออสเตรียก็เป็นอีกประเทศที่เตรียมแผนเปิดโรงถ่านหินเก่าไปแล้วด้วย
ส่วนทางอิตาลี คาดว่าอีกไม่กี่วันนี้ก็จะประกาศตามมา เรียกได้ว่างานนี้พลังงานสะอาดค่อยว่ากัน ขอหาทางรับมือความหนาวที่ใกล้เข้ามาก่อน แน่นอนว่า แผนนี้ขัดแย้งกับนโยบายทางด้านสภาพอากาศของเยอรมนีและอีกหลายประเทศใน EU โดยสิ้นเชิง เนื่องจากแผนดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะเลิกใช้ถ่านหินภายในปี 2030 เนื่องจากถ่านหินนั้นเป็นพลังงานที่ ‘ปล่อยมลพิษสูงมาก’
ทั้งนี้ เยอรมนีมีสัดส่วนการนำเข้าก๊าซจากรัสเซียสูงถึง 55% ของ Demand ทั้งหมดภายในประเทศ ดังนั้นการโดนตัดก๊าซไปถึง -60% จึงถือเป็นเรื่องใหญ่มาก และทำให้ราคาก๊าซพุ่ง 60% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตอนนี้ราคาก๊าซอยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์แล้ว ส่งผลให้วิกฤตค่าครองชีพรุนแรงขึ้นไปอีก
ตอนนี้ระดับ Stock ก๊าซของเยอรมนีอยู่ที่ราว ๆ 56% และจะต้องหาทางเติมเต็มโดยด่วน ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวว่าที่ระดับ Stock 90% นั้นจะสามารถครอบคลุมการบริโภคตามปกติได้เพียง 2-3 เดือนในฤดูหนาว หากโดนรัสเซียตัดก๊าซทั้งหมด นั่นทำให้ยุโรปต้องวางแผนกันอย่างหนักว่า ตอนนี้จะหาทางเลือกอื่นมาทดแทนพลังงานของรัสเซียได้อย่างไร หรือว่าจะยอมกลับไปง้อรัสเซียดี ๆ กันแน่ ?
ทางฝั่ง Leyen ล่าสุดออกมาโวย ย้ำไม่ให้ประเทศต่าง ๆ ละทิ้งเป้าหมายด้านพลังงานสะอาด (ลดการปล่อยคาร์บอน) เพราะไม่อย่างนั้นจะหมายถึงการที่ EU กลืนน้ำลายตัวเอง (ซึ่งการกลับไปเปิดโรงถ่านหินก็คล้าย ๆ กัน)
ความเคลื่อนไหวของรัสเซียครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากสหภาพยุโรปประกาศแผนการ “REPowerEU” ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย โดยการขยายแหล่งก๊าซ ขยายกำลังการผลิตจากพลังงานลมและแสงอาทิตย์ ซึ่งทางปูตินเห็นแบบนี้แล้วก็อาจจะอยากช่วยเร่งให้อีกทาง ??
ทั้งนี้ Leyen ตั้งความหวังว่าสหภาพยุโรปจะมีการจัดหาก๊าซจากน่านน้ำของอิสราเอล ไซปรัส และอียิปต์ ซึ่งอาจกลายมาเป็น Supplier ที่จัดหา LNG เพิ่มเติมให้กับยุโรปในท้ายที่สุด และยังกล่าวอีกว่าตอนนี้นอร์เวย์และอาเซอร์ไบจานกำลังเพิ่มผลผลิตเพื่อชดเชย Supply ก๊าซจากรัสเซียที่หายไป
