ส.ศิวรักษ์ โดดอุ้มปิยบุตร อ้างสถาบันต้องวิจารณ์ได้! โดนเทพมนตรี ฟาดกลับ ตอนตัวเองโดนม.112 ไม่สู้คดี โร่ถวายฎีกาขออภัยโทษ

0

ส.ศิวรักษ์ โดดอุ้มปิยบุตร อ้างสถาบันต้องวิจารณ์ได้! โดนเทพมนตรี ฟาดกลับ ตอนตัวเองโดนม.112 ไม่สู้คดี โร่ถวายฎีกาขออภัยโทษ

จากกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ถูก สน.ดุสิต ออกหมายเรียกคดี ม.112 เผยเพิ่งโดนครั้งแรก ลั่นที่ผ่านมาต้องการ “ปฏิรูปสถาบันฯ” ให้อยู่รอดปลอดภัยท่ามกลางความท้าทายของยุคสมัย ไม่มีสักครั้งเดียวที่ต้องการเป็น “สาธารณรัฐ” ยันหยุดความคิดไม่ได้ จะเดินหน้ารณรงค์เรียกร้องต่อ ซึ่งกรณีนี้ ร้องทุกข์กล่าวโทษโดยนายเทพมนตรี ลิมปพยอม

ต่อมาทางด้านของ นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ ก็ได้โพสต์ข้อความข้อความถึงกรณีของสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยระบุข้อความว่า

“ถ้าคุณบอกว่า สถาบันกษัตริย์แตะต้องไม่ได้ ก็พังสิครับ ทุกอย่างต้องแตะได้ ต้องได้ ทุกอย่างต้องวิพากษ์วิจารณ์ได้
ทุกอย่างต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ เท่านั้นเอง
“พระมหากษัตริย์นั้น ถ้าเรายกย่องท่านเพียงไร ก็ต้องหาทางให้ท่านประกอบพระราชกรณียกิจ ทุกอย่างให้รัฐบาลรับผิดชอบแทน พระราชกรณียกิจต่างๆ ก็ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้”
ซึ่งต่อมานายเทพมนตรี ก็ได้แชร์โพสต์ดังกล่าว พร้อมกับระบุว่า แล้วเวลาที่ท่าน ส.โดน ทำไมโทร.มาขอร้องให้ผมช่วย ถ้าเก่งจริงก็เดินเข้าสู่ขบวนการยุติธรรมแบบปิยบุตรเขาสิ หยุดพูดเถอะ ธรรมะไม่เคยช่วยขัดเกลาจิตใจ กลายเป็นตะแก่ขี้บ่นเสียเปล่า อุเบกขาครับ!
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 นายเทพมนตรี ก็เคยออกมาแฉ ส.ศิวรักษ์ ถึงกรณีที่ขอพระราชทานอภัยโทษ มาตรา 112 ให้กับส. ศิวรักษ์ โดยบอกว่า ส.ศิวรักษ์…. เนรคุณ อยากให้ทุกคนรู้ความจริง
ผมเป็นคนร่าง (ฎีกา)จดหมายขอพระราชทานอภัยโทษ มาตรา 112 ให้ส.ศิวรักษ์เอง ที่โดนคดีสมเด็จพระนเรศเพราะปากดีที่ธรรมศาสตร์ ตอนแรกแกเขียนมาอ่านไม่รู้เรื่องใช้ราชาศัพท์ผิด เห็นคุยนักคุยหนาว่ารู้ขนบธรรมเนียม มันก็ขี้กรากตัวหนึ่ง ไม่รู้เรื่องอันใด
ผมเป็นคนแนะนำทุกขั้นตอนเสียด้วยซ้ำว่าจะปฏิบัติอย่างไร มหาดเล็กในพระที่เป็นพยานได้ จนให้มันหาโอกาสถวายฎีกาความทุกข์ส่วนตัวของมัน เมื่อเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑๐ ที่พระที่นั่งอัมพร พระองค์ท่านมีเมตตามาก ถึงโปรดเกล้าฯให้เข้าเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ มีคนไทยสักกี่คนจะมีวาสนา ทรงให้พนักงานชาวที่นำเก้าอี้มาให้นั่งเกือบเสมอเพราะเห็นว่าแก่ชรามากเดินเหินต้องใช้ไม้เท้า ทรงมีพระราชปฏิสันถารให้ความเป็นกันเอง และทรงให้งานสำคัญ 3 ชิ้นเพื่อถวายคำแนะนำพระองค์ท่าน
มันโคตรโชคดีเลยว่าไหม? ผมจึงสงสัยว่าทำไมมันถึงเนรคุณได้ถึงเพียงนี้ ใครจะนับถือมันก็นับถือไป แต่ผมไม่เอามันไว้ คนอกตัญญู โทรมาหาผม แทบจะกราบเท้า อ้อนวอนขอความช่วยเหลือ ผมเห็นแก่ ดร.พิริยะ ไกรฤกษ์จึงช่วย แต่พอได้สมใจตนเองก็ไปอวดอ้างตน และไปเข้าข้างพวกที่ใส่ร้ายป้ายสี พวกที่จะล้มพระองค์ท่าน เป็นใครที่ได้เห็นได้รับรู้การกระทำแบบนี้จะเสียใจไหม ผมขอถามหน่อยเถอะ
มีความเป็นคนมากน้อยเพียงใดกัน มาวันนี้มันชัดแล้วไม่ต้องมาขอพระราชทานอภัยโทษอะไรอีก คนเยี่ยงนี้ตายไปก็มีแต่คนสาบแช่ง นรกขุมไหนเดาเอาเองครับ ขี้เกียจพูดแล้ว ผมเองรู้สึกผิดจริงๆ ที่ช่วยมันครับ