เช็คบิล!! รัสเซียตัดก๊าซเยอรมนี-อิตาลี ลดส่งกว่าครึ่ง ฟาดตะวันตกซัดหัวตัวเอง เซ่นแบนพลังงานตามก้นเมกา

0

สถานการณ์ล่าสุด ราคาก๊าซในยุโรปพุ่งขึ้นเกือบ ๑๑% เกือบ ๑,๐๐๐ ดอลลาร์ต่อพันลูกบาศก์เมตร ตามข้อมูลจากการแลกเปลี่ยนลอนดอน ICE จากข่าวสำคัญที่เยอรมนีและอิตาลีถูกก๊าซพรอมของรัสเซียลดส่งก๊าซ โดยให้เหตุผลว่าต้องซ่อมแซมท่อนอร์ดสตรีมวัน และบริษัทซีเมนส์ของเยอรมันไม่ส่งคืนเครื่องปั้มทั้งประกาศจะหยุดธุรกรรมในรัสเซีย ซึ่งอิตาลีโดนด้วยหลังจากก่อนหน้านี้หยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติแก่หลายชาติยุโรปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

วันที่ ๑๖ มิ.ย.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และเอเอฟพีรายงานว่า ก๊าซพรอมเปิดเผยกรณีที่ทางบริษัทจำกัดปริมาณก๊าซที่ป้อนแก่เยอรมนี ลงสู่ระดับต่ำกว่า ๗๐ ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน หรือราวครึ่งหนึ่งจากระดับปัจจุบัน พร้อมให้เหตุผล “สืบเนื่องจากเงื่อนไขทางเทคนิค” ของท่อลำเลียงนอร์ดสตรีม(๑)

ด้าน โรเบิร์ต เบค รัฐมนตรีเศรษฐกิจเยอรมนี (Economy Minister:Robert Habeck) เชื่อว่ามันเป็นการตัดสินใจทางการเมืองและไม่ใช่ประเด็นด้านเทคนิคตามคำกล่าวอ้างแต่อย่างใด เขากล่าวว่า “แน่นอนมันเป็นยุทธศาสตร์ปั่นป่วนและผลักดันราคาให้พุ่งสูง” 

เยอรมนีอาจลืมไปว่าที่ตัวเองและประเทศในยุโรปเป็นฝ่ายคว่ำบาตรพลังงานรัสเซียตามคำสั่งวอชิงตันก็เป็นการตัดสินใจด้วยการเมืองโลกล้วนๆไม่สนใจว่าประชาชนของตัวเองจะได้รับผลกระทบอย่างไร

เดิมที ก๊าซพรอม เปิดเผยในวันอังคารที่ ๑๔ มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า จะปรับลดกระแสก๊าซธรรมชาติที่ป้อนผ่านท่อลำเลียงนอร์ดสตรีมวัน(๑) จากระดับ ๑๖๗ ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวันเหลือ ๑๐๐ ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน จากนั้นในวันพุธที่ ๑๕ มิ.ย.พวกเขาระบุว่า จะปรับลดเพิ่มเติมเหลือแค่ระดับ ๖๗ ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน

นอกจากนี้แล้ว ก๊าซพรอม ยังลดจ่ายอุปทานก๊าซธรรมชาติที่ป้อนแก่อิตาลี ลงราวๆ ๑๕% ในวันพุธที่ผ่านมาด้วย  จากการเปิดเผยของENI บริษัทพลังงานของอิตาลี ทั้งนี้ อิตาลี ก็เช่นเดียวกับ เยอรมนี ที่พึ่งพิงก๊าซธรรมชาติรัสเซียเป็นอย่างมาก คิดเป็นสัดส่วนถึง ๔๐% ของปริมาณการนำเข้าทั้งหมด แต่ทั้งสองประเทศได้ประกาศจะเลิกใช้ก๊าซรัสเซียภายในสิ้นปีนี้ ขณะเดียวกันก็ปันพลังงานที่ซื้อจากรัสเซียไปขายต่อให้ฟินแลนด์และโปแลนด์

ความเคลื่อนไหวของบริษัทรัสเซีย มีขึ้นสองสัปดาห์ หลังจากพวกผู้นำสหภาพยุโรปเห็นพ้องแบนนำเข้าน้ำมันรัสเซียเกือบทั้งหมดในช่วงปลายปีนี้ เพื่อบีบรัสเซียให้อ่อนแอทำลายช่องทางการค้าไม่ให้มีรายได้อย่างถึงที่สุด

โปแลนด์ บัลแกเรีย ฟินแลนด์ เดนมาร์กและเนเธอร์แลนด์ ต่างถูกรัสเซียระงับส่งมอบก๊าซธรรมชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังทั้งหมดไม่ยอมทำตามคำเรียกร้องของมอสโกว์ที่กำหนดให้ “บรรดาชาติไม่เป็นมิตร” ชำระค่าพลังงานเป็นสกุลเงินรูเบิล

ข้อกำหนดชำระเงินของรัสเซีย เป็นความพยายามเสริมความเข้มแข็งแก่สกุลเงินรูเบิล หลังจากได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก มาตรการนี้ทำให้อุปสงค์สกุลเงินรูเบิลในการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น ผลักให้รูเบิลแข็งค่ากลายเป็นสกุลเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเวลานี้โดยคำยืนยันของไอเอ็มเอฟ

ท่ามกลางเสียงโวยวายของเยอรมนีและอิตาลีรัสเซียสวนกลับเจ็บแสบว่า ตะวันตกจ่อยิงหัวตัวเอง ทำลายตลาดพลังงานของตัวเองเพื่อเอาใจวอชิงตันกลับมาโทษรัสเซีย

มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย(Maria Zakharova) ระบุว่าความเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ระหว่างรัสเซียกับจีน สามารถต้านทานความพยายามหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความไม่ลงรอยของตะวันตก ในขณะที่สหรัฐฯและพันธมิตรยุโรป ได้ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับมอสโกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ซาคาโรวากล่าวว่า “อุปทานพลังงานกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จีนรู้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการและไม่ยิงเท้าตัวเอง ส่วนในฝั่งตะวันตก พวกเขายิงตัวเองที่ศีรษะ…ตะวันตกโดดเดี่ยวตัวเองจากเรา”

เธอให้คำจำกัดความมาตรการของสหภาพยุโรปว่าเป็น “การวางแผนฆ่าตัวตาย” ในความพยายามกระจายหนทางทิ้งพลังงานของรัสเซีย ซึ่งป้อนอุปทานแก่เยอรมนีมาตั้งแต่ช่วงตึงเครียดสุดของสงครามเย็น เมื่อเลือกเองเจ็บเองอย่าโทษรัสเซีย

ซาคาโรวา ย้ำว่าทรัพยากรด้านการทูตของรัสเซีย ได้เปลี่ยนเส้นทางเรียบร้อยแล้ว บ่ายหน้าจากยุโรป สหรัฐฯ และแคนาดา สู่เอเชีย แอฟริกาและพันธมิตรอดีตสหภาพโซเวียต ก็เป็นเพราะสหรัฐและตะวันตกพยายามลบรัสเซียออกจากโลกนี้ซึ่งเป็นไปไม่ได้

แม้ว่าข่าวล่าสุดที่สหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงซื้อก๊าซจากอียิปต์และอิสราเอลได้ก็ต้องรอเวลา สร้างโครงสร้างพื้นฐานรองรับการขนส่งน้ำมันและก๊าซใหม่ เนื่องจากเส้นทางเก่าเป็นของรัสเซีย 

ปธน.ปูติน กล่าวโทษสหรัฐฯจ้องทำลายล้างรัสเซียหลังจากทำลายสหภาพโซเวียตให้ล่มสลายแล้วตั้งแต่ปี ๑๙๙๑ ทั้งยังบีบบังคับ และข่มขู่มอสโกว์ ด้วยการแผ่ขยายเขตแดนของพันธมิตรทหารนาโต้คุกคามติดรั้วบ้านรัสเซียต่อเนื่อง

มหาอำนาจสหรัฐฯ และยุโรป กล่าวโทษการตัดสินใจปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนของปูติน ว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับตะวันตกดำดิ่งสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วิกฤตขีปนาวุธคิวบาปี ๑๙๖๒ และรวมหัวกันการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วงที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ต่อรัสเซีย มาถึงวันนี้ลุกลามสู่วิกฤตพลังงาน อาหาร และเศรษฐกิจทั่วโลก อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง!!