จองเวร!!PETAจุดพลุต้านกะทิไทยใช้ลิงเก็บมะพร้าวไม่เลิก พาณิชย์ฉะสร้างประเด็นการค้า ผนึกเอกชนแจงความจริง

0

ก.พาณิชย์ ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีPETA อ้างห้างดังสหรัฐแบนกะทิไทยปมใช้ลิงเก็บมะพร้าวอีก ฉะเป็นการสร้างประเด็นทางการค้า ยืนยันว่า Walmart ไม่ได้แบนยังคงนำเข้า-จำหน่ายสินค้าจากไทยเป็นปกติ พร้อมผนึกเอกชนชี้แจงข้อเท็จจริงและสร้างภาพลักษณ์สินค้าไทยที่ถูกต้องต่อเนื่อง

วันที่ ๑๕ มิ.ย.๒๕๖๕ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยกรณีมีกระแสข่าวเรื่องห้าง Walmart ของสหรัฐฯ ถอดสินค้ากะทิจากไทยออกจากชั้นวางจำหน่ายสินค้า จากการกดดันของ องค์กรพิทักษ์สัตว์ (PETA/พีต้า) ถึงการใช้แรงงานลิงในอุตสาหกรรมผลิตกะทิสำเร็จรูป ว่ากรมฯได้สอบถามไปยังทูตพาณิชย์ที่สหรัฐฯ ซึ่งติดต่อประสานงานกับผู้นำเข้าและห้างผู้จัดจำหน่ายสินค้าไทยรายใหญ่ๆ อยู่ตลอด พบว่าโดยทั่วไป การที่จะมีหรือไม่มีสินค้าบางชนิด/บางยี่ห้อวางขายในบางช่วงเวลานั้น เป็นไปตามวงจรการวางขายสินค้าของร้าน

มีการปรับสินค้าและปริมาณให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคตามฤดูกาล โดยที่ขณะนี้ Walmart ยังคงนำเข้า/จำหน่ายสินค้าจากไทย และรักษาความสัมพันธ์อันดีตามปกติ คาดว่า PETA อาจใช้ช่วงเวลาดังกล่าวที่ไม่ได้มีกะทิจากไทยวางขายสร้างประเด็นทางการค้า 

โดยที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ร่วมกับสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป จัดทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง และออกแถลงการณ์ของสมาคมฯ  ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการปลูกและเก็บมะพร้าว ซึ่งไม่ได้ใช้แรงงานลิงในอุตสาหกรรมส่งออก เผยแพร่ต่อผู้นำเข้า/ห้างที่จำหน่ายสินค้าในหลายโอกาสอย่างต่อเนื่อง และผู้นำเข้าส่วนใหญ่เข้าใจวัฒนธรรมของไทย และที่สำคัญ มะพร้าวที่เข้ามาแปรรูปในอุตสาหกรรม ใช้แรงงานคนและเครื่องจักร สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้

ส่วนลิงขึ้นมะพร้าวเป็นวิถีชีวิตชุมชนที่อยู่คู่กันมานาน และไม่ได้เข้าไปอยู่ในระบบอุตสาหกรรมแต่อย่างใด รวมทั้งได้ชี้แจงไปยังพีต้าว่าผู้ผลิตกะทิสำเร็จรูปไทยมีมาตรฐานในการผลิตสินค้าที่ได้คุณภาพตามมาตรฐานนานาชาติ ทั้งกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐาน การมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม การมีสวัสดิการที่ดีให้แรงงาน รวมถึงการค้าอย่างเป็นธรรมกับเกษตรกร รวมถึงเน้นย้ำว่า ประเทศไทยมีการออก พรบ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๗ ตลอดจนเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ทุกภาคส่วน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการเร่งดำเนินการทำ No-monkey Farm list แล้ว

ทั้งนี้ กระแสข่าวดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการส่งออกกะทิของปีที่ผ่านมาในเชิงมูลค่าไม่มากนัก เนื่องจากสินค้าดังกล่าวใช้ในธุรกิจร้านอาหาร และตลาดผู้บริโภคเชื้อชาติอื่นมากกว่าตลาดหลัก โดยมูลค่าการส่งออกกะทิสำเร็จรูปทั่วโลกปี ๒๕๖๔ มีมูลค่า ๒๖,๕๘๒.๕๖ ล้านบาท ขยายตัวลดลงร้อยละ ๒.๕๗ และตลาดสหรัฐฯ คิดเป็นหนึ่งในสี่ของการส่งออกทั้งหมดของไทย

ด้านเอกชนเปิดเผยว่า ความจริงแล้วในวงการอุตสาหกรรมไทยเข้มงวดเรื่อง “ลิงเก็บมะพร้าว” โดยแบนคนขาย ไม่รับซื้อ ประกาศเตรียมผนึก “พาณิชย์” ปลุกชีพ ปั้นภาพลักษณ์ ประชาสัมพันธ์ให้โลกเข้าใจอีกครั้ง แม้ว่าพาณิชย์จะมองว่าเป็นการเปิดประเด็นการค้า ไทยก็ต้องชี้แจงทำความเข้าใจต่อไป

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและนายกกิติมศักด์สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการ “กะทิชาวเกาะ” ไม่ได้วางขายผ่านชั้นวาง (เชลท์) สินค้าในห้างมานานแล้ว เข้าใจว่าเป็นกระแสข่าว ความจริงแล้ว ในเรื่องนี้คงจะต้องมีการสื่อสารต่อเนื่อง เพราะจากเมื่อ 2 ปีก่อน ทางรัฐและเอกชนก็ได้มีการร่วมกันทำไปแล้วในการชี้แจง

การแสดงถึงวิธีการนำเอาผลผลิตเข้าสู่โรงงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโรงงานที่ได้ทำสัญญากับฟาร์มมะพร้าว ห้ามใช้ลิงเด็ดขาด ถ้าใช้ลิงจะไม่รับซื้อ มีส่งคนไปตรวจสอบอยู่เรื่อย ก็ทำมาโดยตลอดอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราอาจจะพลาดในเรื่องการสื่อสาร อาจจะไม่ได้โปรโมทดีพอ อาจจะไม่ต่อเนื่องพอ แล้วก็อาจจะเป็นข่วงโควิดทำให้เราละเลยสิ่งเหล่านี้ไป จะพยายามสื่อสารออกไปว่าเราได้ดูแลเรื่องพวกนี้มาโดยตลอดส่วนรัฐเองก็ไม่เคยสนับสนุนในการใช้ลิงเก็บมะพร้าวอยู่แล้ว

“เป็นภาพทรงจำเก่าๆ ลิงมาใช้ในการแสดงแล้วก็ทำได้หลายอย่าง ทั้งการปีนต้นมะพร้าว เก็บมะพร้าว ก็หลังจากนี้จะต้องคุยกันให้ชัดเจน แม้กระทั่งในเชิงท่องเที่ยวก็ต้องมีการอธิบายให้ชัดเจน มีวิธีอย่างไรไม่ให้มาปะปนกับเรื่องของอุตสาหกรรม ห้ามอยู่แล้ว ชัดเจน แต่การสื่อสารไป อาจจะยังทำได้ไม่ดีพอก็คงจะต้องช่วยกันพยายามสื่อสารกันต่อไป

นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า “ทางผู้ประกอบการจะต้องหารือกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อกลับมาประชาสัมพันธ์ใหม่ “ลิงเก็บมะพร้าว” เป็นภาพจำเก่าๆ ลิงมาใช้ในการแสดง ไม่เกี่ยวกับอุตสาหกรรม ต้องเอาจริงเอาจังเพราะเป็นภาพลักษณ์ประเทศไทย คนจะเข้าใจผิดมาก ไม่จำเป็นที่จะต้องไปสร้างความขัดแย้ง หรือไปโจมตีกันไปมา จะกลายเป็น “รัสเซีย-ยูเครน” ไป มีวิธีเดียวที่จะเกิดสันติภาพในโลกนี้ได้ ก็คือ การอธิบาย การชี้แจง และ การพูดความจริง”