การลุกขึ้นแข็งข้อกับสหรัฐของกลุ่มประเทศละตินอเมริกา กำลังเด่นชัดมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ปธน.เม็กซิโกและประเทศในกลุ่มอีกหลายประเทศคว่ำบาตร การจัดซัมมิตอเมริกาของปธน.ไบเดนอย่างเป็นทางการ ล่าสุด นิคารากัวซึ่งถูกละเว้นกีดกันไม่เชิญเข้าร่วมประชุม ได้ประกาศเชิญกองทหารรัสเซียอย่างจงใจ ไฟเขียวให้มาตั้งกองพลน้อยได้อย่างเป็นทางการ ซึ่งแน่นอนฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐย่อมไม่ปลื้ม แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะดูเหมือนว่า ประเทศหลังบ้านสหรัฐในละตินมีแนวโน้มทยอยทำเช่นเดียวกับนิคารากัวในไม่ช้า
วันที่ ๑๕ มิ.ย.๒๕๖๕ สำนักข่าวซีบีเอสนิวส์และสปุ๊ตนิกรายงานว่า รัฐบาลของประธานาธิบดี แดเนียล ออร์เตกา แห่งนิการากัว ได้อนุญาตให้กองทหาร เครื่องบิน และเรือของรัสเซีย ประจำการไปยังนิการากัวเพื่อวัตถุประสงค์ในการฝึกอบรม การบังคับใช้กฎหมาย หรือการเผชิญเหตุฉุกเฉิน
ตามระบุในกฎหมายที่เผยแพร่ในต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้รับการยืนยันจากรัสเซียเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๐ มิ.ย.๒๕๖๕ ออร์เตกาจะอนุญาตให้กองทหารรัสเซียปฏิบัติหน้าที่บังคับใช้กฎหมายมีวัตถุประสงค์ “ดำเนินภารกิจช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม กู้ภัย และค้นหาในกรณีฉุกเฉินหรือภัยธรรมชาติ”
โอลก้า สกาบีวา ผู้จัดรายการโทรทัศน์ของรัฐกล่าวยืนยันว่า “เป็นเรื่องไม่พึงประสงค์มากที่สุดสำหรับสหรัฐอเมริกาคือการประกาศที่น่าตื่นเต้นของปธน.แห่งนิการากัว เขาอนุญาตให้กองทหาร เรือ และเครื่องบินของรัสเซียเข้าไปในนิการากัว แน่นอนว่าเพื่อจุดประสงค์ด้านมนุษยธรรมเท่านั้น กองทหารรัสเซียสามารถเข้าสู่นิการากัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปี ๒๕๖๕” “
เขากล่าวเสริมว่า “หากระบบขีปนาวุธของสหรัฐฯ เกือบจะเข้าถึงมอสโกว์ผ่านจากดินแดนยูเครนได้ ก็ถึงเวลาที่รัสเซียจะต้องส่งอาวุธที่ทรงพลังเข้ามาใกล้เมืองต่างๆ ของสหรัฐฯ มากขึ้นได้เช่นกัน”
รัฐบาลนิคารากัวยังอนุญาตให้มีกองทหารรัสเซียเพื่อ “แลกเปลี่ยนประสบการณ์และการฝึกอบรม”
ปธน.นิคารากัว ระบุว่าการแลกเปลี่ยนระหว่างกองกำลังทหารจะเป็น ผลประโยชน์ร่วมกันในกรณีฉุกเฉินทุกกรณีระหว่างทั้งสองประเทศ และจากรายงานของสื่อนิการากัว ก่อนหน้านี้กองกำลังรัสเซียมีแผนและประสานงานกับกองทัพนิการากัวเพื่อตั้งกองทหารประจำการแล้ว
รัฐบาลนิคารากัวยังอนุญาตให้มีกองทหารรัสเซียขนาดกลางและเล็กสำหรับแลกเปลี่ยนประสบการณ์และการฝึกอบรมทางการทหารเพื่อความมั่นคงด้วย
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย มาเรีย ซาคาโรวา ยืนยันกับสำนักข่าวสปุ๊ตนิกของรัสเซียว่า มาตรการนี้เป็น “กิจวัตร”ที่ทำประจำ
ซาคาโรวากล่าวว่า “เรากำลังพูดถึงกิจวัตรที่ทั้งสองประเทศดำเนินการประจำปีละสองครั้ง เป็นไปตาม ขั้นตอนสำหรับการยอมรับกฎหมายนิการากัวว่าด้วยการรับบุคลากรทางทหารจากต่างประเทศไปยังอาณาเขตของตนชั่วคราว เพื่อพัฒนาความร่วมมือในด้านต่างๆ รวมทั้งการตอบสนองด้านมนุษยธรรมและเหตุฉุกเฉิน การต่อสู้กับอาชญากรรมที่ก่ออาชญากรรมและ การค้ายาเสพติด”
นิคารากัวยังกล่าวอีกว่า จะอนุญาตให้มี “กองกำลังทางทะเลและทางอากาศ” ของเวเนซุเอลา ฮอนดูรัส กัวเตมาลา สาธารณรัฐโดมินิกัน คิวบา เม็กซิโก เอลซัลวาดอร์ และอาจรวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย การอนุญาตมีผลในช่วงครึ่งหลังของปี ๒๕๖๕นี้
ออร์เตกาเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นของรัสเซียตั้งแต่สมัยที่เขาเป็นผู้นำการปฏิวัติในปี ๒๕๒๒ ที่ขับไล่อนาสตาซิโอ โซโมซาผู้นำเผด็จการ ออร์เทกาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีตั้งแต่ปี ๒๕๒๘ ถึง ๒๕๓๓ ก่อนได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งใหม่ในปี ๒๕๕๐
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ ๓๑ มี.ค.ที่ผ่านมา เคอร์รี แฮนนัน (Kerri Hannan) เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เตือนว่ารัสเซียขู่ว่าจะส่งออกความขัดแย้งในยูเครนไปยังละตินอเมริกา ผ่านความร่วมมือทางทหารกับเวเนซุเอลา นิการากัว และคิวบา
พลเรือเอก เคิร์ต ทิดด์ อดีตหัวหน้ากองบัญชาการภาคใต้ของสหรัฐ กล่าวว่า“รัสเซียยังคงมีสัมพันธ์ที่มั่นคงในนิการากัว และอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของภูมิภาค”
ดาเนียล ออร์เตกาเป็นพันธมิตรและสนับสนุนรัสเซียมาโดยตลอด ซึ่งเห็นได้จากความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศความใกล้ชิดกับรัสเซียเป็นเรื่องทั้งด้านการเมืองและเรื่องส่วนตัว สมาชิกของตระกูลออร์เตกา มูริลโลมักเดินทางไปรัสเซียโดยคณะผู้แทนของรัฐบาล และนิการากัวเป็นหนึ่งในเจ็ดประเทศในโลกที่ตระหนักถึงความเป็นอิสระของเซาท์ออสซีเชียและอับคาเซีย สองภูมิภาคของจอร์เจียที่ประกาศตนเป็นอิสระภายใต้การอุปถัมภ์รับรองของรัสเซีย
