บุรีรัมย์ จับได้ 1 เหลืออีก2 หนีกักตัวสุวรรณภูมิ พบไข้สูง 37.9 องศาเซลเซียส ดำเนินคดีข้อหาหลบหนีการกักตัวตามพรบ.โรคติดต่อ
สืบเนื่องจากการที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศ รวมทั้งสั่งชะลอการบินเข้าประเทศ แต่ล่าสุดเกิดเหตุชุลมุน กรณีคนไทยที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ปฏิเสธที่จะเข้ารับการกักตัวตามมาตรการของรัฐบาล ทำให้หลายฝ่ายเป็นกังวลเรื่องนี้จะเป็นแหล่งแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่
ล่าสุดจังหวัดบุรีรัมย์ออกแถลงการณ์ฉบับที่ ๗ เรื่องดำเนินคดีผู้ที่ฝ่าฝืนขัดคำสั่งเจ้าพนักงานในการกักกันตนเองตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ ๒๕๕๘ ระบุว่าจังหวัดบุรีรัมย์ได้รับข้อมูลจากสุวรรณภูมิ ว่ามีประชาชนภูมิลำเนาในจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน ๓ รายซึ่งเดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่นด้วยเครื่องบินเที่ยวบิน JL๐๐๓๑ เมื่อวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๓ จำนวน๒ ราย และเดินทางมาจากประเทศการ์ต้า จำนวน ๑ ราย แล้วไม่ยอมเข้ากักตัวตามมาตรการที่ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกำหนด และเมื่อเข้ามาในจังหวัดบุรีรัมย์ จับกุมไว้แล้ว ๑ รายคือ นายนิวัฒน์ สวัสตัวงศ์ เพศชายอายุ ๓๒ปี ที่อยู่บ้านหนองตาแอก ตำบลละหานทราย อำเภอละหานทรายจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งได้รับรายงานจากพื้นที่ หลังจากได้บันทึกข้อมูลรายงานตัว ต๘ บร ว่าผู้หลบหนีได้เดินทางมาถึงภูมิลำเนาแล้ว เบื้องต้นจากการตรวจร่างกาย พบว่า มีไข้๓๗.๙ องศาเซลเซียส โดยจะนำไปดำเนินคดีข้อหาหลบหนีการกักตัว ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ ต่อไป แล้วจะนำมากักตัวที่ศูนย์กักกันผู้กระทำความผิดตาม พรบ.โรคติดต่อ ที่จังหวัดบุรีรัมย์จัดเตรียมไว้ ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่น และความปลอดภัยต่อประชาชนชาวบุรีรัมย์ต่อไป
“ถ้าไม่อยากให้พ่อ แม่ หรือคนที่คุณรักถูกกักตัว กรุณาเก็บตัวอยู่ที่เดิม อย่ามาบุรีรัมย์“