หลังจากที่สถานการณ์ในรัสเซีย-ยูเครน กลับมาเดือดซ้ำอีก โดยกองกำลังรัสเซียได้จัดการเป้าหมายทำลายสะพานข้ามแม่น้ำแห่งหนึ่งที่เชื่อมเมืองซีวีโรโดเนตสก์กับเมืองอื่น ๆ ตัดขาดความเป็นไปได้ของเส้นทางอพยพพลเรือน จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในวันอาทิตย์ (12มิ.ย.) ในขณะที่ยูเครนส่งเสียงวินวอนซ้ำอีกรอบขอความช่วยเหลือด้านอาวุธหนักเพิ่มเติม หลังจากพวกเขาใช้อาวุธและกระสุนยุคโซเวียตจนหมดคลังแสงแล้ว
ล่าสุดมีรายงานการแสดงท่าทีของจีน บนเวทีการประชุมความมั่นคงเอเชีย หรือ Shangri-La Dialogue ที่ประเทศสิงคโปร์ หลังจากจีนแจ้งต่อสหรัฐอเมริกาอย่างชัดเจนถึงเรื่องไต้หวัน ว่าหากมีความพยายามใด ๆ ที่จะแยกไต้หวันจากจีน นั่นย่อมหมายถึงสงคราม ล่าสุดตัวแทนรัฐบาลจีนกล่าวถึงสงคราม รัสเซีย-ยูเครน ที่จีนถูกจับจ้องเช่นกัน
โดยทางด้านนายพลเว่ย เฟิงเหอ รมว.กลาโหมจีน กล่าวถึงความขัดแย้ง รัสเซีย-ยูเครน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 มิ.ย. ว่าจีนสนับสนุนให้มีการเจรจาสันติภาพ และไม่เห็นด้วยเลยกับการส่งอาวุธ หรือการกดดันขั้นสูงสุด พร้อมกันนี้ยังยืนยันว่าจีนไม่เคยส่งวัสดุอุปกรณ์ใด ๆ ให้รัสเซีย
“อะไรคือต้นตอของปัญหานี้ ใครที่บงการอยู่เบื้องหลัง ใครที่สูญเสียมากที่สุด และใครกันแน่ที่ได้ประโยชน์มากที่สุด ใครกันที่รณรงค์สันติภาพ และใครกันที่ราดน้ำมันบนกองเพลิง ผมคิดว่าเรามีคำตอบให้คำถามเหล่านี้อยู่แล้ว” ทั้งนี้รมว.กลาโหมจีน กล่าวโดยไม่ได่เอ่ยชื่อประเทศใด และไม่ได้เอ่ยถึงจุดยืนของจีน
ขณะที่ไมอา นูเวนส์ นักวิชาการประจำสถาบันนานาชาติเพื่อการศึกษายุทธศาสตร์ กรุงลอนดอน วิเคราะห์ว่า คำพูดของรมว.กลาโหมสอดคล้องกับแนวทางของรัฐในประเด็นรัสเซีย-ยูเครน “เขายังย้ำด้วยว่า จีนเป็นหุ้นส่วนของรัสเซีย ไม่ใช่พวกกัน และพวกเขาไม่ได้มีพันธมิตรเดียว พวกเขากำลังขีดเส้นใต้เพื่อย้ำว่า เมื่อถึงที่สุดแล้วนโยบายของจีนจะยึดตามผลประโยชน์ของตนเอง และไม่ผูกตัวเองไว้กับประเทศอื่น ๆ”
อย่างไรก็ตามสำหรับการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐ รัฐมนตรีกลาโหมของจีนกล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับสหรัฐว่าต้องการหรือไม่ ขณะที่ความสัมพันธ์มาถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อที่อันตราย จีนย้ำหลายครั้งบนเวทีการประชุมความมั่นคงเอเชียว่าจีนมุ่งแสวงหาสันติภาพและเสถียรภาพ ไม่ใช่ฝ่ายที่ก้าวร้าว และขอให้สหรัฐสร้างเสริมความสมัครสมานสามัคคี ไม่ใช่การเผชิญหน้าและแบ่งแยก
นอกจากนี้ นายพลเว่ยยังปฏิเสธข้อกล่าวหาของสหรัฐจากการกล่าวสุนทรพจน์ของ นายลอยด์ ออสติน รมว.กลาโหมสหรัฐ เมื่อวันเสาร์ที่ 11 มิ.ย. ที่ระบุว่าความเคลื่อนไหวทางทหารของจีนที่ส่งเครื่องบินไปโฉบใกล้ไต้หวันเป็นการยั่วยุ บั่นทอนสันติภาพ และเสถียรภาพในภูมิภาค ขอให้สหรัฐเลิกใส่ความ และเลิกแทรกแซงกิจการภายในของจีน ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐจะปรับปรุงไม่ได้เลย หากสหรัฐยังทำเช่นนั้นอยู่
สำหรับไต้หวัน นายเว่ยกล่าวว่า ยังคงเป็นมณฑลหนึ่งของจีนไม่เปลี่ยนแปลง จีนจะคิดถึงการรวมชาติอย่างแน่นอน และใครก็ตามที่จะผลักดันเอกราชของไต้หวันจะต้องพบกับจุดจบที่ไม่ดี