ยุโรปอลม่าน! สหรัฐหยุดส่งก๊าซให้ยาวๆ น้ำมันขึ้น120% ไฟฟ้าส่อดับนับเดือน แย่งกักตุนใช้ฤดูหนาว

0

จากกรณีการคว่ำบาตรพลังงานของรัสเซีย โดยประเทศสหภาพยุโรป ซึ่งจากการนำของสหรัฐ ทำให้เกิดวิกฤตน้ำมัน และก๊าซ ต่อหลายประเทศ แต่อเมริกาเองกลับซื้อน้ำมันของรัสเซีย แล้วนำมาขายต่อให้ประเทศยุโรปในราคาที่สูงกว่านั้น?!?

ล่าสุดวันนี้ 11 มิถุนายน 2565 เพจเฟซบุ๊ก World Update ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความถึงสถานการณ์ของประเทศยุโรป โดยระบุแหล่งที่มา Reuters และ กระทรวงพลังงานสหรัฐ (EIA) ไว้ว่า “ยุโรป มั่นคงพลังงานแล้ว สหรัฐ ตัดส่งก๊าซยาว 3 สัปดาห์ ไฟฟ้าส่อดับสู่ยุคมืด

ที่ผ่านมา Freeport LNG ผู้ดำเนินการโรงงานก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สัดส่วนราว 20% และเป็นผู้ส่งออกใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ของสหรัฐ ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาที่ยุโรปคว่ำบาตรก๊าซรัสเซีย ทางสหรัฐ จึงได้ส่งออกก๊าซไปเสียบขายที่สหภาพยุโรป (EU) สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส ตุรกี และเนเธอร์แลนด์ ที่เป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดสัดส่วนราว 70% และขายให้ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน อีกราว  30%

รายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐ ระบุว่าเดือน มี.ค.2022 โรงงานแห่งนี้บรรทุกก๊าซประมาณ 64,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตส่งออกไปต่างประเทศ , ในส่วนของเอเชียนั้น ญี่ปุ่นนำเข้าก๊าซ LNG สหรัฐ ราว 6-7% , ส่วน เกาหลีใต้นำเข้า LNG สหรัฐ ราว 20% ของความต้องการทั้งหมด

ข้อมูล ณ ปี 2020 พลังงานน้ำมันสำรองชาติที่สูบน้ำมันออกมาใช้และขาย 10 อันดับแรกของโลก เหลือนานที่สุดคือ เวเนซุเอลา อีกราว 1,578 ปี เหลือเวลาน้อยที่สุดคือ สหรัฐ อีก 11 ปี หรือน้ำมันสำรองสหรัฐ จะถูกสูบใช้หมดในปี 2031 รัฐบาลที่นำโดยโจ ไบเดน ได้ประกาศยกเลิกโครงการท่อส่งก๊าซ เช่น Keystone Pipeline และห้ามพัฒนาขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในพื้นที่ของรัฐ ตามหลักคิด “ความไม่มั่นคงของคนอื่น  คือความมั่นคงของเรา” เพื่อนำเข้าพลังงานน้ำมันและก๊าซจากต่างประเทศ

จากนั้นปลุกปั่นยุยงให้ชาติบริวารยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ที่เคยนำเข้าพลังงานน้ำมันและก๊าซ คว่ำบาตรรัสเซีย แล้วใช้อำนาจผู้กุมระเบียบโลกเก่า พยายามบล็อคเอเชีย เช่น จีน อินเดีย ไม่ให้แย่งซื้อพลังงานจากรัสเซีย เพื่อที่สหรัฐ จะเป็นผู้ผูกขาดนำเข้าพลังงานนั้นเสียเองแทนทั้งหมด แต่อำนาจได้เสื่อมลงทำให้ จีน อินเดีย ไม่สนใจคำขู่สหรัฐ

สะท้อนข้อเท็จจริงนี้จากรายงานของ Energy Information Administration ของกระทรวงพลังงานสหรัฐ (EIA) ระบุว่าเดิมสหรัฐ นำเข้าน้ำมันจาก รัสเซีย รายใหญ่อันดับที่ 9 จำนวน 2.4 ล้านบาร์เรล/เดือน แต่ล่าสุด EIA ระบุว่า รัสเซีย กลายเป็นชาติส่งออกน้ำมันรายใหญ่ไปสหรัฐ ขยับขึ้นมาเป็นอันดับที่ 6 จำนวน 4.218 ล้านบาร์เรล/เดือน เพิ่มขึ้นเกือบ 200% จากเดิม , โดยนางเจเนต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐอ้างว่า “สหรัฐ ต้องการให้น้ำมันรัสเซีย ไหลเข้าสู่ตลาดโลกต่อไป แต่จะต้องได้รับผลกำไรจำกัดไม่เยอะมาก”

เมื่อแผนการแรกคือยุยงให้ยุโรป และบริวาร คว่ำบาตรพลังงานรัสเซีย มีชาติที่หลงกลเชื่อแค่ส่วนน้อย จึงบรรลุผลแค่บางส่วน , แผนสองขู่จีน อินเดีย หยุดซื้อพลังงานรัสเซีย ล้มเหลวไม่เป็นท่า , ช่วงเวลาจากนี้จะเกิดคลื่นความร้อนในส่วนต่างๆ ของสหรัฐ โดยเฉพาะเท็กซัส ส่งผลให้ต้องเพิ่มการใช้ไฟฟ้าทวีคูณมากขึ้น ต้องใช้พลังงานผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น

ล่าสุดจึงนำมาสู่แผนสาม คือ “หักหลังชาติบริวาร” ได้มีมือมืดทำให้เกิดการระเบิดที่โรงงาน Freeport LNG ชายฝั่งอ่าวเท็กซัส สหรัฐ ส่งผลให้ผู้ส่งออกรายนี้ “ประกาศเหตุฉุกเฉินไม่อาจปฏิบัติตามสัญญา จำเป็นต้องระงับจัดส่งก๊าซ LNG นาน 3 สัปดาห์”  กว่า 940,000 ตัน ส่งผลปริมาณก๊าซล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลงมากถึง 14% ไปยังยุโรป เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น , ซ้ำร้ายการหยุดส่งก๊าซนี้ เกิดขึ้นพร้อมกับรัสเซีย ประกาศปิดปรับปรุงบำรุงรักษาท่อก๊าซ Nord Stream1 เข้าสู่ยุโรป และการแย่งชิงก๊าซของนอร์เวย์ ที่มีปัญหาต้องปรับปรุงระบบส่งก๊าซ

ผลระยะสั้นทันที คือ ยุโรป ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอีก 120% จากความหวาดกลัวการระงับขนส่งของสหรัฐฯ ที่หายไป , ผลระยะกลางคือ ราคาน้ำมัน ก๊าซ ในยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นโดมิโน สะท้อนไปถึงค่ากระแสไฟฟ้าแพงขึ้นอีกมาก เพราะต่อจากนี้ประเทศที่ตกเป็นเหยื่อสหรัฐ จะแย่งกันกักตุนพลังงานน้ำมัน และก๊าซกันขนานใหญ่รองรับฤดูหนาว

รวมทั้งต้องดึงก๊าซกลับคืนจากพื้นที่จัดเก็บส่วนบุคคล จนถึงปัญหาไฟฟ้าดับในวงกว้าง อาจเกิดไฟฟ้าดับบางพื้นที่นานเป็นสัปดาห์ จนถึงเป็นเดือน จนเกิดความระส่ำระสาย เสียหายต่างๆ ทางเศรษฐกิจ การแพทย์ การดำเนินชีวิตตามมา

สรุป ชาติทวีปเอเชีย ดื้อต่อคำสั่งสหรัฐ ไม่ยอมคว่ำบาตรรัสเซีย แถมแย่งซื้อน้ำมัน ก๊าซ ส่งผลให้สหรัฐ พลังงานไม่พอใช้ในประเทศ ก็หักหลังชาติบริวาร สร้างสถานการณ์ระเบิดอ้างเหตุฉุกเฉินเพื่อผิดสัญญาส่งมอบก๊าซ  ส่วนรัสเซีย ก็กระหน่ำซ้ำโดยปิดซ่อมบำรุงท่อก๊าซสำคัญเข้าสู่ยุโรป ในระยะจากนี้ไปยุโรปคงต้องเผชิญค่าไฟฟ้ามหาโหด และไฟฟ้าดับบางเวลายาวนาน จนวุ่นวายอลหม่าน”