บทเรียนศรีลังกา รับคำสั่งสหรัฐ! ยึดเครื่องบินรัสเซีย สุดท้ายปูตินเข้าช่วย- จีนให้เงินใช้หนี้ คลายวิกฤตปท.
จากกรณีที่ขณะนี้ ประเทศศรีลังกา กำลังเผชิญกับวิกฤตขาดแคลนน้ำมัน ที่ไม่ได้เพียงส่งผลกระทบกับการเดินทางโดยรถยนต์เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อระบบขนส่งในประเทศไม่ว่าจะเป็นการเดินทางและการนำเข้าส่งออกสินค้า เครื่องจักรในการทำการเกษตรต่างๆ ทำให้รายได้ของคนในประเทศหยุดชะงัก
ล่าสุดทางเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ศรีลังกา ได้จีนและรัสเซีย เข้ามาช่วยคลี่คลายวิกฤต ซึ่งก่อนหน้านี้ ศรีลังกา ก็ได้ตกเป้นเหยื่อของชาติตะวันตก ทำให้ประเทศเกิดวิกฤตหลายด้าน โดยอ้าอิงจากกระทรวงต่างประเทศจีน ระบุว่า
ที่ผ่านมาในยามศรีลังกา มีกินมีใช้ก็ถูกฝ่ายระเบียบโลกเก่า สหรัฐ และอดีตเจ้าอาณานิคมสหราชอาณาจักร ปอกลอกจนหมดตัว ผ่านนโยบายรัฐบาลที่โปรตะวันตก เห่อตามกระแสถือครองเงินดอลลาร์ ยูโร ในสัดส่วนที่สูงมากกว่าเงินตราชาติตนเอง , ละทิ้งภาคเกษตรลง 50% จนรายได้ลดหายไป , พิมพ์เงินตราท้องถิ่นตนเพิ่มไม่บันยะบันยังโดยไร้ทองคำค้ำประกัน , ใช้จ่ายฟุ้งเฟ้อไปกับค่าพลังงานสิ้นเปลือง , ปิดโรงกลั่นน้ำมันดิบ ซื้อน้ำมันสำเร็จรูปเอาสะดวกเข้าว่า ไม่นานนักอัตราเงินเฟ้อก็ทะยานกว่า 39% , พอหมดหนทางก็พิมพ์เงินเพิ่มไปใช้หนี้ต่างประเทศ และพันธบัตร

และจบตามสูตรด้วยการไปขอกู้ IMF กับธนาคารโลก และทำแผนขายสินทรัพย์ชาติ เช่น สายการบิน ฯลฯ ซึ่งสูตรสำเร็จโจมตีค่าเงินแบบนี้ชาติตะวันตกก็ทำมานานแล้วกับหลายชาติที่รัฐบาลโปรตะวันตก และรู้ไม่เท่าทันจนกลายเป็นพิษต้มยำกุ้งทางเศรษฐกิจ

ทำให้เงินคงคลังศรีลังกาเกลี้ยง ถังแตก ไม่มีเงินชำระหนี้คงค้างค่าน้ำมันสหรัฐ แค่ 53 ล้านดอลลาร์ เรือน้ำมันก็จอดจิบกาแฟ นอนตากอากาศสบายใจเฉิบอยู่นอกชายฝั่งไม่ยอมเทียบท่า ท่ามกลางปัญหาทุกข์เข็ญการขาดแคลนน้ำมัน การเดินทางด้วยรถยนต์ เรือประมงต้องงดหาปลา ไฟฟ้าดับแทบตลอดวัน ขาดยารักษาโรค อาหาร สินค้าจำเป็นอุปโภคบริโภค ประชาชนเสียชีวิตไปหลายสิบคนเนื่องจากไม่มีน้ำมันเติมรถไปโรงพยาบาล อุปกรณ์การแพทย์ฉุกเฉินขาดกระแสไฟฟ้า รัฐบาลศรีลังกา ที่เคยรับคำสั่งมหาอำนาจระเบียบโลกเก่า ได้ทำสิ่งที่ผิดร้ายแรง คือ ประกาศอายัดเครื่องบินโดยสารรัสเซีย เมื่อจนตรอกยากจนทุกข์ยาก ชาติตะวันตกสุดโหดเหล่านั้นก็นิ่งดูดายเสีย ไม่ส่งน้ำมัน ยารักษาโรค หรือแม้จะส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมไปให้ ทำให้รัฐบาลศรีลังกา ต้องดิ้นเฮือกสุดท้ายบากหน้ายอมขัดคำสั่งสหรัฐ โดยติดต่อขอซื้อน้ำมันจากรัสเซียโดยไม่มีเงิน ซึ่งรัฐบาลศรีลังกาไม่มีความหวังเลยว่ารัสเซียจะช่วยเนื่องจากไปอายัดเครื่องบินโดยสารรัสเซียไว้

แต่โลกใบนี้รัสเซีย ไม่ได้โหดร้ายตามที่ชาติตะวันตกปั้นภาพให้น่ากลัว เมื่อรัฐบาลศรีลังกา กล้าอ่อนน้อมมาขอ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียก็กล้าให้ ตามสไตล์ “นักเลงโบราณ ใจถึงพึ่งได้” เขาสั่งบริษัทพลังงานรัฐวิสาหกิจของรัฐ ขนน้ำมันดิบใส่เรือมาเทียบท่าศรีลังกาในเวลาไม่กี่อึดใจเท่านั้น เรื่องเงินค่าน้ำมันนั่นสำหรับรัสเซียแล้วเล็กน้อยมาก ให้ติดหนี้ไว้ก่อนมีเมื่อไรค่อยมาใช้ คนจะอดตายอยู่แล้วไม่ใช่เวลามาขูดเลือดกับปู แม้แต่รัฐบาลศรีลังกายังแทบไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ เพราะที่ผ่านมาคบกับชาติตะวันตกมาเป็นร้อยปีถูกเอาเปรียบกดขี่เอาแต่ได้ปอกลอกมาตลอด แถมรัสเซียยังส่งทีมงานมาช่วยเดินเครื่องโรงกลั่นน้ำมันอีกด้วยส่งผลให้เกิดผลผลิตพลอยได้จากการกลั่นน้ำมันดิบตามมามากมาย เช่น ก๊าซเหลวหุงต้ม , น้ำมันหล่อลื่น , น้ำมันเตา , ยางมะตอย ฯลฯ

ส่งผลให้ศรีลังกา ละอายใจมากแพ้ใจนักเลงรัสเซีย รีบปล่อยอายัดเครื่องบินโดยสารทันที , ล่าสุดมิตรแท้ก็โผล่มายามยากจนข้นแค้นอีกราย คือ จีน ได้ขนส่งเวชภัณฑ์ ข้าว และสิ่งของบรรเทาทุกข์เพื่อมนุษยธรรมฉุกเฉินล็อตแรก 500 ล้านหยวน ถึงศรีลังกาแล้ว และที่คาดไม่ถึงคือ นาย Zhao Lijian โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงว่า “จีนจะช่วยศรีลังกาจัดการกับภาระหนี้สินที่มีต่อจีน และหนี้กับประเทศอื่น รวมทั้งหนี้กับองค์กรระหว่างประเทศ ( IMF , World bank) อีกด้วย

เพื่อนกินหาง่ายยามเรามีกินมีใช้ แต่พวกเขาจะพากันหายหัวไปเมื่อเราตกยาก แต่เพื่อนแท้จริงใจจะมาช่วยเหลือในยามที่เราไม่เหลืออะไรเลย แค่อาหาร เวชภัณฑ์ พลังงาน ให้ชีวิตรอดมีแรงเดินต่อได้ และยังช่วยดูแลหนี้ต่างๆ แค่นี้ก็ซึ้งใจ บทเรียนศรีลังกา ทำให้คนทั่วโลกเห็นรูปธรรม “การจัดระเบียบโลกใหม่” ที่เป็นธรรมมีคุณธรรม และปรับท่าทีนโยบายรัฐบาล แต่ละชาติว่าควรให้สัดส่วนมากขึ้นกับฝ่ายระเบียบโลกแบบใด..เลือกข้างผิดมาแล้ว ก็กลับตัวได้ สู้ร่วมกันต่อไป ชนะพวกใจดำเอาเปรียบแน่นอน

