เนเธอร์แลนด์ถูกต้ม! ซื้อเครื่องบินรบสหรัฐ 52 ลำ งบบานเกือบ 4 แสนล้าน แถมยังถูกยุเบี้ยวจ่ายเงินรัสเซียจนถูกตัดก๊าซ!

0

เนเธอร์แลนด์ถูกต้ม! ซื้อเครื่องบินรบสหรัฐ 52 ลำ งบบานเกือบ 4 แสนล้าน แถมยังถูกยุเบี้ยวจ่ายเงินรัสเซียจนถูกตัดก๊าซ!

จากกรณีที่สงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลทำให้ชาติยุโรปมีความต้องการจะซื้ออาวุธจากสหรัฐอเมริกาเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีความต้องการจากชาติอื่นๆ ในยุโรปตะวันออกที่ต้องการซื้ออาวุธที่ยูเครนใช้ต่อสู้กับกองกำลังรัสเซียได้สำเร็จ โดยแหล่งข่าวใกล้ชิด 2 ราย อ้างว่าความต้องการซื้ออาวุธจากสหรัฐ มีรวมถึงขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานสติงเกอร์ และขีปนาวุธต่อต้านรถถังแจฟวลิน

ในขณะที่ มารา คาร์ลิน รองปลัดกระทรวงกลาโหมสหรัฐ (เพนตากอน) ได้เปิดเผยว่า ชาติพันธมิตรยุโรปกำลังจัดสรรงบประมาณกลาโหมเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า

ต่อมาทางเพจ World Update ก็ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่เนเธอร์แลนด์ ได้ซื้อเครื่องบินรบจากสหรัฐ จำนวน 52 ลำ โดยอ้างอิงจากสำนักข่าวรอยเตอร์และ Bloomberg ระบุว่า 

ฝ่ายระเบียบโลกเก่า ที่นำโดยสหรัฐ ยึดมั่นหลักส่งเสริมอุตสาหกรรมสงครามในประเทศมาตลอด 7 ทศวรรษ คือ “ความไม่มั่นคงของคนอื่น คือ ความมั่นคงของเรา , ไปทำให้เกิดสงครามแผ่นดินอื่น จะได้ไม่เกิดสงครามในแผ่นดินเรา” เครื่องมือที่ใช้ได้ผลดีมากมาตลอดคือ “แบ่งปันข่าวกรองลวง” ปลุกปั่นให้เกิดความหวาดระแวงไม่ไว้วางใจ และเข้าใจผิดในคู่อริ หรือภูมิภาคชาติเป้าหมาย จากนั้นก็จะไปให้คำมั่นว่าจะยืนเคียงข้างเสมอไม่ต้องกลัว ซื้ออาวุธ และพลังงานราคาแพงลิ่วจากตน จะมั่นคงปลอดภัยแน่นอน วิธีง่ายๆ แบบนี้ก็สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำเข้าประเทศมาตลอด
บริษัท Forecast International ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ตลาดของสหรัฐ ออกรายงานวิเคราะห์สรุปว่าการสร้างสถานการณ์ให้เกิดสงครามในยูเครน เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ขับเคลื่อนวงล้ออาวุธในตลาดและสัญญาอนาคตที่สดใสสำหรับอุตสาหกรรมสงครามอย่างน้อยในอีก 10 ปีข้างหน้า จากนั้น NATO ที่เป็นเครื่องมือสงครามของสหรัฐ ก็สร้างพันธสัญญากับชาติที่หลงเข้าไปเป็นสมาชิกว่าต้องจัดสรรงบประมาณปีละ 2% ของ GDP ประเทศ เพื่อใช้ซื้ออาวุธจากสหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และชาติในกลุ่มที่ผลิตขาย อ้างว่าเพื่อการป้องกันประเทศ ถ้าซื้อที่อื่นจะไม่เป็นประชาธิปไตย
สหรัฐ แบ่งปันข่าวกรองลวงผ่าน NATO ว่าในยุโรป ไม่มั่นคงกันทั้งทวีปแล้ว โดยมีรัสเซียเป็นภัยคุกคาม ส่งผลให้ชาติในยุโรปกว่า 50% เชื่อและเพิ่มงบประมาณซื้ออาวุธกันขนานใหญ่เพื่อให้ถึงเป้า 2% ของ GDP ชาติตนเอง เช่น เนเธอร์แลนด์ ชาติในยุโรปตะวันตก ติดเยอรมนี ประชากร 17 ล้านคน ปี 2021 ที่ผ่านมาอัดงบประมาณ 1.43% ของ GDP ไปกับการซื้ออาวุธ และความมั่นคง แต่สหรัฐ ก็ยังบอกว่ายังไม่พอปี 2022 ต้องเพิ่มงบประมาณซื้ออาวุธให้มากขึ้นอีกถึงเป้า 2% ของ GDP โดยแบ่งปันข่าวกรองลวงว่ารัสเซีย เป็นภัยคุกคามใหญ่มากขึ้นแล้ว
หลอกเนเธอร์แลนด์ ว่าควรจะซื้อเครื่องบินขับไล่ F-35 รุ่นที่ 5 จำนวน 46 ลำแต่จากสงครามยูเครน เนเธอร์แลนด์ ควรซื้ออาวุธมาตุนให้มากกว่านี้เพื่อปกป้องเสรีภาพและประชาธิปไตย ทำให้เนเธอร์แลนด์เชื่อสั่งซื้อเครื่องบินรบ F-35 รุ่นที่ 5 จำนวน 52 ลำ (เพิ่มจากเป้าอีก 6 ลำ) นอกจากนี้ยังสั่งซื้อโดรน MQ-9 Reaper อีก 4 ลำ , ขีปนาวุธร่อน Tomahawk อีกจำนวนหนึ่ง , เครื่องบินขนส่งใหม่อีก 1 ลำ , เฮลิคอปเตอร์พิเศษให้กับกองกำลังนาวิกโยธิน และกำลังสั่งซื้อระบบขีปนาวุธปืนใหญ่เคลื่อนที่สูง HIMARS ที่ยังไม่ระบุจำนวน ส่งผลให้งบประมาณซื้ออาวุธบานเพิ่มขึ้นเกือบ 40% กว่า 12,400 ล้านดอลลาร์
เนเธอร์แลนด์ ยังถูกยุยงให้เบี้ยวจ่ายค่าก๊าซรัสเซียเป็นสกุลรูเบิล จึงถูก Gazprom รัสเซีย ตัดก๊าซไปเรียบร้อย จึงต้องไปอ้อนวอนขอซื้อก๊าซจากเยอรมนี ที่รับจากรัสเซีย มาขายต่อให้อีกทีเพื่อกินส่วนต่างราคาผลกำไร , ส่วนยูเครนนั้น นอกจากเป็นหนี้สินซื้ออาวุธจากสหรัฐ และชาติ NATO ที่รุมกันแบบ “ยูเครนบุฟเฟ่” เกือบ 70,000 ล้านดอลลาร์ แล้ว (เป้าให้กู้ซื้ออาวุธ 100,000 ล้านดอลลาร์) ยูเครน ยังขอกู้ธนาคารโลกอีก 1,490 ล้านดอลลาร์ (รวมหนี้เก่า 4,000 ล้านดอลลาร์) เพื่อเอามาจ่ายเงินเดือนเฉพาะหน้าให้กับประธานาธิบดี คณะรัฐมนตรี ส.ส.พรรครัฐบาล (ฝ่ายค้านถูกยุบหมด) และเงินเดือนข้าราชการ เงินกู้นี้จะไม่ถึงประชาชนเลยแม้แต่เซ็นต์เดียว
ยูเครนบุฟเฟ่ ยังไม่จบ รายงานจากระบบส่งก๊าซยูเครน (GTS) พบว่าปี 2021 ยูเครนผลิตก๊าซได้เอง 13.67 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี แต่ปริมาณการใช้ก๊าซจำนวน 26.80 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี สูงกว่าการผลิตก๊าซในประเทศราว 2 เท่า ด้วยปี 2022 อุตสาหกรรมแหล่งก๊าซภาคตะวันออก พื้นที่สัมปทานถูกสาธารณรัฐลูฮันสก์ และสาธารณรัฐโดเนตสก์ ที่ประกาศแยกเอกราชออกไป ยึดแหล่งก๊าซติดมือไปด้วย ทำให้ตอนนี้ยูเครน ต้องซื้อ “ก๊าซรัสเซีย” โดยส่งย้อนกลับยูเทินมาทางท่อจากชาติในยุโรป คล้ายโปแลนด์ , เนเธอร์แลนด์ , เดนมาร์ก ฯลฯ
แหล่งก๊าซที่เหลือทางภาคตะวันตก ก็เป็นสัมปทานของบริษัทสหรัฐ ทำให้ยูเครน ไม่มีทางเลือก ส่งผลให้นาย Yuriy Vitrenko ที่เป็น CEO ของ Naftogaz ระบุว่า ยูเครนกำลังหารือกับสหรัฐฯ ในการจัดซื้อ และจัดหาแหล่งเงินทุนกู้ยืม สำหรับซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ราคาแพง แทนท่อส่งก๊าซรัสเซีย จากยี่ปั้วยุโรป โดยระยะสั้นเฉพาะหน้าจะต้องนำเข้าก๊าซมูลค่าสูงถึง 8,000 ล้านดอลลาร์ เขาระบุว่า “ก๊าซเหลว LNG สหรัฐ ที่ขนใส่เรือจากอีกซีกโลกมาขายราคาแพงกว่า 5 เท่า ของก๊าซรัสเซียเพื่อนบ้าน และส่งย้อนกลับมาจากยุโรป เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด”
ในขณะที่ชาวโปแลนด์ขาดแคลนก๊าซ ต้องใช้ชีวิตย้อนยุคโดยเข้าป่าหาฟืนมาหุงหาอาหารและบรรเทาความหนาวต้องจ่ายค่าฟืนไม้ให้กับหน่วยงานป่าไม้โปแลนด์ แต่บุฟเฟ่ยูเครน ยังไม่จบ เมื่อโปแลนด์ ปล่อยเงินกู้รอบใหม่ให้ยูเครน ซื้ออาวุธเก่าจากตนอีกกว่า 630 ล้านดอลลาร์ เพื่อที่โปแลนด์ จะนำเงินนี้ไปจ่ายเงินงวดค่าซื้อเครื่องบินรบ และรถถังใหม่ให้กับสหรัฐ ที่รับประกันหนี้ให้ยูเครนก่อนโดยใช้ดินแดนยูเครนตะวันตกค้ำประกัน , ยังไม่นับหนี้ก้อนใหม่ที่ยุโรป จะวางรางรถไฟกว้างบังคับให้ยูเครน ขนธัญพืช ข้าวสาลี ข้าวโพดไปใช้หนี้อีกหลายสิบหรืออาจเกือบร้อยปี , ด้านประธานาธิบดีเซเลนสกี้ แห่งยูเครน ระบุว่า ” เราจะเป็นฝ่ายชนะ เมื่อยึดคืนดินแดนของเราทั้งหมดโดยสมบูรณ์”..ยูเครน ยุโรป ไม่ต้องกลัว สหรัฐ จะยืนเคียงข้างเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยหนี้เสมอ..สู้ต่อไป ชนะจนสิ้นเนื้อประดาตัวแน่นอน