มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่เยอรมนีกำหนดเล่นงานก๊าซพรอม เยอรมาเนียและบรรดาบริษัทลูกตามคำสั่งวอชิงตัน ส่งผลทำให้บรรดาผู้เสียภาษีเยอรมนีและผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติ ต้องแบกภาระเพิ่มเติมอีก ๕,๐๐๐ ล้านยูโร หรือประมราณ ๑.๘ แสนล้านบาท ต่อปี สำหรับจ่ายค่าก๊าซทดแทนจากที่รัสเซียตอบโต้ตัดก๊าซ ตามรายงานของนิตยสารรายสัปดาห์ เวลท์แอมซอนนัก(Welt am Sonntag) โดยอ้างคำสัมภาษณ์บรรดาตัวแทนภาคอุตสาหกรรม
วันที่ ๖ มิ.ย. ๒๕๖๕ สำนักข่าวรอยเตอร์และรัสเซียทูเดย์รายงานว่า มาตรการคว่ำบาตรตอบโต้ของรัสเซียที่เยอรมนีกำหนดเล่นงานก๊าซพรอม เยอรมาเนียและบรรดาบริษัทลูก อาจทำให้บรรดาผู้เสียภาษีเยอรมนีและผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติ ชาวเยอรมันต้องแบกภาระภาษีเพิ่มเติมอีก ๕,๐๐๐ ล้านยูโร ประมาณ ๑.๘ แสนล้านบาทต่อปี สำหรับจ่ายค่าก๊าซทดแทน ตามรายงานของนิตยสารรายสัปดาห์เวลท์แอมซอนนัก( Welt am Sonntag) โดยอ้างคำสัมภาษณ์บรรดาตัวแทนภาคอุตสาหกรรม
ในเดือนพฤษภาคม รัสเซียตัดสินใจหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติป้อนแก่ก๊าซพรอม เยอรมาเนีย ซึ่งเป็นบริษัทลูกในเยอรมนีของก๊าซพรอม หลังจากถูกหน่วยงานพลังงานเบอร์ลินเข้ายึดกิจการ สืบเนื่องจากการปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนของรัสเซีย โดยอ้างว่าจำเป็นต้องทำเพื่อปกป้องอุปทานที่พอเพียงในเยอรมนี แม้รัสเซียเตือนว่าจะถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่เยอรมนีก็หน้ามืดถือว่าตะวันตกเป็นต่อในทุกด้าน เลยได้แต่ท่อก๊าซเปล่า
นับตั้งแต่นั้น หน่วยงานบุนเดสเน็ตซาเกนเตอร์(Bundesnetzagentur) ผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านพลังงาน ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้ดูแลผลประโยชน์ จำเป็นต้องหาซื้อก๊าซธรรมชาติมาทดแทน เพื่อปฏิบัติตามสัญญาจัดหาอุปทานป้อนแก่บริษัทสาธารณูปโภคท้องถิ่นและซัปพลายเออร์ท้องถิ่น เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาดในประเทศ และก็ต้องจ่ายราคาแพงขึ้น
โฆษกของกระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนี คาดการณ์ว่าจำเป็นจะต้องหาก๊าซทดแทนราว 10 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน “มีการจัดซื้อจัดหาปริมาณมากในตลาดและ ณ ราคาตลาด ไม่มีข้อมูลที่สามารถให้จำนวนที่แน่จริง สืบเนื่องจากมันเป็นความลับทางการค้า”
เวลท์แอทซอนแท็ก(Welt am Sonntag) รายงานว่า ณ ราคาปัจจุบัน ซึ่งเทียบเท่ากับ ๓,๕๐๐ ล้านยูโรต่อปี ขณะเดียวกัน ยังมีต้นทุนด้านการกักเก็บก๊าซดังกล่าวเพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังมีค่าธรรมเนียมก๊าซที่ต้องจัดเก็บเพิ่มเติมกับซัปพลายเออร์และผู้บริโภคต่ออีกทอดหนึ่งด้วย ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีนี้เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม ทางโฆษกกระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนียังปากแข็งยืนยันว่าอุปทานก๊าซธรรมชาติของประเทศไม่อยู่ในความเสี่ยงใดๆ เป็นการปลอบใจตัวเองไป รอดูหน้าหนาว รัฐบาลเยอรมนีจะหนาวแค่ไหนหลังจากประชาชนไม่ทน
ด้านภาวะเศรษฐกิจล่าสุดของเยอรมนีก็สาหัสไม่แพ้สหรัฐและกลุ่มประเทศยุโรปหลักๆที่คว่ำบาตรรัสเซียเจอเงินเฟ้อกระฉูด ทั้งฝรั่งเศส อังกฤษ อิตาลี
อัตราเงินเฟ้อรายปีของเยอรมนี พุ่งสู่ ๗.๙% ในเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๕ แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบครึ่งศตวรรษ จากตัวเลขประมาณการอย่างเป็นทางการที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ที่ ๓๐ พ.ค.ที่ผ่านมา
สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อในชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของยุโรปแห่งนี้เมื่อเทียบเป็นรายปี เพิ่มขึ้นจากระดับ ๗.๔% ในเดือนเมษายน ด้วยราคาพลังงานสูงกว่าเดือนพฤษภาคมปีก่อนถึง ๓๘.๓% และราคาอาหารสูงกว่าช่วยเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ๑๑.๑%
ข้อมูลดังกล่าวถือเป็นอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดของเยอรมนีนับตั้งแต่ช่วงฤดูหนาวปี ๑๙๗๓-๑๙๗๔ ครั้งที่วิกฤตน้ำมันโหมกระพือราคาให้พุ่งสูงเช่นกัน ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนี ดีดตัวสูงขึ้นอยู่ก่อนแล้ว แตะระดับ ๕.๑% ในเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนพุ่งทะยานเหนือ ๗% ในเดือนมีนาคม ตามหลังรัสเซียรุกรานยูเครน
เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ๐.๙% ในเดือนพฤษภาคม
ในรายงานอีกฉบับ สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีระบุว่า รายได้ที่แท้จริงของประชาชนในเยอรมนี ลดลง ๑.๘% ในไตรมาสแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ผลจากภาวะเงินเฟ้อ
ไม่นานก่อนข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดถูกเผยแพร่ออกมา คริสเตียน ลินด์เนอร์ รัฐมนตรีคลังของเยอรมนี ระบุว่า เป้าหมายสูงสุดเวลานี้ควรเป็นการต่อสู้ภับเงินเฟ้อ “เงินเฟ้อคือความเสี่ยงทางเศรษฐกิจใหญ่หลวง และเราต้องต่อสู้กับเงินเฟ้อนี้ เพื่อไม่ให้วิกฤตเศรษฐกิจลุกลาม”
ความหน้ามือตามัวของผู้นำเยอรมนี กำลังนำพาประเทศชาติและประชาชนเยอรมันตกลงในหุบเหวแห่งหายนะ ด้วยมั่นใจในชัยชนะของตะวันตกที่มีสหรัฐเป็นแกนนำเหนือรัสเซีย ด้วยการประเมินที่ผิดพลาดและไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ระเบียบโลกใหม่ที่นานาชาติ ทั้งเอเชีย อาฟริกา ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง กำลังปรับตัวยอมรับอย่างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆแล้ว ยุคสมัยแห่งขาลงของอำนาจเดียวจากตะวันตกเริ่มขึ้นและจะไม่ย้อนกลับ หากเยอรมนีและประเทศในยุโรปอื่นๆยังไม่ตื่นไม่เปลี่ยนแปลง จะบาดเจ็บหนักกว่าภูมิภาคอื่นๆในที่สุด!!