สหรัฐ-นาโต้ช็อคหนัก! เครื่องบินขนยุทโธปกรณ์ถูกยิงดิ่งพื้น! ขณะยูเครน ยิงจรวดสวน ตกในเขตชุมชนทำปชช.เสียชีวิตอื้อ!

0

สหรัฐ-นาโต้ช็อคหนัก! เครื่องบินขนยุทโธปกรณ์ถูกยิงดิ่งพื้น! ขณะยูเครน ยิงจรวดสวน ตกในเขตชุมชนทำปชช.เสียชีวิตอื้อ!

จากกรณีที่กระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลงว่า กองทัพได้ยิงเครื่องบินขนส่งทหารของยูเครนตกใกล้เมืองท่าโอเดสซาในทะเลดำ ซึ่งเครื่องบินลำนี้ของยูเครนบรรทุกอาวุธยุทโธปกรณ์และเครื่องกระสุน นอกจากนี้ รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธหลายลูกโจมตีศูนย์ฝึกทหารปืนใหญ่ในภูมิภาคซูมีของยูเครน และยังทำลายฐานปฏิบัติการของทหารรับจ้างต่างชาติในเมืองโอเดสซาด้วย

กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ได้แพร่ภาพที่เฮลิคอปเตอร์ KA-2 หลายลำ บรรจุกระสุนเต็มพิกัด โจมตีเป้าหมายต่าง ๆ ในยูเครน ขณะเดียวกัน เดวิด อาราคาเมีย ผู้แทนเจรจาของยูเครน เปิดเผยว่า ยูเครนต้องการความช่วยเหลือด้วยอาวุธใหม่จากชาติตะวันตก ก่อนการเจรจาสันติภาพกับรัสเซียกลับมาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ยูเครน อ้างว่า ได้ยึดคืนพื้นที่บางส่วนของเมืองอุตสาหกรรม เซโวโรโดเนตสก์ในภูมิภาคลูฮันสก์

ล่าสุดทางเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ยูเครน ถูกถล่มเมืองหลวง และเครื่องบินขนอาวุธ NATO ร่วง โดยอ้างอิงจากกลาโหมรัสเซียและสื่ออิสระยูเครน ระบุว่า 

สถานการณ์ในยูเครนนั้น ฝรั่งเศส และอิตาลี ต้องการให้ยูเครน เจรจาแบ่งปันเขตแดนยุติการสู้รบกับรัสเซีย ก่อนจะถูกยึดดินแดนไปมากกว่านี้ แต่สหรัฐ และอังกฤษ ไม่ต้องการหยุด เพราะต้องการจะขายอาวุธเก่าโล๊ะสต็อค กับอาวุธใหม่ ที่ทางกลาโหมสหรัฐ สั่งบริษัท ผลิตอาวุธไปแล้ว และแบ่งปันข่าวกรองลวงให้ชาติอื่นๆ เร่งสั่งซื้ออาวุธมาตุน จึงยุให้ยูเครน สู้ต่อไปแต่ห้ามยิงข้ามเขตแดนไปตกในเขตรัสเซีย เพราะเสี่ยงจะโดนอาวุธไฮเปอร์โซนิคสวนกลับไปถึงสหรัฐได้
กองทัพรัสเซีย จึงมุ่งถล่มตัดเส้นทางลำเลียงอาวุธ และเชื้อเพลิงที่ยังหลงเหลือ โดยใช้ขีปวุธครูซมิสไซล์ จากทะเลดำ ปล่อยมาถล่มเส้นทางรถไฟปิดปากอุโมงค์ Beskydy ที่เจาะผ่านเทือกเขาคาร์เพเทียน ความยาวราว 2 กม. ใช้ในการขนส่งสินค้าราว 60% ไปยังยุโรปตะวันตกและยุโรปกลาง , ใช้ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานสอยเครื่องบินขนส่งอาวุธ NATO ที่บินขึ้นมาจากโรมาเนีย และตกที่เมืองท่าโอเดสซา อาวุธพังหมดสิ้น , สอยโดรนสอดแนมสหรัฐ ในน่านฟ้าทะเลดำ จมลงทำแนวปะการังเทียม
ยิงถล่มเมืองท่าโอเดสซา และปล่อยครูซมิสไซล์ถล่มท่าเรือ Nika-Tera ที่แคว้นนิโคลาเยฟ ของรัฐบาลยูเครนเละเป็นจุลเสียหายยับเยิน , ส่วนสมรภูมิเซเวโรโดเนตสค์ นั้นไม่พบการยึดคืนพื้นที่ 20% ตามที่สื่อตะวันตกและสื่อไทยรายงาน เพราะกองทัพสาธารณรัฐลูฮันสก์ และนักรบเชเชน ได้ยึดพื้นที่ไว้ 80% แล้วของเมือง ส่วนฝ่ายทหารรับจ้างกองพัน Azov ของ NATO ถอยไปอยู่ในบริเวณโรงงานเหล็ก และชานเมืองซึ่งมีพื้นที่ 20% อยู่แล้วจึงไม่มีการยึดคืนใดๆ มีแต่ทหารกองหนุนยูเครนถอยทัพแยกเป็นกลุ่มเล็กๆ เพื่อไปยังเมืองลิซิชานสค์ คนละฝั่งแม่น้ำเท่านั้น
มีรายงานยืนยันพบทหารรับจ้าง Azov ของ NATO จากฝรั่งเศส, เยอรมนี, ออสเตรเลีย และเนเธอร์แลนด์ เป็นปุ๋ย , ผู้บัญชาการรบพื้นที่นี้คือ นางมาเรียนา เบซูกลายา นักการเมืองรองหัวหน้าพรรครัฐบาลยูเครน เธอรับมอบอำนาจมาจากประธานาธิบดี และเดินทางมาพร้อมด้วยทหารรับจ้าง NATO หลายชาติ เธอเป็นพวกหัวรุนแรง เป็นผู้เสนอกฎหมายให้ยิงทิ้ง ทหารกองหนุนยูเครน ที่ปฏิเสธการสู้รบ พยายามหนีทัพ หรือเพิกเฉย ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งรัฐบาลยูเครนที่ให้ไปสละชีวิตที่แนวหน้าสู้รบ , เมื่อคืนที่ผ่านมารัฐบาลยูเครน สั่งจากกรุงเคียฟให้นักรบฝ่ายยูเครนใช้จรวดหลายลำกล้อง BM-21 Grad 122 mm. ที่ยังพอมีเหลือยิงจรวดอย่างน้อย 40 ลูกใส่แนวหลังใส่ที่อยู่อาศัยเขตพลเรือนชาวสลาฟ ในเขตสาธารรัฐโดเนตสค์
ส่งผลให้ชาวบ้านที่ไม่รู้อะไรด้วยบาดเจ็บ 40 รายและเสียชีวิตอีก 12 ราย เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมา 8 ปี ตั้งแต่ปี 2014 แล้วมีชาวบ้านเสียชีวิตกว่า 14,000 ราย แต่สื่อตะวันตกและสื่อไทยไม่เคยรายงานข้อมูลนี้ออกมาสู่ชาวโลก นับแต่รัสเซียปฏิการทางทหารมากว่า 3 เดือน และทำลายอาวุธของ NATO และยูเครนไปมาก เหตุล้างเผ่าพันธุ์ก็บรรเทาลงมาก หรืออาจจะเรียกได้ว่าอาวุธ NATO ที่ส่งอาวุธ และกำลังพลมายูเครน เพื่อมาล้างเผ่าพันธุ์พลเรือนชาวสลาฟก็ไม่ผิดนัก ส่งผลให้กองทัพรัสเซียเอาคืน ระดมยิงครูซมิสไซล์ Kh-101 จากเครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-95MS จำนวน 6 ลูกโจมตีกรุงเคียฟเมืองหลวงยูเครน
ทำลายสถานที่สำคัญศูนย์กลางบัญาชาการของรัฐบาลยูเครนหลายแห่งพังราบ มีปุ๋ยเพิ่มอีกหลายราย , รวมทั้งทำลายศูนย์ขนส่งอาวุธทางรางใช้ไม่ได้อีกนาน , ทำสุสานรถถัง T-72 , รถถังรุ่นอื่น รถหุ้มเกราะนานาชนิดจำนวนมาก ที่เพิ่งส่งมาถึงจากโปแลนด์ และ NATO , ด้านประธานาธิบดีเซเลนสกี้ แห่งยูเครน ออกมาเดือดหัวฟัดหัวเหวี่ยงไม่พอใจระบุว่า “รัสเซียโหดมาก และต้องฝ่ายแพ้ในศึกนี้ และเราจะฝ่ายชนะ”..ยูเครน มีกุญซือวางแผนการรบเป็นเด็ก 9 ขวบลูกผู้นำเอง มีผู้บัญชาการรบ เป็นนักการเมืองหญิง ที่สั่งยิงทิ้งผู้หนีทัพ แบบนี้สบายใจได้ ชนะยับเยินแน่นอน