งงตาแตกทั้งโลก!? สตรีหมายเลข 1 ยูเครน เผยเอง หัวหน้าทีมกุญซือบัญชาการรบตัวจริง คือลูกชาย วัย 9 ขวบ!?
ล่าสุดทางด้านของ เพจสาธารณะชื่อ World Update ได้เปิดเผยรายงานที่เรียกได้ว่าน่าตกใจเป็นอย่างมากสำหรับคนทั้งโลก โดยอ้างว่านำข้อมูลมาจาก Reuters , Dailymail , Ria , Aljazeera, Afpforum , สื่ออิสระยูเครน , สื่ออิสระสาธารณรัฐลูฮันสก์ และเชเชนรัสเซีย โดยมีรายละเอียดว่า “รัสเซีย ปาดเหงื่อ ยูเครน ใช้หัวหน้าทีมสุดยอดกุญซือบัญชาการรบ เป็นเด็ก 9 ขวบ”
เมืองเซเวโรโดเนตสก์ เมืองอุตสาหกรรมที่สำคัญอยู่แคว้นลูฮันสก์ ภูมิภาคดอนบาส ห่างจากกรุงเคียพ ไปทางทิศตะวันออกราว 1,400 กม. ในบริเวณนี้ย่านนี้มีแหล่งสัมปทานก๊าซขนาดใหญ่ ของบริษัทพลังงานอังกฤษ เมืองนี้ยังมีจุดเชื่อมต่อท่อก๊าซที่จะส่งไปยังยุโรปด้วย อังกฤษ จึงหวงเมืองนี้มาก
จึงพบบรรดาทหารรับจ้าง Azov NATO ชาวอังกฤษ ถอยมาจากเมืองท่ามาริอูโปล ที่พ่ายแพ้ยับเยิน มาปักหลักอยู่ที่เมืองนี้ ปัจจุบันศูนย์กลางบัญชาการบริหารเมือง และอาคารหน่วยความมั่นคง SBU ได้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพสาธารณรัฐลูฮันสก์ และนักรบเชเชน ฝ่ายรัสเซียเรียบร้อยแล้ว
ฝ่ายยูเครน ได้ถอยร่นออกไปอยู่ชานเมืองเขตอุตสาหกรรมคล้ายโรงงานเหล็กอาชอฟสตาล กองทัพพันธมิตรรัสเซีย จึงได้ยึดโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ และปิดการส่งก๊าซบางส่วนไปยุโรป เป็นการส่งสัญญาณถึง อังกฤษ และ EU ว่ารัสเซียได้ยึดแหล่งสัมปทานก๊าซมาได้อีกแห่งแล้ว
นายเซอร์ฮี ไฮได ผู้ว่าการแคว้นลูฮานสก์ จากฝ่ายยูเครน ที่เผ่นหนีออกเมืองไปแล้ว ยอมรับว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองเซเวโรโดเนตสก์ ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียแล้ว โครงสร้างพื้นฐานสำคัญถูกยึดเกือบทั้งหมด ส่วนนายโรมัน วลาเซนโก นายกเทศมนตรีเซเวโรโดเนตสก์ คนของยูเครน ที่เผ่นหนีออกจากเมืองไปเช่นกัน ก็ระบุสอดคล้องกันว่า รอบเมืองนี้ ทางยูเครนก็ไม่สามารถควบคุมได้แล้ว
ประธานาธิบดีเซเลนกี้ แห่งยูเครน เองก็ยอมรับว่า หากยูเครนต้องสูญเสียเมืองเซเวโรโดเนตสก์ และเมืองหน้าด่านโดยรอบ “จะถือเป็นความพ่ายแพ้ ที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อสถานการณ์การสู้รบเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นเขตอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ”
ด้านนายแอนเดรย์ เทอชัค นักการเมืองรัสเซีย คนสำคัญระบุว่า แคว้นลูฮานสก์ แคว้นโดเนตสก์ เมืองเคียร์ซอน และเมืองซาปอริสเซีย ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมเหล็กขนาดใหญ่ ที่ถูกฝ่ายรัสเซียยึดดินแดนไปก่อนหน้านี้ จะถูกผนวกเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซีย เพื่อ ความมั่นคง และเสถียรภาพ ผ่านการจัดทำประชามติลงคะแนนเสียงและพื้นที่ใดยึดได้เพิ่ม ก็จะไล่ทำประชามติในแต่ละพื้นที่ต่อไป
กองทัพรัสเซีย ยังส่งทหารจำนวนมากพร้อมอาวุธหนักเคลื่อนออกจากเมือง Kursk ในเขตรัสเซีย มุ่งตรงไปยังชายแดนติดยูเครน ลักษณะร่วมกับกองทัพลูฮันสก์ เชเชน ปิดล้อมรุมตีฝ่ายยูเครน ทุกทิศทาง ผสานกับระดมยิงปืนใหญ่ จรวดเทอร์โบบาริกแตกกลางอากาศ และอาวุธทดลองใหม่ๆ ใส่พวกทหารรับจ้าง Azov
หน่วยความมั่นคง SBU และทหารกองหนุนยูเครน ที่ทุกพื้นที่ได้อยู่ในวงล้อมปากอ้าขนาดย่อยหลายจุดที่เสียเปรียบกลศึกฝ่ายรัสเซียที่เชี่ยวชาญกว่าอย่างมาก คล้ายทีมกุญซือบัญชาการรบฝ่ายยูเครน ขาดประสบการณ์ในสนามรบจริงอย่างมาก ขนาดพื้นที่รัสเซียยึดได้ขณะนี้ (รวมไครเมีย) ขนาดเท่าพื้นที่ 3 ประเทศ อังกฤษ อิตาลี และเยอรมนี รวมกัน
ด้านนางโอเลนา เซเลนสกี้ ภรรยาประธานาธิบดีเซเลนสกี้ แห่งยูเครน พร้อมลูกสาว ที่ได้รับสัญชาติอังกฤษ เพราะสามีของเธอซื้ออาวุธจากสหราชอาณาจักรจำนวนมาก และยังให้สัมปทานก๊าซกับบริษัทพลังงานอังกฤษแถวเมืองเซเวโรโดเนตสก์อีกด้วย เธอเคยให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ภาคเช้าของอังกฤษ ว่า “ยูเครนต้องการอาวุธ ดังนั้น เราขอให้ชาติตะวันตกอย่าหยุดส่งอาวุธหนัก และเร่งความเร็วของการจัดหาอาวุธขึ้นอีก”
ล่าสุดเธอให้สัมภาษณ์สื่ออังกฤษอีกครั้งว่า “ลูกชายวัย 9 ขวบ (ราวประถมศึกษาที่ 3) ของเธอกับผู้นำยูเครน คือ กุนซือใหญ่ด้านการทหาร ให้กับประธานาธิบดียูเครน ในการต่อกรบัญชาการรบกับกองทัพรัสเซีย”
เธอระบุต่อว่า “ลูกน้อยเป็นนักรัฐศาสตร์ เขารู้ทุกอย่าง เขาให้คำแนะนำด้านการทหารแก่พ่อของเขา สิ่งที่ควรซื้อทั้งรถถัง เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ แบบไหนที่เราต้องซื้อ สิ่งที่เราขาดไป ประเทศไหนช่วยเราได้ไม่ดี ประเทศไหนช่วยเราได้ดี เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทหาร”..สหรัฐ NATO และชาวยูเครน สบายใจได้ มาถูกทางแล้ว สู้ต่อไป ชนะแน่นอน
