หลังจากที่ช่วงต้นเดือนเมษายน 2565 ได้มีสื่อตะวันตก รายงานอ้างว่า ปูตินกำลังป่วยมะเร็ง และจะแต่งตั้งพลทหารคนสนิทคนมาควบคุม บัญชาการสถานการณ์สู้รบในยูเครนแทน แต่นั่นก็ไม่ได้มีข้อมูลเปิดเผยจากรัสเซียยืนยัน ว่าปูตินป่วยจริงหรือไม่ รวมทั้งการลงพื้นที่ และออกมาแถลงข่าว ปูตินก็ไม่ได้มีท่าทีเหมือนคนป่วยแต่อย่างใด
ต่อมาได้มีสื่อดังของอังกฤษ พาดหัวข่าวว่า “Vladimir Putin ‘given three years to live’ and ‘is losing his eyesight due to illness’ spy claims” จนต่อมาทำให้โซเชียลมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม โดยระบุว่าปูตินจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 3 ปี
ล่าสุดทางด้านเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่ระบุว่าประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน กำลังป่วย และไม่คิดว่าคนมีสติดีคนไหนจะสามารถเห็นได้ว่าคนผู้นี้ป่วยหรือเป็นโรค
ก่อนหน้านี้มีข่าวลือที่ยังไม่ได้การยืนยันว่าประธานาธิบดีปูตินซึ่งปีนี้กำลังจะอายุครบ 70 ปี อาจกำลังป่วย โดยมีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นโรคมะเร็ง ซึ่งเป็นหนึ่งในแรงกระตุ้นที่ทำให้เขาตัดสินใจบุกรุกยูเครน
ในเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา เริ่มมีการพูดถึงข่าวลือดังกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่มีการบันทึกภาพว่าประธานาธิบดีปูตินกำลังไอและไม่สามารถอยู่นิ่งได้เป็นเวลา 12 นาที ระหว่างที่เขากำลังนั่งอัดแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ในเมืองมาริอูโปล
ในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของฝรั่งเศส นายลาฟรอฟยืนยันว่าผู้นำรัสเซียไม่ได้ป่วย จากการที่เขาปรากฎตัวต่อสาธารณะทุกวัน สามารถดูได้จากในจอ รวมถึงอ่านหรือฟังสุนทรพจน์ได้
นอกจากนี้ ทางรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียยังยืนยันว่า การคว้าชัยชนะในโดเนตสก์และลูฮันสก์ สองแคว้นทางตะวันออกของยูเครนที่รัสเซียประกาศให้เป็นรัฐอิสระ ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างไม่มีเงื่อนไข
แต่นายลาฟรอฟกล่าวเสริมว่า ทั้งหมดนี้ต้องขึ้นอยู่กับประชาชนที่เหลือของยูเครน ซึ่งถ้าเกิดประชาชนรู้สึกยินดีที่จะกลับไปสู่การปกครองของนีโอนาซี ก็เป็นการพิสูจน์ว่าคนเหล่านั้นมีอาการหวาดกลัวรัสเซียอยู่