เรือรบรัสเซียคุ้มกันฝั่งทะเลอาซอฟ! สหรัฐจะขนข้าวสาลี20ล้านตันผ่านต้องถามปูตินก่อน

0

จากสถานการณ์ในโอเดสซา เมืองท่าที่สำคัญทางตอนใต้ของยูเครน รวมถึงพื้นที่บริเวณท่าเรือ ถูกโจมตี ต่อมามีการเรียกร้องให้ยุติการปิดล้อมท่าเรือโดยรัสเซียในทันที เพื่อให้สามารถขนส่งข้าวสาลีและป้องกันวิกฤตการณ์อาหารทั่วโลกได้นั้น

ทั้งนี้ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี  กล่าวว่า การค้าที่ท่าเรือหยุดนิ่งและขอให้ต่างชาติมาช่วยยุติการปิดล้อมของรัสเซีย เพื่อให้มีการขนส่งข้าวสาลีและป้องกันวิกฤติอาหารโลก เป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษที่ท่าเรือโอเดสซาไม่มีการเคลื่อนย้ายเรือเดินทะเล ไม่มีงานท่าเรือ สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2

“นี่ไม่ใช่แค่ระเบิดในยูเครนเท่านั้น หากปราศจากการส่งออกสินค้าเกษตรหลายสิบประเทศในส่วนต่างๆ ของโลกก็ใกล้จะขาดแคลนอาหาร และเมื่อเวลาผ่านไป สถานการณ์ก็อาจกลายเป็นเรื่องที่น่ากลัว ซึ่งต้องใช้ทำทันทีเพื่อปลดบล็อกท่าเรือของยูเครนสำหรับการส่งออกข้าวสาลี” เซเลนสกี กล่าว

ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก Thailand Vision ได้โพสต์ข้อความโดยระบุแหล่งที่มาของข่าวไว้ในกรณีการจัดส่งอาหารไว้อย่างน่าสนใจบางช่วงว่า

“สื่อต่างประเทศรายงานว่า วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย หารือเรื่องสถานการณ์ในยูเครนและความมั่นคงทางอาหารระดับโลก ระหว่างสนทนาทางโทรศัพท์กับเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และโอลาฟ ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี

แถลงการณ์จากทำเนียบเครมลิน ระบุว่าปูตินแจ้งมาครง และชอลซ์เกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดของปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซียในยูเครน โดยระบุว่ากองทัพรัสเซียปฏิบัติตามบรรทัดฐานของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด

สำหรับประเด็นการเจรจาสันติภาพระหว่างคณะผู้แทนของรัสเซียและยูเครน ปูตินยืนยันว่ารัสเซียพร้อมที่จะกลับมาเริ่มการเจรจานี้ที่เคยถูกระงับไว้ ปูตินยังวิพากษ์วิจารณ์การจัดหาอาวุธให้กับยูเครนของกลุ่มประเทศตะวันตก ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์ความมั่นคงย่ำแย่ลง และทำให้วิกฤตด้านมนุษยธรรมรุนแรงยิ่งขึ้น

เมื่อหารือถึงประเด็นการรับรองความมั่นคงทางอาหารระดับโลก ปูตินระบุว่าอุปสรรคด้านการจัดหาอาหารนั้นเกิดจากนโยบายทางเศรษฐกิจและการเงินที่ผิดพลาดของกลุ่มประเทศตะวันตก รวมถึงมาตรการคว่ำบาตรที่ประเทศเหล่านี้มีต่อรัสเซีย

ปูตินระบุว่ารัสเซียพร้อมช่วยหาทางเลือกสำหรับการส่งออกธัญพืชแบบไร้อุปสรรค ซึ่งรวมถึงการส่งออกธัญพืชของยูเครนจากท่าเรือแห่งต่างๆ ในทะเลดำ และการเพิ่มการจัดส่งปุ๋ยและผลผลิตการเกษตรของรัสเซียจะช่วยลดความตึงเครียดในตลาดอาหารโลก ซึ่งจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่เกี่ยวข้องเสียก่อน”

ด้าน ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกมาเปิดเผยถึงการส่งออกข้าวสาลี ซึ่งเป็นอาหารที่สำคัญของคนตะวันตกไว้ด้วยว่า

“ฝั่งทะเลอาซอฟที่เมืองมารีอูปอล ได้รับการกวาดล้างกับระเบิด ในทะเลเองก็มีการกวาดล้างทุ่นระเบิดไปหมดแล้ว เปิดการค้าขายทางทะเลกับมิตรประเทศได้ตามปกติ

มีเรือรบรัสเซียลอยลำคุ้มกันอยู่ใกล้ๆ แต่อเมริกาจะขนข้าวสาลี 20 ล้านตันผ่านทะเลอาซอฟไปจากยูเครนได้ ต้องถามรัสเซียก่อน”

ก่อนหน้านี้ เพจ World Update เปิดเผยข้อมูลที่สำคัญไว้บางส่วนว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซีย แจ้งเรือสินค้าต่างชาติ 6 ลำ ที่ไม่คว่ำบาตรรัสเซีย ได้รับการอารักขาออกจากท่าเรืออาซอฟได้อย่างเสรีแล้ว คือ บัลแกเรีย โดมินิกา ไลบีเรีย ปานามา ตุรกี และจาไมกา

“โดยประธานาธิบดีปูติน แห่งรัสเซีย บอกกับนายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากิ แห่งอิตาลี ทางสายด่วนว่าชาติที่ยกเลิกคว่ำบาตรรัสเซีย จะได้รับการอารักขาเรือสินค้าออกไปส่งอย่างปลอดภัยที่ปากช่องแคบบอสฟอรัส เพราะรัสเซีย รู้ว่ากองเรือรบ NATO เหล่านั้นใช้ข้ออ้างชิงธัญพืช แต่แท้จริงคือรุกกองเรือเข้าทะเลดำ เปิดแนวรบประจัญหน้ากองเรือรัสเซียทางทะเล เปิดทางขนอาวุธหนักมาให้ยูเครน”