สถานการณ์สู้รบในสมรภูมิยูเครน ยังคงเดือดระอุทุกวัน ภายใต้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซีย ล่าสุดสามารถปลดปล่อยภูมิภาคดอนบาส ซึ่งเป็นที่ตั้งของสาธารณโดเนตสก์และลูฮันสก์ อย่างสมบูรณ์เมื่อสามารถควบคุมเมืองลิมาน ที่มั่นสุดท้ายได้แล้ว ทั้งนี้ส่งผลให้เซเลนสกี้มีท่าทีต้องการเจรจากับรัสเซีย และเดินทางไปเยือนแนวหน้าครั้งแรกโดยลงโทษแม่ทัพไล่ออกฐานแพ้รัสเซีย แต่คล้อยหลังวันเดียว เมื่อสหรัฐและตะวันตกส่งสัญญาณจะส่งอาวุธหนักใหัพร้อมเงินสนับสนุน ปธน.เซเลนสกี้ก็เปลี่ยนท่าทีจะยึดดอนบาสกลับคืนมาด้วยกำลังอีกครั้ง

วันที่ 29 พ.ค.2565 สำนักข่าวทาซซ์และรอยเตอร์รายงานว่า เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า การปลดปล่อยภูมิภาคดอนบาสของยูเครนมีความสำคัญลำดับต้นๆ โดยปราศจากข้อแม้สำหรับมอสโกว์ ส่วนดินแดนอื่นๆ ของยูเครนนั้นควรตัดสินใจอนาคตของพวกเขาเอง
ลาฟรอฟ ให้สัมภาณ์กับสถานีโทรทัศน์ TF1 สื่อมวลชนของฝรั่งเศส ในขณะที่รัสเซียเดินหน้าปฏิบัติการพิเศษทางทหารเพื่อหยุดยั้ง การทำลายล้างชาวรัสเซียในพื้นที่แคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์
เขากล่าวย้ำว่า “การปลดปล่อยแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ ที่ได้รับการรับรองจากสหพันธรัฐรัสเซียในฐานะรัฐเอกราช คือความสำคัญลำดับต้นๆ ที่ปราศจากข้อแม้” ลาฟรอฟระบุในถ้อยแถลงที่เป็นลายลักษณ์อักษร ที่เผยแพร่โดยกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย
นอกจากนี้ ลาฟรอฟยังกล่าวเสริมว่า การคว่ำบาตรต่อต้านรัสเซียที่วางแผนไว้นานแล้วของสหรัฐและพันธมิตรไม่น่าจะถูกยกเลิกโดยง่าย แต่รัสเซียจะไม่ยอมให้ตะวันตกสร้างโลกขั้วเดียวที่วอชิงตันประกาศด้วยความยินยอมของยุโรป เพราะเพื่อสิ่งนี้พวกเขาจึงต้องทำลายล้างรัสเซีย นักวิเคราะห์การเมืองตอนนี้บอกว่าจากมุมมองของอนาคต ยุโรปจะอ่อนแอยิ่งขึ้นในที่สุด
ลาฟรอฟกล่าวต่อไปว่ารัฐบาลเคียฟยังคงสังหารพลเรือนเป็นเวลานานถึงแปดปี ในขณะที่ยุโรปเพิกเฉยและบอกรัสเซียว่ามอสโกต้องบรรลุข้อตกลงมินสค์หากรัฐบาลเคียฟไม่ต้องการ
เขากล่าวอีกว่า “ตอนนี้ วลาดิมีร์ เซเลนสกี้ กำลังประกาศความพร้อมสำหรับการเจรจา แต่ก่อนอื่น พวกเขาต้องการคืนทุกสิ่งที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา ณ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ จากนั้นพวกเขาจึงจะเจรจา นั่นคือเหตุผลที่เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรับรู้ถึงความเป็นอิสระของ สาธารณรัฐเหล่านั้น” “สำหรับเรา มันคือปฏิบัติการทางทหารภายใต้คำร้องขออย่างเป็นทางการจากโดเนตสก์ และ ลูฮันสก์ประเทศอธิปไตย ตามมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ ที่เล็งเห็นถึงสิทธิในการป้องกันตัวส่วนบุคคลและส่วนรวม เรากำลังปกป้องผู้คนเหล่านั้นและช่วยเหลือพวกเขา เพื่อฟื้นฟูบูรณภาพแห่งดินแดนของตน”
ขณะเดียวกัน ปธน.เซเลนสกีแห่งยูเครน ได้ปรากฏตัวเยือนแนวหน้าครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดสงคราม อีกทั้งประกาศไล่ออก ผบ.ความมั่นคงฐานสู้แล้วแพ้แก่รัสเซีย
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนยอมรับก่อนหน้านี้ว่าเมืองลิมาน(Liman) ในภูมิภาคโดเนตสก์ถูกรัสเซียควบคุมได้หมดแล้ว
กระทรวงกลาโหมของรัสเซีย เปิดเผยว่ากองกำลังรัสเซียร่วมกับกองกำลังจากสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ เข้ายึดเมืองลีมาน ของยูเครน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้อเล็กซี อาเรซโตวิช(Alexey Arestovich) ที่ปรึกษาคนสำคัญของประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้(Volodymyr Zelensky) แห่งยูเครน ยอมรับระหว่างการถ่ายทอดสดว่ากองกำลังของยูเครนได้สูญเสียเมืองไปแล้ว
โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย อิกอร์ โคนาเชนคอฟ ประกาศเมื่อวันเสาร์ที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ‘ลิมาน’ ได้รับการปลดปล่อยอย่างสมบูรณ์จากกองทัพยูเครน
ก่อนที่ยูเครนจะยอมรับการที่รัสเซียเข้าควบคุมเมืองลิมาน ดมิทรี รูเลบา(Dmitry Kuleba) รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ได้กล่าวถึงสถานการณ์ใน Donbass ว่า“เลวร้ายอย่างยิ่ง”สำหรับกองกำลังยูเครนในระหว่างการพบปะกับพันธมิตรตะวันตกที่ World Economic Forum (WEF) ในเมืองดาวอส
ปธน.เซเลนสกี้ บอกเป็นนัยระหว่างการสนทนาทางวิดีโอที่ WEF ว่าเขายินดีที่จะนั่งลงเพื่อเจรจากับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย
ดมิทรี เพสคอฟ(Dmitry Peskov) โฆษกของเครมลิน กล่าวว่ามอสโกว์สงสัยว่าผู้นำยูเครนเต็มใจที่จะเจรจาสันติภาพจริงๆหรือไม่ เขาชี้ให้เห็นว่า“การเจรจาหยุดชะงักลงเพราะเป็นการตัดสินใจและจุดยืนของฝ่ายยูเครน”
เพสคอฟยังอ้างว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนมีนิสัยชอบ แถลงการณ์ที่ขัดแย้งกันซึ่งทำให้ไม่สามารถเข้าใจความตั้งใจที่แท้จริงของพวกเขาได้อย่างเต็มที่ และ พวกเขาควรพร้อมที่จะใช้วิธีการอย่างมีสติ และรับทราบสภาพที่แท้จริงของเหตุการณ์ด้วย การเจรจาจึงจะมีความเป็นไปได้”
ลิมาน (Liman) เป็นหนึ่งในเมืองแรก ๆ ในภูมิภาคโดเนตสก์ที่กองกำลังติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลในเคียฟ ยึดครองหลังรัฐประหารไมดานในปี 2014 และมีการต่อสู้กับรัฐบาลเคียฟเป็นระยะมา 8 ปีตั้งแต่ลงนามสันติภาพมินส์ จนกระทั่งร้องขอความคุ้มครองจากรัสเซีย
ด้านยูเครนยอมรับว่าพ่ายแพ้ในลิมานไม่ทันไร เย็นวันศุกร์ที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมาปธน.เซเลนสกี้ก็กลับคำใหม่ยืนยันว่า“ดอนบาสจะต้องเป็นชาวยูเครน” โดยให้คำมั่นว่าจะยึดภูมิภาคกลับคืนมาโดยใช้กำลัง เพราะตอนนี้ได้รับการสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์พร้อมมากขึ้นจากตะวันตก แต่รัสเซียไม่สนเพราะพูดจากลับไปกลับมาอยู่เสมอ เดินหน้าประกาศปลดปล่อยดินแดนดอนบาส และส่งกำลังทหารเข้าคุมครองพื้นที่เต็มพิกัด