“หมอวรงค์” ได้คำตอบ อีสานไม่ได้แล้ง ผลักดันกระจายอำนาจสู่อบต.ดูแลน้ำเพื่อการเกษตร

0

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี พร้อมนายพุฒิพงศ์ สงวนวงศ์ชัย รองหัวหน้าพรรค, นายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ รองหัวหน้าพรรค และนายปฏิยุทธ ทองประจง กรรมการบริการพรรค ลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด เยี่ยมชมโครงการศาสตร์พระราชา ณ บ้านดอนย่านาง ต.โพธิ์ทอง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด

โดยนพ.วรงค์ กล่าวว่า วันนี้ต้องการมาหาคำตอบ ที่บอกว่าอีสานแล้ง ขาดแคลนน้ำ ซึ่งตนขอบอกว่าไม่จริง เพราะที่นี่มีหนึ่งโมเดล ที่ใช้ทฤษฎีน้ำทองคำ ของอาจารย์ทอง หลอมประโคนมาปรับใช้ นั่นคือ โครงการศาสตร์พระราชา โดยการเอาน้ำใต้ดินขึ้นมาไว้ที่หอสูง ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ แล้วปล่อยน้ำผ่านท่อไปที่นา ซึ่งแต่ละแปลงเกษตจะมีน้ำของตัวเอง โดยโครงการนี้เป็นพื้นที่เกษตรประมาณร้อยกว่าไร่ ยืนยันว่าอนาคตอีสานไม่แล้งแน่เพราะเรามีน้ำแต่ขาดการบริหารจัดการ


ตนดีใจที่เดินมาถูกทาง เรากำลังหาคำตอบเรื่องน้ำให้กับพี่น้องเกษตรกร เพราะปัญหาน้ำแล้งมีแทบทุกพื้นที่ แม้กระทั่งภาคใต้ที่มีฝนตกหนัก ปัญหาเกิดจากการบริหารจัดการ และนี่คือโมเดลที่เกิดขึ้นเพื่ออนาคตของพี่น้องเกษตรกร และเชื่อว่าประเทศไทยจะต้องไปในทิศทางนี้ ยืนยันน้ำเพื่อการเกษตรมีใช้แน่นอน ตนอยากให้กระจายอำนาจการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร ในปัจจุบันเรื่องน้ำดื่มถูกกระจายให้ อบต.ดูแล อนาคตน้ำเพื่อการเกษตร อบต.ต้องลงมาดูแลด้วย ที่กรุงเทพฯ หน่วยงานกรมชลประทาน สำนักบริหารจัดการน้ำวุ่นวายมาก งบเป็นแสนล้าน มีการกระจายงบมาให้ท้องถิ่น อบต. เทศบาลต้องดูแล หากในอนาคตพื้นที่ตำบลไหนแล้ง ต้องไปจัดการนายก อบต. ตนเชื่อว่าจะทำให้การแก้ปัญหาครอบคลุมทุกพื้นที่มากกว่า ขอย้ำกับพี่น้อง ขณะนี้ทุกคำตอบ ทุกปัญหาเราหาคำตอบได้หมดแล้ว ทุกอย่างของพี่น้องเกษตรกรเริ่มต้นด้วยน้ำ วันนี้เรามีคำตอบเรื่องน้ำชัดเจน รวมถึงเรื่องราคาพืชผลเกษตร ราคาปุ๋ย ราคาสินค้าต่างๆ เรามีคำตอบด้วยโครงการเนเปียร์ที่เราตั้งใจจะทำ ฉะนั้นชีวิตของพี่น้องเกษตรในภาคอีสานและภาคอื่น ๆ ทั่วประเทศ ยืนยันว่าเปลี่ยนแน่นอน

ด้านนายศุภรัตน์ จันทร์แจ้ง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 15 ต.โพธิ์ทอง กล่าวว่า โครงการศาสตร์พระราชา เริ่มต้นจากที่พี่น้องทำเกษตรแล้วขาดแหล่งน้ำในการปลูกข้าว เพราะพื้นที่นี้ส่วนมากปลูกข้าว หลังจากที่ปลูกข้าวเราไม่มีแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร จึงนำทฤษฎีน้ำทองคำหรือว่าโมเดลของอาจารย์ทอง ที่ได้ไปดูโครงการซุปเปอร์ชาวนาภาคอีสานที่จังหวัดศรีสะเกษ นำมาขับเคลื่อนในชุมชน ได้งบประมาณเข้ามาสนับสนุนจนเกิดเป็นบ่อบาดาลพลังงานโซลาร์เซลล์ตรงนี้ ตนมองว่าถ้าภาคอีสานทำโมเดลแบบนี้ เชื่อว่าอีสานไม่แล้งแน่นอน วันนี้รู้สึกดีใจและภูมิใจที่ทางทีมงานของคุณหมอวรงค์ได้ลงพื้นที่มาพบปะให้แนวคิดและกำลังใจกับพี่น้องเกษตรกรในชุมชนให้มีแรงขับเคลื่อน มั่นใจว่าจะมีการจัดการน้ำในภาคอีสานทั้งหมด พร้อมกับส่งเสริมให้พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่มีอาชีพที่มั่นคง และมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น

นายบัณฑิต อัครปะชะ ที่ปรึกษาซูเปอร์ชาวนาภาคอีสาน กล่าวว่า เชื่อว่าหากมีการบริหารจัดการน้ำแบบครบวงจร มั่นใจภาคอีสานไม่แล้ง ตนมองว่าการกระจายน้ำโดยพลังงานแสงอาทิตย์เหมาะกับเกษตรกร เพราะค่าใช้จ่ายในการสูบน้ำด้วยไฟฟ้าหรือน้ำมันมีต้นทุนสูง หากทางรัฐให้ความสนใจเกี่ยวกับโครงการนี้ ในการจัดการน้ำ ภาคอีสานไปรอดแน่นอน หากมีการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ โดยได้รับความร่วมมือจาก 5 ภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคปราชญ์ชาวบ้าน นักวิชาการ พี่น้องผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย องค์กรสื่อสารมวลชน องค์กรการกุศล หากร่วมมือกันเรื่องการจัดการน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ โดยภาคอีสานมีแสงแดดมาก พืชหลังนาของภาคอีสานจะเต็มแผ่นดิน แล้วจะเป็นครัวโลกได้ ถ้าไม่มีน้ำก็ไม่มีชีวิต เพราะฉะนั้นคือเรื่องใหญ่ หากบริหารจัดการได้ภาคอีสานไปรอดแน่นอน