ปูตินฟาดหน้าเมกา!!แก๊งต.ต.แพ้ยับเพราะทำตัวเอง รัสเซียพร้อมลุยทุกแนวรบ จากแอตแลนติกถึงเอเชีย-แปซิฟิก

0

ผู้นำรัสเซียพูดชัดสหรัฐ-ตะวันตกทำตัวเหมือนตำรวจทั่วโลกแต่ทำผิดกฎหมายสากลฝ่ายเดียวตลอด พร้อมฟันธงว่าการต่อต้านรัสเซียของตะวันตกจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน เพราะเริ่มขึ้นจากความคิดที่ไม่ถูกต้อง การกระทำไม่สอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริงของนานาชาติ ถือเอาประโยชน์ตนฝ่ายเดียว ขณะที่รมว.ต่างประเทศเองได้ตอกย้ำจุดยืนของรัสเซียว่า บัดนี้ตะวันตกเปิดเผยเจตจำนงค์ชัดเพื่อทำลายล้างรัสเซีย ได้ขยายแนวรบตั้งแต่มหาสมุทรแอตแลนติกไปจนถึงเอเชีย-แปซิฟิก แต้รัสเซียพร้อมแล้วที่จะรับมือกับเหตุการณ์ร้ายทุกรูปแบบจากตะวันตก เพราะประชาชนและผู้รักชาติของรัสเซียและเพื่อนมิตรหนุนพร้อมเผชิญ

วันที่ 27 พ.ค.2565 สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียกล่าวระหว่างการประชุม ยูเรเชียน อิโคโนมิก ฟอรัม (Eurasian Economic Forum) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ประเทศตะวันตกที่พยายามลงโทษผู้อื่นด้วยการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกำลังประเมินความแข็งแกร่งของตัวเองสูงเกินไป คิดผิดว่าจะทำลายรัสเซียได้โดยง่าย

ปูตินกล่าวว่า “ประเทศต่างๆ ในโลกต้องการและจะดำเนินการตามนโยบายที่เป็นอิสระมากขึ้นเรื่อยๆ” “ไม่มี ‘ตำรวจโลก’ ใดที่สามารถหยุดกระบวนการตามธรรมชาติของโลกนี้ได้ ไม่มีใครแข็งแกร่งขนาดนั้น” “พวกเขาต่างต้องเผชิญกับปัญหา ความท้าทายภายในประเทศ และฉันหวังว่าพวกเขาจะตระหนักว่านโยบายนี้ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน”  

ผู้นำรัสเซียอ้างถึงสหรัฐฯ และพันธมิตรตะวันตกว่า รัสเซียกลายเป็นประเทศที่ถูกคว่ำบาตรมากที่สุดในโลกหลังจากที่ตะวันตกตอบโต้กับรัสเซียที่เปิดปฏิบ้ติการพิเศษทางทหารในยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา  ข้อจำกัดดังกล่าวได้รับการโน้มน้าวโดยเจ้าหน้าที่ว่าเป็นวิธีสร้างความเสียหายให้กับรัสเซีย แต่ หลายประเทศปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการคว่ำบาตร รวมถึงตุรกีซึ่งเป็นสมาชิก NATOด้วย

 

ตลาดโลกซึ่งอยู่ภายใต้แรงกดดันจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน ถูกทำให้ไม่มั่นคงยิ่งขึ้นจากการเผชิญหน้า ประเทศตะวันตกจำนวนมากประสบกับระดับเงินเฟ้อที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา เนื่องจากราคาพลังงานและอาหารได้เพิ่มสูงขึ้นจากความไม่แน่นอน

ปูตินกล่าวสุนทรพจน์ ในงานที่จัดขึ้นโดยสหภาพเศรษฐกิจเอเชีย ซึ่งเป็นองค์กรบูรณาการทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคที่ประกอบด้วยอาร์เมเนีย เบลารุส คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน และรัสเซียในฐานะสมาชิก

ผู้นำรัสเซียอธิบายว่าประเทศของเขาไม่มีเจตนาที่จะปิดระบบเศรษฐกิจไปทั่วโลก สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจาก การตัดสินใจผิดพลาดของฝ่ายตะวันตก นอกจากนี้ เขายังรายงานด้วยว่ารัสเซียจัดการกับมาตรการคว่ำบาตรอย่างไร รวมถึงการแทนที่สินค้านำเข้าที่สำคัญ ด้วยผลิตภัณฑ์ทดแทนที่ผลิตในประเทศ พร้อมย้ำว่า “เขาต้องขอบคุณพระเจ้า” ที่ทำให้บริษัทข้ามชาติจากตะวันตกถอนตัวออกไปจากรัสเซีย เปิดโอกาสให้ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของรัสเซียผงาดได้แทนที่

ปูติน ยังประกาศโน้มน้าวอีกว่าการที่รัสเซียปรับลดดอกเบี้ยลงได้เร็วกว่าที่คาดนี้ หมายความว่าประเทศของเขาสามารถรอดพ้นจากการคว่ำบาตรครั้งรุนแรงที่สุดในโลกไปได้แล้ว

การส่งออกน้ำมันและก๊าซของรัสเซียส่วนใหญ่ได้รับการยกเว้นจากบทลงโทษ ทำให้เงินหลายพันล้านดอลลาร์และยูโร ยังคงไหลเข้ารัสเซียในทุกสัปดาห์ ขณะที่การนำเข้าที่ลดน้อยลงและข้อจำกัดในการซื้อสินค้าต่างประเทศ รวมถึงข้อจำกัดในการส่งเงินไปต่างประเทศ ทำให้เงินรูเบิลแข็งค่ากลับขึ้นมาจุดเดิมอย่างรวดเร็ว

ด้านรมว.ต่างประเทศ เซอร์เก ลาฟรอฟ(Sergey Lavrov) กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมาระหว่างการประชุมกับหัวหน้าภูมิภาคของประเทศว่า ตะวันตกประกาศสงครามโลกกับรัสเซีย โดยประเทศที่เป็นปรปักษ์ใช้เครื่องมือมากมายในการกำจัดและสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและพยายามปิดล้อมรัสเซีย ทั้งเศรษฐกิจ การทูต แต่ไม่สามารถทำอะไรรัสเซียด้านการทหารได้

เขากล่าวเสริมว่า “สังคม-ประชาชนรัสเซียและกองกำลังทางการเมืองที่สำคัญสนับสนุนการตัดสินใจของรัฐบาลในการเผชิญกับความท้าทายนี้”

ลาฟรอฟกล่าวว่า “ชาติตะวันตก“กำลังเพิ่มขึ้นความกดดันเป็นสองเท่า สามเท่า และสี่เท่าของความพยายามในการขัดขวางประเทศรัสเซีย พวกเขาใช้เครื่องมือมากมาย ตั้งแต่การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจฝ่ายเดียว ไปจนถึงการโฆษณาชวนเชื่อที่หลอกลวงโดยสิ้นเชิงในสื่อทั่วโลก”  “โรครุสโซโฟเบียที่แพร่หลายในตะวันตก ทำให้เราเสียใจอย่างสุดซึ้ง เพราะมันได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลจำนวนหนึ่ง เพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน”

ลาฟรอฟยังตั้งข้อสังเกตอีกว่าวิกฤตครั้งนี้ได้เปิดเผยลักษณะที่แท้จริงของสหรัฐและตะวันตก ในคำสัญญาที่ให้ไว้กับรัสเซียเมื่อ 30 ปีก่อน หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต “ตอนนี้เราเห็นคุณค่าของการพูดคุยเกี่ยวกับค่านิยมสากลที่ถูกต้อง และความจำเป็นในการเปลี่ยนยุโรปให้กลายเป็นบ้านทั่วไปอย่างแท้จริง  และนับตั้งแต่ประเทศในมหาสมุทรแอตแลนติกไปจนถึงมหาสมุทรแปซิฟิก จะไม่เหลือภาพลวงตาเกี่ยวกับทัศนคติของสหรัฐฯ และพันธมิตรที่มีต่อรัสเซียอีกต่อไป”

เป็นการเปิดหน้าท้าทายกันอย่างชัดเจน โดยครั้งนี้รัสเซียเป็นฝ่ายพูดตรงๆ ขณะที่สหรัฐก็เริ่มเปิดหน้าชนทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจและโลกก็ได้เห็นว่าพ่ายแพ้ยับเยิน ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา มีแต่ทางการทหารยังเป็นอีแอบพิงหลังยูเครนอยู่โดยให้นาโต้แสดงบทบาทแนวหน้า  แต่ระยะนี้นาโต้กลับหันไปซัดจีนอย่างผิดสังเกตุ จนทำให้เซเลนสกี้และทีมงานยูเครนลมออกหูด่าหยาบออกจอกันซึ่งๆหน้า

ต้องติดตามกันต่อไปเมื่อรัสเซียได้รับชัยชนะทางเศรษฐกิจแล้ว ก้าวต่อไป ทั้งแนวรบทางทหาร เศรษฐกิจ การเมือง รัสเซียจะยกระดับดุเดือดเป็นฝ่ายรุกหรือไม่!! อเมริกาจะรับมืออย่างไร ??