ผู้บัญชาการฯยูเครน แฉสื่อดังสหรัฐ! ถูกบิ๊กนายพล ทิ้งให้รอวันตาย ดีแต่เอาหน้า ฝึกแค่ครึ่งชม. ส่งไปรบแนวหน้า
จากกรณี สำนักข่าวอเมริกัน WashingtonPost ได้รายงานว่า ทหารอาสาชาวยูเครนติดอยู่ในสนามเพลาะ กินมันฝรั่งหนึ่งลูกต่อวันในขณะที่รัสเซียถล่มพวกเขาด้วยปืนใหญ่และจรวดหลายลำกล้องในแนวหน้าที่เป็นสมรภูมิสำคัญทางภาคตะวันออก พวกเขามีจำนวนน้อยกว่าศัตรู ไม่ได้รับการฝึก และมีแค่อาวุธเบาไว้สู้เท่านั้น พวกเขาภาวนาให้การถล่มด้วยปืนใหญ่หยุดเสียที รวมถึงภาวนาให้รถถังฝ่ายตัวเองหยุดยิงฝ่ายรัสเซียด้วย โดยมีเนื้อหาบางส่วนที่น่าสนใจระบุว่า
“พวกรัสเซียรู้แล้วว่าตำแหน่งพวกเราอยู่ตรงไหน เพราะเมื่อรถถังของฝ่ายเรายิงมาจากอีกด้าน กลับกลายเป็นการเผยตำแหน่งของเราให้รัสเซียรู้” กล่าวโดย Serhi Lapko ผู้บัญชาการกองร้อยอธิบายเรื่องราวการรบครั้งล่าสุดของเขา “หลังจากนั้นพวกรัสเซียก็โจมตีพวกเราด้วยทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งจรวดหลายลำกล้องและปืนครก เราทำได้แค่ภาวนาให้เรารอดเท่านั้น”
เหล่าผู้นำยูเครนมักชอบเผยภาพต่อสาธารณะว่าแข็งแกร่ง ทหารอาสาและทหารมืออาชีพมีชัยชนะเหนือรัสเซีย วิดีโอโจมตีรถถังหรือตำแหน่งที่ตั้งของรัสเซียถูกโพสลงโซเชี่ยลมีเดียรายวัน ศิลปินวาดรูป ทำโปสเตอร์ และออกแบบเสื้อเชิร์ตเพื่อแสดงความรักชาติ ไปรษณีย์ยังมีการออกแสตมป์เพื่อรำลึกการจมเรือของรัสเซียในทะเลดำ กองทัพยูเครนสามารถขับไล่ความพยามของรัสเซียที่พยายามจะยึดเคียฟและคาร์เคียฟได้สำเร็จ และได้รับชัยชนะหลายสมรภูมิทางภาคตะวันออก
แต่ประสบการณ์ของ Lapko และหน่วยทหารอาสาของเขาได้เผยภาพความเป็นจริงที่หาดูยากในสงครามนี้และความลำบากของยูเครนในการหยุดการรุกของรัสเซียในภูมิภาคดอนบาส ยูเครนก็เหมือนกับรัสเซีย คือมีการปล่อยข้อมูลน้อยมากเกี่ยวกับการตาย บาดเจ็บ และการสูญเสียอุปกรณ์ทางการทหารของฝ่ายตน
ซึ่งเมื่อสงครามผ่านไป 3 เดือน ทหารกองร้อยนี้ จากที่มีทหารอยู่ 120 คน ตอนนี้เหลือเพียงแค่ 54 คน เพราะทหารที่เหลือตาย บาดเจ็บหรือหนีทัพ ทหารอาสาเหล่านี้เคยเป็นพลเรือนมาก่อนที่รัสเซียจะเปิดฉากบุกในวันที่ 24 กุมภา พวกเขาไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะถูกส่งไปสมรภูมิแนวหน้าที่อันตรายที่สุดทางภาคตะวันออก พวกเขาพบว่าตนเองอยู่ท่ามกลางห่ากระสุน และรู้สึกถูกทอดทิ้งจากผู้นำทางทหารระดับสูง อีกทั้งการเอาชีวิตรอดก็เป็นไปอย่างยากลำบาก
“ผู้บัญชาการของเราไม่มีความรับผิดชอบใดๆ พวกเขามีแต่จะเอาหน้า จากความสำเร็จของเรา พวกเขาไม่ได้สนับสนุนอะไรเราเลย” Lapko กล่าว
ทั้งนี้ กองทัพยูเครนได้ออกมาปฏิเสธเรื่องราวของทหารอาสาเหล่านี้ บอกว่า “พวกหนีทัพ” พวกนี้ได้รับสิ่งของทุกอย่างเพรียบพร้อมที่จะสู้อยู่แล้ว แต่พวกเขาคงคิดว่าพวกเขามาเที่ยว พวกเขาเลยหนีจากตำแหน่งที่ตั้ง” หลังจาก Lapko และ Khrus สัมภาษณ์ได้ชั่วโมงเดียว เจ้าหน้าที่ของยูเครนก็เข้ามาโรงแรมเพื่อจับคนของเขาข้อหาละทิ้งหน้าที่ แต่ Lapko และ Khrus ยังคงยืนยันว่าพวกเขาต่างหากที่ถูกทอดทิ้ง
Lapko เข้าได้เปิดเผยว่า ก่อนสงครามเขาเคยทำงานในบริษัทขุดเจาะน้ำมัน เมื่อสงครามเกิดขึ้นเขาได้เข้าร่วม Territorial Defense Forces ที่ตั้งขึ้นมาจากพลเรือนที่ได้รับการติดอาวุธ Lapko ได้รับตำแหน่งผู้บังคับบัญชากองร้อย มีทหารในการควบคุม 120 นาย และ Khrus เป็นผู้บังคับหมวดภายใต้การบัญชาการของเขา
พวกเขาได้รับปืน AK-47 และได้รับการฝึกนานแค่ครึ่งชั่วโมง “เราเพิ่งได้ฝึกยิงปืนแค่ 30 นัด พวกเขาก็บอกเราว่าพอแล้ว กระสุนมันแพง” หลังจากนั้นพวกเขาก็ถูกส่งไป Luhansk ในดอนบาสทันที ลูกน้องของเขาหลายสิบคนปฏิเสธที่จะไปสู้ และพวกเขาก็ถูกขังคุก
สำหรับคนที่ยังอยู่ พวกเขาถูกส่งไปที่ Toshkivka สมรภูมิแนวหน้าที่รัสเซียกำลังรุกเข้ามา พวกเขาตกใจมากเมื่อถูกส่งไปที่นั่น เมื่อเราเดินทางมาถึง เราถูกบอกว่าเราจะอยู่ในแนวป้องกันชั้นที่ 3 แต่ความจริงเราอยู่แนวหน้า คือแถวหน้าสุดๆของแนวรบเลย เราไม่รู้ว่าเราถูกส่งไปไหน”
พื้นที่ดังกล่าวได้กลายเป็นจุดศูนย์กลางของสงคราม เนื่องจากมอสโกทุ่มทหารเพื่อยึดครองภูมิภาคดอนบาส เมือง Severodonetsk ใกล้ Lysychansk ล้อมรอบด้วยกองกำลังรัสเซียสามด้าน ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พวกรัสเซียได้ทำลายสะพานหนึ่งในสามแห่งที่เข้าไปในเมือง และคอยโจมตรอีกสองแห่งอย่างต่อเนื่อง กองทหารยูเครนใน Severodonetsk กำลังต่อสู้เพื่อป้องกันไม่ให้รัสเซียล้อมเมืองโดยสมบูรณ์ นั่นเป็นภารกิจของของ Lapko ด้วย หาก Toshkivka ถูกยึดไปได้ รัสเซียจะสามารถบุกขึ้นเหนือไปยังเมือง Lysychansk และล้อม Severodonetsk ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งหลังจากนั้นจะทำให้พวกรัสเซียสามารถยึดเมืองใหญ่อื่นๆในภูมิภาคต่อไปได้
ที่มา https://www.washingtonpost.com/world/2022/05/26/ukraine-frontline-russia-military-severodonetsk/?fbclid=IwAR0ELveARuSOyUxi8RR-zvbmlLd3O3PEcPCwAy4gqatNs7YAUgjKM2aShdU