ท่ามกลางการเร่งมือทางทหารในยูเครนของกองทัพรัสเซีย หลังเปิดโอกาสให้ประชาชนอพยพจากเขตสู้รบ ปธน.ปูตินเดินหน้าลุยด้านเศรษฐกิจเต็มพิกัด เพื่อรับมือสงครามนิวเคลียร์เศรษฐกิจที่สหรัฐและพันธมิตรถล่มใส่คาดหวังให้รัสเซียล่มสลาย แต่กลับแพ้พ่ายไม่เป็นท่า ค่าเงินรูเบิลกลับแข็งค่ากลายเป็นสกุลเงินแข็งแกร่งของโลกไปแล้ว อีกทั้งยิ่งคว่ำบาตรน้ำมัน รัสเซียกลับกระเป๋าตุงหนักกว่าเดิม พร้อมได้ลูกค้าใหม่จากตะวันออกเพียบ ล่าสุดมอสโกว์ประกาศชัด จะชำระหนี้ต่างประเทศเป็นสกุลเงินรูเบิล แม้สหรัฐฯขัดขวางไม่ให้รัสเซียชำระหนี้ให้กับผู้ถือพันธบัตรรัฐบาลผ่านทางธนาคารพาณิชย์ของอเมริกาเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากแช่แข็งทุนสำรองแล้ว ยังแกล้งคว่ำบาตรการใช้เงินดอลลาร์ที่เป็นของรัสเซียเองด้วย เรียกว่าทำกันแบบหน้ามึน ไม่ต้องคำนึงถึงกฎหมายสากลอะไรแล้ว
เรื่องนี้เป็นอีกหมากเกมหนึ่งที่ทดสอบว่า เจ้าหนี้ทั้งหลายจะยอมรับการใช้หนี้เป็นเงินรูเบิลหรือไม่ เพราะเมื่อประเทศยุโรปที่เป็นลูกค้าหันมายอมจ่ายค่าก๊าซและน้ำมันแก่รัสเซียเป็นรูเบิลแล้ว รัสเซียก็มั่นใจว่าเจ้าหนี้ก็น่าจะรับการชำระเป็นรูเบิลได้ เพราะถ้าเจ้าหนี้กลัวสหรัฐไม่ยอมรับการชำระหนี้ก็สูญเสียรายได้เอง ไม่ใช่ความผิดของรัสเซีย
วันที่ 25พ.ค.2565 สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และบลูมเบิร์กรายงานว่า ยาเชสลาฟ โวโลดิน ประธานสภาผู้แทนราษฏรรัสเซียโวโลดิน เน้นย้ำว่าว่าประเทศของเขามีทรัพยากรทางการเงินทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการชำระหนี้ “สหรัฐฯและบริวารที่สนับสนุนการตัดสินใจของวอชิงตัน น่าจะเคยชินกับรูเบิลแล้ว” โวโลดินกล่าวบนช่องเทเลแกรมของเขา โดยอ้างอิงข้อกำหนดของรัสเซีย ที่ให้ชำระค่าก๊าซเป็นสกุลเงินรูเบิล ในฐานะเป็นแบบอย่างของการชำระหนี้
กระทรวงการคลังของรัสเซียก็ยืนยันผ่านถ้อยแถลงเช่นกันว่า มอสโกจะยังคงทำตามพันธสัญญาหนี้ของประเทศ แม้เผชิญกับข้อจำกัดจากภายนอกหนักหน่วงขึ้น
กระทรวงการคลังรัสเซียระบุว่า”การตัดสินใจของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ปฏิเสธทบทวนใบอนุญาตใหม่ เหนือสิ่งอื่นใด มันเป็นการละเมิดสิทธิของนักลงทุนต่างชาติในตราสารหนี้รัสเซีย และบ่อนทำลายความเชื่อมั่นต่อโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของตะวันตก” พร้อมบอกต่อว่า “กระทรวงการคลังรัสเซีย ในฐานะผู้กู้ยืมที่มีความรับผิดชอบ ยืนยันถึงความพร้อมสำหรับการชำระหนี้ตามพันธสัญญาทั้งหมด”
เมื่อวันอังคารที่ 24พ.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังสหรัฐฯเปิดเผยว่า คณะบริหารของปธน.โจ ไบเดน จะออกคำสั่งห้ามไม่ให้รัฐบาลรัสเซียชำระหนี้ให้กับผู้ถือพันธบัตรผ่านทางธนาคารพาณิชย์ของสหรัฐฯ โดยจะเริ่มตั้งแต่เช้าวันพุธที่ 25 พ.ค.นี้เป็นต้นไป ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้รัสเซียมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ทางเทคนิคมากเรื่อยๆ
มาตรการดังกล่าวถือเป็นการคว่ำบาตรครั้งล่าสุดที่สหรัฐฯประกาศใช้เพื่อกดดันให้รัสเซียเสียเครดิตและอ่อนแอทางเศรษฐกิจอย่างถึงที่สุด
แอนทอน ซิลูอานอฟ รมว.กระทรวงการคลังของรัสเซีย ตำหนิการตัดสินใจของวอชิงตัน และระบุว่ารัสเซียกำลังเผชิญกับ “สถานการณ์เทียม ที่จัดฉากขึ้นมาโดยประเทศไม่เป็นมิตร” ซึ่งหมายถึงสหรัฐฯนั่นเอง เขากล่าวว่าการทำเช่นนี้เป็นการทำร้ายสิทธิของนักลงทุนต่างชาติในตราสารหนี้ของรัสเซีย”
เขาเน้นย้ำว่า “สถานการณ์ในปัจจุบันไม่เหมือนกับปี 1998 โดยครั้งนั้นรัสเซียไม่มีเงินเพียงพอสำหรับชำระหนี้ แต่เวลานี้เรามีเงินและมีความตั้งใจชำระเงิน แต่ถูกปิดกั้น”
มอสโกมีกำหนดชำระหนี้ต่างประเทศ 100 ล้านดอลลาร์ในวันศุกร์ที่ 27พ.ค.นี้ หลังจากวันที่ 25 พฤษภาคม รัสเซียยังมีกำหนดชำระหนี้ต่างชาติผู้ถือพันธบัตรอีกเกือบ 2,000 ล้านดอลลาร์ก่อนสิ้นปี
ที่ผ่านมา รัสเซียสามารถชำระเงินเจ้าหนี้ต่างประเทศได้ตามกำหนดทั้งหมด และเครมลินให้คำจำกัดความความเคลื่อนไหวของวอชิงตันว่าเป็นการผิดสัญญาของระบบการเงินตะวันตก เนื่องจากพวกเขาเป็นฝ่ายล้มเหลวในการทำตามพันธสัญญาทางการเงินที่มีกับรัสเซีย
อย่างไรก็ตามล่าสุด เงินรูเบิลของรัสเซียสร้างระดับสูงสุดในรอบหลายปีอีกครั้งเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและยูโรในวันพุธที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา แม้ในขณะที่ธนาคารกลางผ่อนคลายการควบคุมเงินทุนแล้วก็ตาม
รูเบิลซื้อขายต่ำกว่า 58 ต่อยูโร ซึ่งเป็นระดับที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2015 และต่ำกว่า 56 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2018
ก็ต้องจับตาดูต่อไปว่าเจ้าหนี้จะยอมหนี้สูญเพราะเกรงใจสหรัฐ หรือจะยอมสิโรราบให้กับรูเบิลเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตน เป็นการเผชิญหน้าทางสงครามเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐและรัสเซียที่รัสเซียมั่นใจว่าจะชนะ พร้อมกับได้เปิดเผยธาตุแท้ของมหาอำนาจเก่าที่รวบอำนาจและทำทุกอย่างตามอำเภอใจอย่างล่อนจ้อน!!