สืบเนื่องจากกรณีที่นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความยินดีกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องชาวกรุงเทพมหานครเลือกเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
โดยนายกรัฐมนตรียืนยัน รัฐบาลพร้อมร่วมทำงาน กับนายชัชชาติ และทีมงานทุกคน เพื่อขับเคลื่อนและพัฒนา อะไรที่เป็นผลดี มีประโยชน์ต่อชาวกรุงเทพมหานคร รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ตามที่รัฐบาลเองก็มีนโยบายชัดเจนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของพี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป นายกรัฐมนตรีย้ำไม่ว่าใครจะเป็นผู้ว่าราชการ มาจากพรรคการเมืองไหน ตนเองในฐานะนายกรัฐมนตรีพร้อมทำงานร่วมกับทุกคน ยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก
แม้ว่าก่อนหน้านี้ ผู้สื่อข่าวได้ถามนายชัชาติว่าจะมีการประสานงานกับนายกฯ อย่างไร เนื่องจากผู้ว่ากทม. อยู่ภายใต้กำกับกระทรวงมหาดไทย นายชัชชาติ กล่าวว่า เดี๋ยวต้องรอดู ว่าผมได้กี่คะแนนเสียง
เมื่อถามย้ำว่า จะนำคะแนนเสียงที่ประชาชนมอบให้ไปสู้กับรัฐบาลใช่หรือไม่ นายชัชชาติ ตอบทันทีว่า ใช่ เพราะผู้ว่ากทม. ได้คะแนนเสียงมากกว่านายกฯอีกนะ แต่เราไม่ได้ท้าทาย เราเอาประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ได้คุยเรื่องอารมณ์หรือทะเลาะกัน ไม่มี ประชาชนเลือกเรามา เราก็เอาเหตุผล ซึ่งการคุยก็มีระบบในการคุยอยู่ ไม่ใช่เดินเข้าไปคุยกับท่าน มีเอกสาร ระเบียบขั้นตอนอยู่ เมื่อประชาชนเลือกมา ก็เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง เรื่องประสานงานไม่ต้องกลัว
ล่าสุดมีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับรัฐมนตรีบางส่วน โดยระหว่างรับประทานอาหาร พล.อ.ประยุทธ์ได้ปรารภถึงผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ชนะด้วยคะแนนล้นหลาม
ทั้งนี้ยังมีการหยิบยกเรื่องนโยบายที่นายชัชชาติประกาศไว้มากกว่า 200 ข้อขึ้นมาว่า นโยบายที่นำเสนอมานั้นมีเป็นจำนวนมากแล้วจะทำได้จริงมากน้อยแค่ไหน ซึ่งบางนโยบายก็ต้องใช้เวลาทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ถ้าทำได้หมดอย่างนั้นจริงอำนาจก็ยิ่งกว่านายกฯ เสียอีก