โซรอสพล่าน! กลัวจีน-รัสเซีย ทำยุโรปพัง ต้องโค่นปูติน-ต้านสี จิ้นผิง หวั่นพวกตัวเองล่มสลาย
จากกรณีที่วันนี้ (25 พฤษภาคม 2565) สำนักข่าว Reuters รายงานว่า นายจอร์จ โซรอส (George Soros) อภิมหาเศรษฐีชื่อดัง ได้กล่าวสุนทรพจน์ในงาน World Economic Forum ที่เมืองดาโวส (Davos) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เกี่ยวกับประเด็นสงครามความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซีย พร้อมกับชี้แนะให้โค่นล้มผู้นำประเทศรัสเซีย และโน้มน้าวให้ต่อต้านผู้นำประเทศจีน
โดย อภิมหาเศรษฐีชาวอเมริกันเชื้อสายฮังการี วัย 91 ปี ผู้เคยโจมตีค่าเงินปอนด์ของสหราชอาณาจักรในปี 2535 และเคยโจมตีค่าเงินบาทเมื่อปี 2540 และยังเป็นเจ้าของ NGO ที่ทรงอิทธิพลที่สุดอย่าง Open Society Foundations (OSF) ซึ่งคอยให้เงินทุนสนับสนุนและแนวทางการเคลื่อนไหวทางการเมือง ให้แก่กลุ่มการเมืองหลายกลุ่มทั่วโลกและรวมถึงในไทยด้วย โดยในงานเสวนา World Economic Forum นายโซรอสได้กล่าวสุนทรพจน์ให้ทุกคนได้รับรู้มุมมองของเขา ที่มองว่ารัสเซียและจีนเป็นภัยอันตรายต่อโลกเสรี

นายโซรอส ยังกล่าวด้วยว่า “การทำสงครามบุกโจมตี (ยูเครน) ที่เกิดขึ้น อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ WW3 ซึ่งอาจทำให้อารยธรรมของเราไปไม่รอด ทางเลือกที่ดีที่สุดและอาจเป็นทางเลือกเดียวที่จะช่วยปกป้องอารยธรรมของเราให้อยู่รอด คือต้องกำจัดปูตินให้เร็วที่สุด ซึ่งนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด และถึงแม้ผมจะคาดการณ์ผลลัพธ์ของสงครามไม่ได้ แต่ยูเครนก็มีโอกาสที่จะสู้ได้”

นายโซรอส ยังชี้ให้เห็นว่า นายปูตินเคยบอกว่าภารกิจพิเศษ (special operation) ในยูเครนก็เป็นไปตามแผนและจะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ แม้ภารกิจบุกโจมตีในครั้งนี้จะมีความผิดพลาด ซึ่งฝ่ายรัสเซียบอกว่าพร้อมจะเจรจาหยุดยิง แต่การหยุดยิงจะเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะนายปูตินเป็นคนที่ไว้ใจไม่ได้ ยิ่งนายปูตินอ่อนแอมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะคาดเดาเขาไม่ได้ ส่วนสหภาพยุโรป (European Union) ก็เข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดีว่า นายปูตินสามารถออกสั่งตัดการส่งแก๊สทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ยุโรปบาดเจ็บอย่างรุนแรง เพราะยุโรปต้องพึ่งพาแก๊สจากรัสเซียมากถึง 40% ของการใช้แก๊สทั้งหมดทั่วยุโรป

นอกจากนี้ นายโซรอส ยังกล่าวถึงจีน ซึ่งเป็นชาติพันธมิตรที่สำคัญที่สุดของรัสเซีย โดยกล่าวว่า “กลุ่มฐานอำนาจที่กดขี่ข่มเหงตอนนี้กำลังมีอำนาจมาก แต่โลกเสรี (open societies) ตอนนี้กำลังถูกปิดล้อม ดังนั้นในวันนี้ จีนและรัสเซีย จึงเป็นภัยคุกคามที่อันตรายที่สุดสำหรับโลกเสรี”

และยังได้กล่าวถึงผู้นำประเทศจีนว่า “สี จิ้นผิง อาจจะไม่ได้อยู่ต่อเป็นสมัยที่ 3 หรือต่อให้เขาได้อยู่ต่ออีกสมัย คณะกรรมการบริหารสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์ ก็จะไม่ปล่อยให้เขาเลือกใครก็ได้มาเป็นสมาชิกพรรคได้ตามใจชอบ”