ยุโรปแย่หนัก! สังคมเมืองแตกยับ หันไปใช้รถม้า-ก่อฟืน ขาดแคลนอาหาร! ขณะจีน-รัสเซีย มีข้าว-น้ำมันเหลือใช้มหาศาล!

0

ยุโรปแย่หนัก! สังคมเมืองแตกยับ หันไปใช้รถม้า-ก่อฟืน ขาดแคลนอาหาร! ขณะจีน-รัสเซีย มีข้าว-น้ำมันเหลือใช้มหาศาล!

จากกรณีสงครามรัสเชีย-ยูเครน ทำให้ยูเครน ลดพื้นที่ปลูกธัญพืชในปี 2022 ลงมากกว่าครึ่งด้วยเสียพื้นที่ให้ทหารรัสเซียยึดครองไปประกอบกับยุโรปซึ่งมีปัญหาขาดแคลนข้าวสาลี หลังจากรัสเซียประกาศหยุดส่งออกยังมีภาระต้องเลี้ยงดูชาวยูเครนผู้หลีกหนีจากภัยสงครามที่มากกว่า 3 ล้านคน ซ้ำเติมให้หลายๆประเทศของ สหภาพยุโรป (EU)  ขาดแคลนข้าวสาลีเพื่อการบริโภค จนมีการออกมาเดินขบวนประท้วงให้ชาติของตนเองยุติการสนับสนุนยูเครนในช่วงที่ผ่านมา

ล่าสุดทางเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณียุโรปเกิดวิกฤตหนักทั้งด้านของการขาดแคลนพลังงานและอาหาร ทำให้ประชาชนหันไปใช้รถม้า ก่อฟืน กินนอนอยู่ตามร้านฟาสต์ฟู้ด โดยอ้างอิงจาก GlobalTimes และThe Guardian ระบุว่า

จีนมีประชากรมากที่สุดในโลกกว่า 1,440 ล้านคน คิดเป็น 18.4% ของประชากรโลก เป็นแหล่ง Supply สินค้าต่างๆ ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นประเทศบริโภคพลังงานน้ำมันสูงลำดับต้นของโลก แม้มีประเทศกว้างใหญ่ไพศาล ก็สามารถผลิตใช้เองได้ไม่ถึง 50% ของความต้องการ มีรายงานว่าในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2022 จีนนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศมากถึง 171 ล้านตัน (เดือนละ 42.75 ล้านตัน หรือ กว่า 312 ล้านบาร์เรล) โดยซาอุดิอาราเบีย คือแหล่งนำเข้าน้ำมันมากที่สุด แม้ว่าจีนจะขอซื้อน้ำมันจากรัสเซียเพิ่มมากขึ้นแต่รัสเซีย สามารถปั้มน้ำมันออกมาได้สูงสุด 321 ล้านบาร์เรล/เดือน ใช้เองอย่างเหลือเฟือ 171 ล้านบาร์เรล/เดือน เหลือใช้ก็ส่งออกขายทั่วโลก 150 ล้านบาร์เรล/เดือน
แค่เพียง 2 ประเทศ คือจีน อินเดีย พันธมิตรระเบียบโลกใหม่ ที่มีประชากรรวมกันกว่า 36% ประชากรโลก รัสเซีย ก็ไม่มีความจำเป็นต้องขายน้ำมันให้ชาติยุโรป อเมริกา หรือชาติอื่นใด และด้วยรัสเซียเป็นหัวหน้ากลุ่ม Opec Plus ที่แบ่งปันโควต้าผลิตน้ำมันกับกลุ่ม Opec ดังนั้นการที่ชาติระเบียบโลกเก่า ที่นำโดยสหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย คว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย จึงเข้าทางจีนทันที ส่งผลให้จีนกักตุนน้ำมันสำรองไว้มหาศาลพอใช้ระยะยาวหากเกิดสงคราม ในขณะที่สหรัฐ ขณะนี้ต้องใช้น้ำมันสำรองฉุกเฉินของชาติที่จะหมดในไม่ถึง 6 เดือน ส่วนยุโรป ยิ่งอาการโคม่า เพราะผลิตน้ำมันเองไม่ได้ เป็นเพียงผู้บริโภคพลังงานน้ำมันจากฝ่ายระเบียบโลกใหม่คือ Opec และ Opec Plus
ด้วยน้ำมันเป็นสินค้าที่ Demand สูงกว่า Supply ผู้บริโภคต้องง้อผู้ผลิต ภูมิประเทศทวีปยุโรปออกแบบมาให้ต้องพึ่งพาพลังงานคนอื่นตลอดชีวิต รัสเซีย อยู่ใกล้ที่สุดจะบีบยุโรปก็ตาย จะคลายก็รอด ไม่อาจฝืนกฎธรรมชาติความจริงนี้ไปได้ การฝืนกฎนี้โดยคว่ำบาตรพลังงานน้ำมัน ก๊าซ ถ่านหิน รัสเซีย เท่ากับยุโรปชาตินั้นกำลังอยู่ปากเหวหายนะ บั่นทอนทำลายความรุ่งเรืองชาติตนเองเพื่อคนชาติอื่น บั่นทอนเศรษกิจยุโรปเอง ที่เพิ่งฟื้นตัวหลังการระบาดโรคโควิด บั่นทอนคุณภาพชีวิตประชาชนตนเองให้เดือดร้อน การขาดแคลนพลังงานเชื้อเพลิงแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น แต่อัตราเงินเฟ้อยุโรปที่เฉลี่ยแตะ 10% จะทำให้ยุโรป ขาดแคลนปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิตพื้นฐานสำหรับประชากรส่วนใหญ่ที่รายได้น้อยและยากจน จะประสบปัญหาปากท้องอดอยากอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค ไปด้วย
มีรายงานว่าสำนักงานสถิติแห่งชาติ (ONS) ของอังกฤษ ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อเดือน เม.ย.65 ที่ 9.0% สูงสุดในรอบ 40 ปี ราคาพลังงาน อาหารและค่าครองชีพที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ชาวอังกฤษต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ครอบครัวชาวอังกฤษ ที่ประสบปัญหาในการรับมือกับค่าไฟฟ้ามหาโหด กำลังใช้ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดเป็นที่พักพิงชั่วคราว โดยใช้สิ่งอำนวยความสะดวกในร้านเป็นครัวฉุกเฉิน ห้องน้ำ และห้องนั่งเล่น ชาวอังกฤษซื้อ Happy Meal ในราคาไม่กี่ปอนด์ให้ลูกๆ และตนพักพิงในร้านฟาสต์ฟู้ด เพื่อล้างหน้า แปรงฟัน และดูทีวีเป็นเวลาหลายชั่วโมงด้วย wifi ฟรีของร้าน พ่อแม่ที่มีปัญหาด้านการเงินพาลูกๆ ไปที่ศูนย์นันทนาการ เพื่อใช้ห้องน้ำ บางคนใช้เทียนถ้วยเพื่อตั้งไฟกระทะ มีจำนวนมากเผาเฟอร์นิเจอร์หรือแผงไม้เพื่อผิงไฟให้ร่างกายอบอุ่น แม้เจ้าหน้าจะพยายามห้ามเนื่องจากมีอัคคีภัยเพิ่มขึ้นแต่ก็ไร้ผล
ชาวอังกฤษ จำนวนมากไม่มีเงินจ่ายค่าน้ำอุ่น ต้องอดมื้อกินมื้อ คนพิการไม่มีเงินสำหรับอุปกรณ์ที่สำคัญเนื่องจากค่าไฟที่สูงขึ้น ผลสำรวจของบริษัทวิจัย Ipsos และสำนักข่าว Sky News ในชาวอังกฤษจำนวน 2,000 คน พบว่า 25% ต้องอดมื้อกินมื้อเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและราคาอาหารที่แพงขึ้น ในขณะที่ยูเครน ฉายา “ตะกร้าขนมปังของยุโรป” ไม่สามารถส่งออกธัญพืช ปุ๋ย และน้ำมันพืชได้ แถมพื้นที่เพาะปลูกเดิมก็ใช้การไม่ได้ เพาะปลูกใหม่และเก็บเกี่ยวก็ไม่ได้ ฝ่ายระเบียบโลกใหม่ รัสเซีย อินเดีย ก็งดขายอาหารให้ยุโรป จีน ยังแตะมือรัสเซียกระหน่ำบีบยุโรปซ้ำ ด้วยนโยบายปลอดโควิด ทำให้การขนส่งสินค้าแทบเป็นไปไม่ได้ เรือจำนวนมากเข้าและออกจากท่าเรือไม่ได้ Supply chain สินค้าหายวับไป
ชาติในยุโรป คู่หูฮังการี เซอร์เบีย ได้ตัดช่องน้อยเอาตัวรอดยืนกรานใช้พลังงานรัสเซียเหมือนเดิม กอดคอกันกักตุนคลังพลังงานน้ำมัน ก๊าซ รัสเซียให้เยอะขึ้น อุ้มกันและกัน รัฐบาลหันหลังกลับไปส่งเสริมเกษตรกรผลิตอาหารให้เป็นฮีโร่ของชาติ ตุนคลังอาหารสำหรับการปะทะชิงอำนาจยืดเยื้อ ประชาชนจะรอดชีวิตจากปัจจัย 4 บริบูรณ์ ส่วนชาติยุโรปอื่นที่ส่งอาวุธมาขายยูเครนไม่หยุดอนาคตจะเกิดหนี้สูญ รัสเซีย และพันธมิตรระเบียบโลกใหม่ ที่เหนือชั้นกว่าก็จะ “ปิดล้อมและบล็อคอาหาร พลังงาน ซัพพลาย” เข้าสู่ชาติยุโรปนั้น
ชาติที่ดื้อดึงฝืนกฎธรรมชาติสร้างมา จะพาประชาชนอดอยากแร้นแค้น ทุกข์ยากลำเค็ญ จนคุณภาพชีวิตพลเมืองไม่ต่างจากชาติด้อยพัฒนา สิ้นสุดระเบียบโลกเก่าที่ดำรงไม่ถึง 80 ปี..นาทีนี้ฝ่ายใดครองอาหาร ครองพลังงาน ครองศาสตราวุธอานุภาพสูง กำลังกองทัพกล้าแกร่ง ฝ่ายนั้นจะมีชัยในระเบียบโลกใหม่ที่ต้องใช้ในอีก 100 ปีหน้าต่อจากนี้..สหรัฐ ยุโรป มุ่งเอาเปรียบชาติอื่น และขายอาวุธต่อไป พลเมืองจะอดอยากหิวโหยสาหัสขึ้นแน่นอน