เอเชียเดือด!!จีนคำรามเมกา’เล่นกับไฟ’ ต้องเจอตาต่อตาฟันต่อฟัน หลังไบเดนลั่นพร้อมใช้กำลังทหารป้องไต้หวัน

0

สหรัฐฯประกาศ จะเข้าแทรกแซงทางทหารหากจีนแผ่นดินใหญ่ยึดเกาะไต้หวันด้วยกำลัง ปธน.ไบเดนกำลังดำเนินการอีกขั้นเพื่อบ่อนเซาะนโยบายจีนเดียว และคำพูดของไบเดนได้นำไปสู่การต่อต้านอย่างรุนแรงจากจีน นักวิเคราะห์เตือนว่าในขณะที่สหรัฐฯ และญี่ปุ่นผู้เอาการเอางานกำลังใช้วิกฤตยูเครน เพื่อส่งเสริมการต่อสู้ทางการเมืองเพื่อช่วยเกาะไต้หวันให้แยกตัวโดยพฤตินัย ฝั่งจีนคำรามลั่นว่าแผนการของพวกเขาจะได้รับการตอบสนองที่แข็งแกร่งจากจีนแผ่นดินใหญ่ เพราะจีนไม่ยอมประนีประนอมกับใครหน้าไหนทั้งด้านผลประโยชน์ส่วนรวมและอธิปไตยของชาติ

วันที่ 24 พ.ค.สำนักข่าวโกลบัลไทมส์และเอเอฟพี รายงานว่า หวัง เหวิน ปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงที่กรุงปักกิ่งในวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา วันเดียวกับที่ปธน.โจ ไบเดนเยือนญี่ปุ่น และแถลงการณ์ท้าทายจีนอย่างแข็งกร้าวว่าจะใช้กำลังทหารแทรกแซงหากจีนยึดเกาะไต้หวันด้วยกำลัง

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนตอบโต้ถ้อยแถลงของไบเดนว่า “ไม่ว่าใครไม่ควรประเมินค่าประชาชนจีนต่ำเกินไป ในเรื่องความตั้งใจแน่วแน่ และความสามารถที่แข็งแกร่งในการปกป้องอธิปไตยของชาติ และบูรณภาพแห่งดินแดน จีนไม่มีพื้นที่สำหรับการประนีประนอมหรืออ่อนข้อให้ชาติใดทั้งนั้น”

เราขอเรียกร้องให้ฝ่ายสหรัฐฯ ปฏิบัติตามหลักการจีนเดียวและข้อกำหนดในแถลงการณ์ร่วมจีน-สหรัฐฯ ทั้งสามฉบับ ให้เกียรติคำมั่นที่สำคัญในการไม่สนับสนุน “เอกราชของไต้หวัน” พูดและดำเนินการอย่างรอบคอบในประเด็นไต้หวัน และหลีกเลี่ยงการส่ง สัญญาณที่ผิดพลาดใดๆ ต่อกองกำลังแบ่งแยกดินแดน “เอกราชของไต้หวัน” เพราะมันจะบ่อนทำลายสันติภาพอย่างรุนแรงทั่วทั้งช่องแคบไต้หวันและความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ   

ปธน.โจ ไบเดน แห่งสหรัฐกล่าวระหว่างแถลงร่วมกับนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น ที่กรุงโตเกียว หลังผู้นำทั้ง 2 ชาติหารือกัน โดยทั้ง 2 ชาติตกลงที่จะเฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวทางทะเลของจีนและการซ้อมรบร่วมระหว่างจีนกับรัสเซีย

ผู้สื่อข่าวถามว่า สหรัฐจะเข้าไปเกี่ยวข้องทางทหารในการปกป้องไต้หวันหรือไม่ถ้าไต้หวันถูกจีนบุกยึด ไบเดนตอบสั้นๆ ว่า “ใช่” เพราะเป็นคำมั่นสัญญาที่เราให้ไว้กับไต้หวัน แม้สหรัฐยอมรับนโยบายจีนเดียวซึ่งได้ลงนามเอาไว้ แต่จีนไม่สามารถเข้ายึดครองไต้หวันด้วยการใช้กำลัง การใช้กำลังยึดครองไต้หวันเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม จะทำให้เกิดความไม่เป็นระเบียบทั้งภูมิภาค และจะเป็นอีกการกระทำหนึ่งที่เหมือนกับที่รัสเซียรุกรานยูเครน ไบเดนย้ำว่าการใช้กำลังยึดครองไต้หวันจะไม่เกิดขึ้นและไม่ควรพยายามทำให้เกิดขึ้น

 

นอกจากนี้ปธน.ไบเดนยังขู่จีนอีกด้วยว่าอย่าเล่นกับอันตรายด้วยการส่งเครื่องบินรบบินเข้าใกล้น่านฟ้าของไต้หวันและการซ้อมรบทั้งหมด อีกทั้งยังย้ำถึงกรณีรัสเซียปฏิบัติการทางทหารในสงครามยูเครนว่า รัสเซียจะต้องชดใช้ระยะยาวในสิ่งที่ทำลงไป ซึ่งจีนต้องดูไว้เป็นบทเรียนเช่นกันถ้าพยายามใช้กำลังยึดไต้หวัน

แม้ประธานาธิบดีไบเดนจะแถลงว่าสหรัฐจะใช้กำลังทหารปกป้องไต้หวันถ้าถูกจีนรุกราน แต่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยืนยันว่าสหรัฐจะไม่เปลี่ยนนโยบายของตนในเรื่องจีนเดียว และคำมั่นสัญญาในการช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐเพื่อให้ไต้หวันป้องกันตนเอง

ด้านนายกรัฐมนตรีคิชิดะเรียกร้องให้เกิดเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันสนับสนุนคำแถลงของสหรัฐ และประกาศว่าจะเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมด้วย    

วันเดียวกันประธานาธิบดีไบเดนประกาศเรื่องกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก 13 ชาติ ภายใต้การนำของสหรัฐ ที่สหรัฐต้องการใช้มาคานอำนาจจีนในภูมิภาคนี้ แต่กรอบความร่วมมือนี้ไม่มีการช่วยเหลือด้านภาษีและการเข้าถึงตลาดแต่อย่างใด เรื่องนี้จีนวิเคราะห์ว่าเป็นแค่สัญญาลมปากที่เน้นภูมิรัฐศาสตร์การเมืองและการทหาร มากกว่าการพัฒนาเศรษฐกิจจริง

ดา เหว่ย(Da Wei) ผู้อำนวยการศูนย์ความมั่นคงและยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยชิงหวาในกรุงปักกิ่ง กล่าวถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า “การส่งกองกำลังเป็นการแทรกแซงทางทหาร การเสนออาวุธและข่าวกรองทางทหาร และการช่วยเหลือยังตีความได้ว่าเป็น ‘การแทรกแซงทางทหาร’ อย่างชัดเจน ฝ่ายบริหารของ Biden กำลังเล่นไพ่บนเกาะนี้ ไม่เพียงแต่ตอบสนองนักการเมืองที่สนับสนุนไต้หวันในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ยังรวมถึง สนับสนุนกลยุทธ์ของตนต่อจีนอย่างคลุมเครือต่อไป”

“หากฝ่ายบริหารของ Biden ยืนกรานที่จะทำเช่นนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ก็เหมือนเรือไททานิคที่ชนภูเขาน้ำแข็ง ซึ่งจบลงด้วยวิกฤตหรือแย่กว่านั้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง” 

ในกรณีการแทรกแซงของสหรัฐต่อกรณีไต้หวันที่โจ่งแจ้งหนักขึ้นนั้น กองบรรณาธิการโกลบัลไทมส์ได้ออกบทรายงานสรุปไว้ว่า การสมรู้ร่วมคิดระหว่างสหรัฐฯ กับไต้หวันต้องจบลงด้วยความล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วน  แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าจะมีการจัดฉาก “การยั่วยุที่เกินจริง” อีกแน่นอน  อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นอันตราย ที่สหรัฐฯจะละเมิดคำมั่นสัญญา คำพูดและการกระทำที่ไม่สอดคล้องกับกรณีคำถามไต้หวัน ซึ่งเป็นอันตรายต่อศักดิ์ศรีของ “ประเทศใหญ่” อย่างแท้จริง การท้าทายและสนับสนุนกองกำลัง “ผู้แบ่งแยกดินแดนของไต้หวัน” อย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้สหรัฐฯยิงใส่ตัวเอง และพรรค DPPของไต้หวัน จะทำลายล้างตนเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในที่สุด