ต.อ.กลางเดือด!!เตหะรานประกาศเช็คบิล จอมบงการลอบสังหารแม่ทัพอิหร่าน หลังจับสายลับอิสราเอลเกี่ยวพัน

0

ในขณะที่สมรภูมิยูเครนดุเดือด และได้รับความสนใจจากทั่วโลก ทางด้านตะวันออกกลางก็ตึงเครียดไม่น้อยกว่ากัน สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุลอบสังหารนายทหารผู้นำแห่งกองพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม ใจกลางกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน ล่าสุดได้จับกุมสายลับอิสราเอล ที่มีส่วนเกี่ยวพันเรื่องนี้ จับตาอิหร่านประกาศจะตอบโต้ให้สาสม

วันที่ 22 พ.ค. 2565 สำนักข่าวทาสนิมของอิหร่านและอัลจาซิรา รายงานว่า เกิดเหตุลอบสังหารผู้พันฮัสซันไซยาด-โคดายารี (Hassan Sayyad Khodayari)แห่งกองกำลังคุดส์ กลางกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่านกลางวันแสกๆ 

คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ 2 คันประกบยิง 5 ครั้ง สังหารผู้นำกองกำลังคุดส์ (Quds Force) ที่หน้าบ้านของเขาในเมืองหลวงของอิหร่านจนเสียชีวิต

ในช่วงเวลาเดียวกัน สื่อของรัฐกล่าวว่ากองกำลังรักษาความปลอดภัยของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติได้เปิดเผยและจับกุมสมาชิกของเครือข่ายข่าวกรองหรือ Mossadของอิสราเอลที่ปฏิบัติการในประเทศ โดยไม่ได้ให้รายละเอียดว่าพวกเขามีความเกี่ยวข้องกับการสังหารโคดายารีอย่างไร

ถ้อยแถลงระบุว่า เครือข่ายข่าวกรองของอิสราเอล “มีส่วนร่วมในการขโมยและทำลายทรัพย์สินสาธารณะและส่วนตัว การลักพาตัว และบีบบังคับสารภาพ”

สำนักข่าวอิหร่านนูร์ ของทางการ เรียกการลอบสังหารว่าเป็นเส้นสีแดง โดยกล่าวว่า “เปลี่ยนสมการทางการเมืองหลายอย่าง และผู้รับผิดชอบจะต้องจ่ายในราคาที่สูงอย่างเท่าเทียมกัน”

IRGC หรือกองทัพปฏิวัติอิสลาม ถูกหมายหัวให้เป็นองค์กรก่อการร้ายต่างประเทศโดยสหรัฐและพันธมิตร ตั้งแต่สมัยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ หลังจากที่ได้ถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ที่รู้จักกันอย่างเป็นทางการในชื่อแผนปฏิบัติการร่วมที่ครอบคลุม (Joint Comprehensive Plan of Action)

การหารืออย่างกว้างขวางในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เตหะรานเรียกร้องให้กลุ่มนี้ถูกถอดออกจากบัญชีดำของผู้ก่อการร้ายของสหรัฐฯ และยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ เพื่อเป็นเงื่อนไขในการกลับไปปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์พหุภาคีปี 2015

อิสราเอลได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ ปฏิเสธข้อเรียกร้องของเตหะราน ด้านสหรัฐฯยืนยันไม่ได้มีเจตนาที่จะปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของเตหะรานในทุกข้อ ซึ่งทำให้การเจรจาในกรุงเวียนนาหยุดชะงักตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

อดีตผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ (Quds Force) ของกองทัพปฏิวัติอิสลาม (IRGC) นายพลคาเซม โซไลมานี (Qasem Soleimani) ที่โด่งดังของอิหร่าน เสียชีวิตจากการโจมตีด้วยโดรนทางอากาศของสหรัฐฯ ในอิรักเมื่อเดือนมกราคม 2020 ซึ่งได้รับคำสั่งจากประธานาธิบดีทรัมป์ในขณะนั้น โดยถูกหลอกให้มาเจรจาโดยทางการอิรักเป็นผู้เชิญ ในครั้งนั้นทำให้นายทหารของอิรักเสียชีวิตพร้อมกันด้วย  หลังจากนั้นไม่นานรัฐสภาอิรักได้ลงมติขับไล่กองทหารสหรัฐฯ ให้ออกจากดินแดนอิรัก แต่ทางการสหรัฐเพิกเฉยมาจนปัจจุบันนี้

หลังจากนั้นอิบราฮิม ไรซี ประธานาธิบดีอิหร่าน ได้เรียกร้องให้วอชิงตันดำเนินการพิจารณาคดีทางกฎหมายกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตผู้นำพรรครีพับลิกัน ฐานสังหาร โซไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ของอิหร่าน มิเช่นนั้น “เตหะรานจะแก้แค้น” และขู่ว่าสหรัฐฯ จะได้รับผลที่ตามมา 

ไม่ถึงหนึ่งปีต่อมา โมเซน ฟาคริชาเดห์ (Mohsen Fakhrizadeh) นักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์ระดับแนวหน้าของอิหร่านถูกลอบสังหารในการโจมตีที่ซับซ้อน โดยมีรายงานว่าทีม Mossad เป็นผู้ทำ

สงครามขัดแย้งที่ดำเนินมายาวนานระหว่างอิสราเอลและอิหร่านได้ปะทุขึ้นอย่างเปิดเผยในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยมีการโจมตีโดยตรงที่มาจากอิสราเอลต่อเป้าหมายของอิหร่านในซีเรีย และการโจมตีทางอินเทอร์เน็ตผลัดกันของทั้งสองประเทศ ซึ่งส่อเค้านำสองประเทศใหญ่ในภูมิภาคไปสู่ปากเหวของการทำสงครามโดยตรงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง