จากที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม องค์การอนามัยโลก หรือ ดับเบิลยูเอชโอ เผยแพร่การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษวานร หรือฝีดาษลิงนั้น
ทั้งนี้ WHO ระบุว่าพบผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 92 คน ใน 12 ประเทศ โดยทุกประเทศไม่เคยมีการยืนยันผู้ติดเชื้อนี้มาก่อน และยังมีผู้ป่วยสะสมเข้าข่ายอีกอย่างน้อย 28 คน
โดย นพ.เดวิด เฮย์แมน ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาของดับเบิลยูเอชโอ กล่าวถึงรูปแบบการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงที่กำลังเกิดขึ้นในลักษณะผ่านการมีความสัมพันธ์ทางเพศ ขณะที่ผลการวิเคราะห์ลำดับเบสในเบื้องต้น พบว่า รูปแบบการแพร่กระจายเชื้อของผู้ป่วยหลายคนในยุโรป เป็นไปในลักษณะเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในสหราชอาณาจักร อิสราเอล และสิงคโปร์ เมื่อปี 2561
ต่อมาวันที่ 22 พฤษภาคม 2565 ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ออกมาให้ข้อมูลผ่านการโพสต์ข้อความลงใน Blockdit บางช่วงถึงวัคซีนและโรคระบาดฝีดาษลิง ว่า
“อเมริกามีวัคซีนพร้อมสำหรับฝีดาษลิงเรียบร้อยแล้ว’ (We have vaccine available to be deployed for that purpose) ไม่ใช่เฉพาะแต่โควิด 19 หรือฝีดาษลิง ยังจะมีตามมาอีกเยอะ ประเทศที่เป็นเหยื่อก็คือประเทศที่ผู้นำรู้ไม่ทันแผนจัดระเบียบโลกใหม่นั่นเอง”
ล่าสุดวันนี้ 23 พฤษภาคม 2565 นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับองค์การอนามัยโลกด้วยว่า
“รัสเซียถอนตัวจาก WTO และ WHO:ถ้าไม่ได้เรียนรู้บทบาทกลุ่มทุนยิวไซออนิสต์และกลุ่มทุนอื่นๆ ในสังคมอเมริกาที่บงการรัฐบาลอยู่ ไม่เคยเรียนรู้ความเน่าเฟะของเครือข่าย Big Pharma ทั้งหลายจากงานวิจัยทางสังคมศาสตร์สุขภาพ
จะไม่มีทางเข้าใจเลยว่าเหตุใด รัฐบาลอเมริกาถึงทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของนายทุนตนเอง เช่น ส่งทหารไปรุกรานต่างชาติก็เพื่อฮุบทรัพยากรธรรมชาติให้นายทุนในประเทศตนเอง การส่งเสริมวัคซีนของ Big Pharma มากกว่าจะสร้างภูมิคุ้มกันในทางธรรมชาติ
รัสเซียคงรับไม่ไหวแล้วครับ จึงขอลาออกจากทั้ง WTO หรือ องค์การการค้าโลก และ WHO เพราะแม้เป็นสมาชิก WTO อยู่ก็โดนอเมริกาคว่ำบาตร หาทางขัดขวางรัสเซียตลอดเวลา เป็นการค้าเสรีสไตล์อเมริกาที่ไม่เป็นธรรมกับชาติอื่นๆ ที่เป็นคู่แข่ง
ส่วน WHO นั้น งานหลักคือเป็นนายหน้าโฆษณาขายยาให้ Big Pharma อย่างเดียว ถ้าหมอไทยเดินตาม WHO อย่างเซื่องๆ ต่อไป เขาเสนออะไรก็ทำตามหมด ก็จะเป็นทาสของ WHO ไปตลอดชาติ
WTO คือการจัดระเบียบการค้าให้ประโยชน์ตกแก่นายทุนชาตินักล่าอาณานิคม ไม่พอใจชาติไหนก็คว่ำบาตรเป็นว่าเล่น
ส่วน WHO นั้นมีหน้าที่กวาดต้อนให้ชาติต่างๆ เอานโยบายสุขภาพจากพวกลัทธิ Globalism ไปใช้ปฏิบัติเหมือนกันในทุกประเทศ ต้องซื้อยาจาก Big pharma ไปใช้เป็นช่องทางเดียว แนวโน้มคือห้ามผลิตยาขึ้นใช้เอง ห้ามใช้ยาแพทย์ทางเลือก ทั้ง ๒ อย่างนี้คือเครื่องมือในการจัดระเบียบโลกใหม่
ถ้าอยากตามพวกนี้ให้ทัน ต้องหาอ่านงานวิจัยจำพวกสังคมศาสตร์สุขภาพให้มาก จะได้รู้ว่าพวกนี้มีเบื้องหลังยังไง ผมจึงเสนอให้ตั้ง *กระทรวงแพทย์แผนไทย* ขึ้นมาเพื่อพึ่งพาตนเองในด้านยาอย่างรวดเร็วและยั่งยืน อยู่เป็นแค่กรมแพทย์ทางเลือก ก็จะตกเป็นเบี้ยล่างเขาไปตลอด แพทย์แผนไทยหรือแพทย์ทางเลือกไม่มีทางชูคอได้เต็มที่หรอกครับ”