จากที่นายกฯได้ประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกนอกบ้านตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. ตามพรก.ฉุกเฉิน ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไวรัส ต่อมาทรายได้โพสต์ในทำนองท้วงติง แต่เมื่อดูข้อความแล้วมีบางอย่างที่ไม่ตรงกับสิ่งที่ทรายพูด????
ทราย อินทิรา เจริญปุระ ดาราสาวชื่อดัง ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวผ่านทวิตเตอร์ ซึ่งเมื่อข้อความได้เผยแพร่ออกไปก็มีคนเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก บางคนได้พยายามอธิบาย กระนั้นก็อยากตั้งข้อสังเกตุว่าดาราสาวได้อ่านเนื้อหาของประกาศพรก.ฉุกเฉินล่าสุดแล้วหรือไม่ หรืออ่านเข้าใจในเนื้อความดีแล้วหรือไม่???
ทราย โพสต์ทวิตเตอร์ ITRC @charoenpura ถ้าไม่ตรวจเพิ่ม ถ้าไม่หยุดงาน พี่จะเคอร์ฟิวไปเพื่อ? เชื้อโรคเข้ากะดึกงี้เหรอ? ห้ามออกแปลว่าไม่ติด? นี่โควิดหรือกระสือ ช่วยนึกด้วย ว่ามันมีกิจการที่โดนปิดตั้งแต่19มีนาแล้วด้วย แล้วก็ต่อเวลา ลากกันไปจนถึงปลายเมษา มันจะไม่ไหวเอามั้ยอะ
เราเขียนเข้าใจยากตรงไหนเหรอ? ที่มาบอกว่าเค้าลดคนสังสรรค์ กินเหล้า ห้ามแรดไปข้างนอกน่ะ รู้ค่ะ แต่คนหลักๆที่ต้องเดินทางออกไปทำมากินทุกเช้าถึงเย็น ต้องใช้รถร่วมสาธารณะ ต้องแชร์พื้นที่ทำงานกับคนทั้งวันน่ะ มันมากกว่าไหม? ถ้ามีพรก.สั่งเคอร์ฟิวได้ ทำไมไม่สั่งหยุดงาน(1)
(2) หยุดไปอาทิตย์แล้วไล่ตรวจ ไล่กักคน มันจะเห็นผลกว่ามั้ย? นี่คือปิดสี่ทุ่มถึงตี4เดือนนึง แต่คนตื่นไปทำงาน8-5ตามปกติ คืออะไร? ยิ่งนาน ธุรกิจก็พังกันไปหมด ไม่รู้ว่าจุดสิ้นสุดมันจะอยู่ตรงไหน จบแล้วจะยังไงต่อ เนี่ย เราเขียนไม่เข้าใจตรงไหนอะ ไม่ได้ขวางโลกด้วย ถามแบบเห็นโลกนี่ล่ะ
ค่ะ แต่ก็ยังน่าสงสัยอยู่ดี ว่าลดกลุ่มย่อยแบบนี้ แต่ทำไมไม่สั่งหยุดงานไปเลยทั้งที่สั่งได้ ซึ่งน่าจะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ใหญ่กว่ามากๆ ไอ้แบบประชดว่า ไม่ได้ห้ามเชื้อแต่ห้ามแรด นี่ไม่มีประโยชน์อะตอนนี้ คือรู้ แต่ทำไมไม่แก้จุดที่ใหญ่กว่าไงงงงงงงงงงงงงงงง โอ๊ยยยยยยยยยยยยย
อย่างไรก็ตามก่อนนี้คือ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในประกาศข้อกำหนดฉบับที่ 2 ตามความในมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 หรือ พรก.ฉุกเฉินโดยมีสาระสำคัญสรุปว่า ตามที่ได้มีการออกข้อกำหนดฉบับที่ 1 ไปแล้วนั้น เพื่อให้มีมาตรการเพิ่มขึ้นตามความจำเป็น เพื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินให้ยุติลงได้โดยเร็ว นายกรัฐมนตรี จึงออกข้อกำหนดเพิ่มเติมฉบับที่ 2 ดังนี้
ข้อ1.ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหะสถานเวลา 22.00-04.00น. เว้นแต่มีความจำเป็นหรือเป็นผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ การธนาคาร การขนส่งสินค้า อุปโภคบริโภค ผลผลิตทางการเกษตร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ หนังสือพิมพ์ การขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง การขนส่งพัสดุภัณฑ์ การขนส่งสินค้าเพื่อนำเข้าหรือส่งออก การขนย้ายประชาชนไปสู่ที่เอกเทศเพื่อกักกันตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ การเข้า-ออกเวรทำงานผลัดกลางคืนตามปกติ หรือเดินทางไปยังท่าอากาศยาน โดยมีเอกสารรับรองความจำเป็นและมีมาตรการป้องกันโรค หรือเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติตามข้อกำหนด หรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ โดยได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีออกนอกประเทศไม่ได้ให้จัดที่เอกเทศกักตัว
ข้อ 2.ในกรณีที่มีการประกาศหรือสั่ง ห้าม เตือน หรือแนะนำ ในลักษณะเดียวกับข้อ 1 สำหรับจังหวัด พื้นที่ หรือสถานที่ใด โดยกำหนดเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาที่เข้มงวดเคร่งครัดกว่ากำหนดนี้ ให้ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นด้วย
3.ในกรณีไม่อาจเคลื่อนย้ายบุคคลใด ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเพื่อออกไปนอกราชอาณาจักรได้ ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร จัดที่เอกเทศเพื่อควบคุมหรือกักกันบุคคลดังกล่าว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
ที่มาทวิตเตอร์ITRC @charoenpura
เว็บไซต์แนวหน้าhttps://www.naewna.com/politic/483688