ไม่สนโลก! “สหรัฐฯ” หลอกขายขีปนาวุธให้ยูเครนลูกละ 52 ล้าน ท่ามกลางวิกฤตขาดแคลนอาหาร

0

จากกรณีที่ นายเดวิด บีสลีย์ ผู้อำนวยการบริหารของโครงการอาหารโลก (World Food Program) สหประชาชาติ ระบุว่า การรุกรานยูเครนของรัสเซียอาจทำให้เกิดวิกฤตอาหารโลกครั้งร้ายแรง

โดยบีสลีย์ ได้กล่าวกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่า ธัญพืช 50 เปอร์เซ็นต์ที่โครงการอาหารโลกซื้อเพื่อแจกจ่ายให้ประชาชน 125 ล้านคนทั่วโลกมาจากยูเครน และทางองค์กรอาจต้องเริ่มลดอาหารที่แจกจ่ายในประเทศที่มีสงคราม เช่น เยเมน ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางโครงการอาหารโลกได้ลดการแจกจ่ายอาหารลงไปครึ่งหนึ่งแล้ว เนื่องจากค่าใช้จ่ายอาหาร เชื้อเพลิง และการขนส่งที่สูงขึ้น

ในขณะที่ เวนดี เชอร์แมน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของสหรัฐฯ ระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เป็นต้นเหตุของสถานการณ์ในครั้งนี้ โดยกองกำลังรัสเซียระเบิดเรือขนส่งสินค้าอย่างน้อยสามลำจากท่าเรือในทะเลดำ พร้อมทั้งกล่าวหากองทัพเรือรัสเซียว่าปิดกั้นการเข้าถึงท่าเรือยูเครนเพื่อไม่ให้ยูเครนส่งออกธัญพืชได้

อย่างไรก็ตาม ทางด้าน วาสซิลี เนเบนเซีย ทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ ระบุว่า ราคาอาหารที่สูงขึ้นเป็นผลจากมาตรการลงโทษต่อรัสเซียโดยสหรัฐฯ และชาติตะวันตก โดยเขาระบุว่า กองทัพเรือรัสเซียได้จัดทำระเบียงเพื่อมนุษยธรรมซึ่งอนุญาตให้เรือแล่นออกจากท่าเรือยูเครนได้แล้ว

ล่าสุดทางเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่สหรัฐฯ หลอกขายขีปนาวุธให้กับยูเครน ในราคาลูกละ 52 ล้านบาท ท่ามกลางวิกฤตขาดแคลนอาหารของโลก โดยอ้างอิงจากสำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุว่า ครองอาหารได้ก็ครองประเทศ ครองพลังงานได้ก็ครองทวีป ครองเงินตราได้ก็ครองโลก แต่ยามนี้ฝ่ายสหรัฐ ผู้คุมระเบียบโลกเก่า ดูเหมือนจะตกม้าตายน้ำตื้นเสียแล้ว ชาวอเมริกันกำลังเผชิญสถานการณ์ “Bidenflation” อัตราเงินเฟ้อ 8.3% รุนแรง มากที่สุดในรอบ 40%

ธนาคารอาหารสำหรับคนยากจนกำลังได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนอาหารอย่างหนัก Feeding America ระบุว่า “เราตกอยู่ในอันตรายจากอาหารหมด” ขณะนี้อเมริกากำลังเผชิญกับวิกฤตอาหารความหิวโหยครั้งใหญ , สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐระบุว่า ณ สิ้นเดือน มี.ค.65 ราคาอาหารเฉลี่ยสูงขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ได้ “ทำลายล้างบั่นทอนชาวอเมริกันทุกวัน สังคมเมืองอเมริกัน กำลังพังทลาย”

ชั้นขายอาหารในซุเปอร์มาเก็ตหลายรัฐว่างเปล่า นมผงเด็กหายไป ที่กำลังสร้างความเดือดร้อนให้ทุกครัวเรือนที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ที่ต้องแบกรับราคาอาหารที่พุ่งขึ้นอย่างมาก โดยราคาอาหารเดือน เม.ย.2022 พบว่าราคาเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปี 2021 ดังนี้ เบคอน เพิ่มขึ้น 17.7% , เนื้อวัว 14.3% , ซีเรียล 12.1% , ไส้กรอก 13.9% ,ไข่ 22.6% ไก่ 16.4% ,ผัก-ผลไม้ 7.8% และนม 14.7% แต่ที่น่าแปลกคือกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ รายงานว่าเฉพาะปี 2020 สหรัฐฯ ผลิตปืนเพื่อจำหน่าย 11.3 ล้านกระบอก ขายดีตรงข้ามกับอาหาร
ส่วนอังกฤษ กำลังเผชิญวิกฤติค่าครองชีพ เงินเฟ้อ เม.ย.65 พุ่งถึง 9% สูงสุดรอบ 40 ปี ราคาอาหารและพลังงานที่แพงขึ้น ส่งผลให้วิกฤติค่าครองชีพในอังกฤษทวีความรุนแรงขึ้น กำลังสร้างความลำบากแก่ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำ ผลสำรวจจาก Ipsos และ Sky News พบว่า 25% ของชาวอังกฤษกำลังอดอาหารบางมื้อ จากปัญหาเงินเฟ้อและวิกฤติอาหาร ทั้งสหรัฐ และอังกฤษ คว่ำบาตรอาหารจากรัสเซีย ดังนั้นเมื่อไม่อยากกิน ทางรัสเซีย ก็ตอบโต้คนละหมัดไม่ขายอาหารให้ชาติที่ไม่เป็นมิตร
ปัจจุบันประเทศที่มีการส่งออกข้าวสาลี นำไปเป็นอาหารมากที่สุดในโลก คือ รัสเซีย ยูเครน และอินเดีย ตามลำดับ โดยรัสเซีย คือประเทศผู้ส่งออกข้าวสาลีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในปี 2022 ผลการผลิตธัญพืชมากสุดเป็นประวัติการณ์ของรัสเซียถึง 130 ล้านตัน โดยเป็นข้าวสาลี 87 ล้านตัน ชาวรัสเซียมีอาหารกินเฉลี่ย 1 ตัน/คน จึงกินไม่หมด จึงเน้นส่งออกข้าวสาลีมุ่งขจัดความหิวโหยในชาวตะวันออกกลางพื้นที่เป็นทะเลทรายปลูกอาหารแทบไม่ได้ และช่วยเหลืออาหารให้ผู้ยากจนในแอฟริกา บรรดาผู้ส่งออกของรัสเซีย จึงแทบไม่พบปัญหาเกี่ยวกับการขนส่ง และการทำธุรกรรมชำระค่าสินค้า เพราะรัสเซียไม่สนใจขายอาหารให้กับยุโรป ที่แม้จะร่ำรวยก็หาอาหารกินไม่ได้
ส่วนยูเครน ฉายา “ตะกร้าขนมปังยุโรป” บริโภคข้าวสาลีภายในประเทศ 6 ล้านตัน ส่งออก 26 ล้านตัน , เมื่ออินเดีย ผู้ส่งออกข้าวสาลีอันดับ 3 ของโลก แตะมือกับรัสเซีย สั่งห้ามส่งออกข้าวสาลีออกจากประเทศ เพราะมีประชากรเพิ่มมากขึ้นเกือบ 1,400 ล้านคน กลุ่มประเทศร่ำรวย G7 ที่นำโดยสหรัฐ ก็โวยวายเหน็บแนมทำนองว่า “คนอินเดียอิ่ม แต่คนสหรัฐ ยุโรป อด” เพราะขาดแคลนวัตถุดิบธัญพืช แม้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ จะสั่งเร่งการผลิต นำเข้า และคุมราคาอาหาร พยายามสร้างความมั่นใจให้กับชาวอเมริกันว่าไม่มีภัยคุกคามจากวิกฤติอาหารในประเทศ อ้างว่าได้นำข้าวสาลีตกค้างออกมาจากยูเครนเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ได้กระจายออกไปทั่วโลกสิ่งนี้จะช่วยลดราคาอาหารโลก ” แต่ความจริงคือข้าวสาลี 20 ล้านตัน ยังติดค้างในยูเครน”
ทำให้สหรัฐฯ พยายามจะเอาข้าวสาลีออกจากยูเครนโดยแลกกับอาวุธราคาแพง มาแก้วิกฤติอาหารขาดแคลนของตน โยนบาปให้รัสเซียว่าเป็นผู้ก่อให้เกิดวิกฤตด้านอาหารในชาติตะวันตก โดยนายแอนโธนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ โวยรัสเซียว่า ใช้อาหารเป็นเครื่องมือในการโจมตียูเครน โดยเอาการส่งออกอาหารจากยูเครนเป็นตัวประกัน เพื่อต่อรองกับยูเครน และคนทั่วโลก เขาเรียกร้องในที่ประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ให้รัสเซียเลิกปิดล้อมท่าเรือต่าง ๆ ในยูเครน ด้านผู้นำยูเครนรับลูกว่า “การค้าที่ท่าเรือหยุดนิ่งและขอให้ต่างชาติมาช่วยยุติการปิดล้อมของรัสเซีย เพื่อให้มีการขนส่งข้าวสาลีและป้องกันวิกฤติอาหารโลก”
ประเด็นนี้นายวาสซิลี เนเบนเซีย ทูตรัสเซียประจำองค์การสหประชาชาติ (UN) สวนทันทีว่า “การที่รัสเซียถูกตำหนิว่าเป็นต้นเหตุของวิกฤตอาหารโลกนั้น เป็นเรื่องที่ผิดอย่างสิ้นเชิง วิกฤตนี้สะสมมาหลายปีแล้ว นอกจากนี้ “ยูเครนกักเรือต่างชาติไว้ที่ท่าเรือ ซึ่งกองทัพรัสเซียนั้นพยายามที่จะเปิดเส้นทางอพยพที่ปลอดภัยให้กับเรือสินค้า” การคว่ำบาตรต่อรัสเซียก่อน ทำให้ชาติตะวันตกขาดอาหารและปุ๋ยจากรัสเซีย เป็นเหตุให้เกิดวิกฤตอาหาร ตอนนี้สหรัฐฯ จึงจะขายขีปนาวุธนำวิถีด้วยเรดาร์ รุ่น Harpoon ผลิตโดยบริษัท Boeing และ ขีปนาวุธโจมตีเรือรบ ราคาขายลูกละกว่า 1.5 ล้านดอลลาร์ (51.9 ล้านบาท) พิสัยการยิง 300 กิโลเมตร ปกติจะยิงจากเรือรบในทะเล แต่ดัดแปลงให้ยูเครนยิงจากภาคพื้นดินชายฝั่ง
หวังยิงโจมตีกองเรือรบประมาณ 20 ลำรวมทั้งเรือดำน้ำหลายลำในทะเลดำของรัสเซีย อ้างว่าเพื่อขจัดอุปสรรคต่อการส่งออกสินค้าเกษตรและธัญพืชของยูเครน เปิดทางให้เรือขนส่งสินค้าเกษตรและธัญพืช วิ่งเข้ามารับสินค้าส่งออกได้ แต่ความจริงคือสหรัฐ และ NATO จะใช้เรือสินค้าขนอาวุธเข้ายูเครน ทำให้ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ยิ้มแก้มปริ ประกาศ “ขอบคุณสหรัฐฯ ที่ให้กู้เงินซื้ออาวุธเพิ่มอีก 40,000 ล้านดอลลาร์ , ขอบคุณ EU ให้กู้เงินซื้ออาวุธเพิ่มอีก 9,000 ล้านยูโร เขา “มีความเชื่อมั่นว่ายูเครนจะชนะแน่นอน”..สรุป รัสเซียมีอาหารกินเหลือเฟือกินก็เอาไปขายให้ตะวันออกกลาง และแอฟริกา แต่สหรัฐ อังกฤษ ยุโรป ที่คว่ำบาตรอาหารรัสเซีย กำลังวิกฤติอดอยากหนักขึ้นทุกวัน จึงจะขายขีปนาวุธลูกละเกือบ 52 ล้านบาทให้ยูเครน..ร่วมกันอดอาหารต่อไปนะ พ่อค้าอาวุธชนะแน่นอน