ถือว่าสถานการณ์กำลังมาแรงและดุเดือด เพราะประชาชนกำลังจับตาโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่บรรดาผู้สมัคร จะงัดเอานโยบายเด่น และวาทกรรมเด็ด ๆ ออกมาโปรโมท เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนชาวกทม. ออกไปเลือกตั้งในวันที่ 22 พ.ค. 2565 นี้
โดยในโซเชียล ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงคำพูดของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.จากพรรคก้าวไกล ที่ได้พูดว่า ตนเองนั้นเป็นผู้ว่าคนจน ต้องสู้ ซึ่งมีภาพเผยแพร่คำพูดนายวิโรจน์ ที่สื่อถามว่า ทำไมถึงดุเดือดขนาดนี้?
และนายวิโรจน์ ได้ตอบว่า บางคนอยากเป็นผู้ว่าคนชั้นกลาง ภาพลักษณ์ดี นุ่มนวล ประสาน ประนีประนอม แต่ผู้ว่าคนจนมันต้องสู้ ต้องชน เพราะคนจนถอยไม่ได้อีกแล้ว ไม่มีทางไปอีกแล้ว หากพวกเรายื้อปัญหาออกไป สำหรับคนจน ราคาที่พวกเขาต้องจ่าย ก็คือชีวิตเขานี่ล่ะ
แต่อีกมุมหนึ่ง ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า นายวิโรจน์อาจจะรวยกว่ากลุ่ม 3 กีบบางรายด้วยซ้ำ เพราะมีประวัติการยื่นบัญชีทรัพย์สิน ที่ปรากฎเป็นข่าวเมื่อวันที่ วันที่ 12 เมษายน 2565 ระบุว่า เปิดบัญชีทรัพย์สิน “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” รวย 52 ล้าน
ทั้งนี้ในเพจเฟซบุ๊ก The METTAD ยังได้แสดงความคิดเห็นด้วยว่า ไม่ใช่ทั้งคนชั้นกลางและคนจน เลิกทีเหอะ พวกวาทกรรมหาเสียง เป็นพวกเดียวกับคนจนอะไรเนี่ย
อย่างไรก็ตามได้มีคอมเม้นต์จากโซเชียลด้วยว่า แบบนี้ไม่เรียกว่าจนจริง หยุดพูดอะไรแบบนี้เถอะ ราคาที่ประชาชนต้องจ่าย ที่ผ่านมาก็คือเงินเดือนส.ส. คนไม่จนแต่อยากจน คนจน ๆ อยากจะรวย , เอาเงินท่านมาแบ่งให้เท่า ๆ กันสิครับ คนเท่ากัน และบางคอมเม้นต์ก็มองว่า ชูเรื่องความจนผิดยุคไปหน่อย
