จากกรณีที่มีรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดใหญ่ที่โรงกลั่น S-Oil Corp Onsan ของบริษัท S-Oil Corp ที่เมือง อุลซัน ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นโรงกลั่นที่ใหญ่อันดับสามของประเทศ และใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของโลก
โดยเบื้องต้นพบว่ามีผู้บาดเจ็บ 8 ราย โดย 6 รายมีอาการสาหัส ทั้งนี้ Saudi Aram บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่จากประเทศซาอุดีอาระเบีย เป็นผู้ถือหุ้นหลักใน S-Oil ซึ่งมีกำลังผลิต 669,000 บาร์เรลต่อวัน โดยโรงกลั่นออนซาน (Onsan Refinery) ตั้งอยู่ในเมืองอุลซาน ประเทศเกาหลีใต้ ห่างจากกรุงโซลไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ราว 380 กิโลเมตร และตั้งอยู่ทางทิศเหนือใกล้เมืองพูซาน ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญ โดยเป็นธุรกิจของกลุ่มทุนซาอุดิอาระเบีย ภายใต้การบริหารของ Saudi Arabian Oil ซึ่งถือหุ้นอยู่ 100%

ล่าสุดทางเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว โดยอ้างอิงจากกองทัพสหรัฐและสื่อท้องถิ่นยูเครน ระบุว่า ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐ อังกฤษ ยุโรปตะวันตก ได้ตั้ง”ระเบียบโลก” ขึ้นมาเองให้บังคับชาติต่างๆ ทั่วโลกด้วยหลักคิด “ความไม่มั่นคงของคนอื่น คือความมั่นคงของตน ไปทำให้เกิดสงครามนอกบ้าน จะได้ไม่เกิดในบ้าน” ทำให้สหรัฐ ไปบังคับทั่วโลก ตั้งฐานทัพสหรัฐฯ ประมาณ 750 ฐานทัพ กว่า 80 ประเทศทั่วโลก และมีทหารอเมริกันกว่า 173,000 นายประจำการใน 159 ประเทศ ทั้งฐานทัพตนและฐานทัพคนอื่น ตัวอย่างฐานทัพย่อย และทหารสหรัฐประจำการยึดและควบคุมประเทศนั้นไม่ให้แข็งข้อ เช่น

– เยอรมนี : 119 ฐานทัพ มีทหารประจำการ 33,948 นาย ,
– เกาหลีใต้ : 73 ฐานทัพ มีทหารประจำการ 26,414 นาย
– ญี่ปุ่น : 120 ฐานทัพ มีทหารประจำการ 53,713 นาย
– อิตาลี : 44 ฐานทัพ มีทหารประจำการ 12247 นาย
– ตุรกี : 13 ฐานทัพ มีทหารประจำการ 1,685 นาย
– สหราชอาณาจักร : 25 ฐานทัพ มีทหารประจำการ 9,274 นาย
– คูเวต : 10 ฐานทัพ มีทหารประจำการ 2,169 นาย
– สเปน : 4 ฐานทัพ มีทหารประจำการ 3,168 นาย
– ออสเตรเลีย : 7 ฐานทัพ มีทหารประจำการ 1,085 นาย
– ซาอุดีอาระเบีย : 10 ฐานทัพ มีทหารประจำการ 381 นาย
– แคนาดา : 3 ฐานทัพ มีทหารประจำการ 127 นาย
– คิวบา : 1 ฐานทัพ มีทหารประจำการ 731 นาย
– เปรู : 2 ฐานทัพ มีทหารประจำการ 46 นาย
นี่แค่ส่วนน้อยนิดเท่านั้น อีกกว่า 700 แห่ง รายละเอียดยาวหลายหน้ากระดาษ โดยใช้จ่ายเงินเดือนทหารอเมริกัน ค่าเลี้ยงดู อาหาร สุรา สาธารณูปโภค น้ำมันเชื้อเพลิง ไปจนถึงกระดาษทิชชู ยาคุมกำเนิด ถุงยางอนามัย ฯลฯ ประเทศผู้ยอมให้ตั้งฐานทัพสหรัฐ ต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายจากภาษีชาติของตนมาจ่ายให้สหรัฐ และตั้งฐานทัพแล้วตั้งเลย ไม่ยอมออก ไล่ก็ไม่ไป แถมเรียกร้องค่าขนย้ายอีกหลายหมื่นล้านดอลลาห์ ดังนั้นแถวตอนเหนือซีเรีย อิรัก พวกนักรบเฮชบุลเลาะห์ และกองทัพอิหร่าน จึงนิยมไล่ฐานทัพสหรัฐ ด้วยวิธี “ยิงจรวดถล่ม” แทบทุกวัน เพื่อสร้างความบันเทิง แสง สี เสียง ไม่ยอมไปก็ยิงถล่มอยู่แบบนี้ทนได้ก็ทนไป

มีทหารหน่วย SEAL เกาหลีใต้ ชื่อ LT. Ken Rhee ได้รับข้อมูลข่าวกรองจากกองทัพสหรัฐว่า รัสเซียใกล้แพ้แล้ว อาวุธจะหมดแล้ว ยูเครน จะชนะแน่นอน เขาจึงรีบไปร่วมเดินทางไปประกาศชัยชนะ รับตำแหน่งบิ๊ก Azov NATO เป็นผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษของกองกำลังนานาชาติยูเครน ( International legion territorial defense of Ukraine : ILTDU) แอคท่าถ่ายรูปเท่ๆ แถวแนวหน้าสู้รบกับทหารสาธาณรัฐลูฮันสก์ (LPR) ไม่นานนักโดนฝนเหล็กห่าใหญ่จากรัสเซีย กิมจิที่กินไปกระเด็นออกจากท้อง ผิวกลายเป็นบาร์บีคิวย่างแทบทั้งตัว อวัยวะหลายส่วนปลิวหนีหายจากเจ้าของ เขาได้รับบาดเจ็บหนัก หามร่องแร่งรักษาที่โรงพยาบาลทหารยูเครน แต่แทบไม่มีเวชภัณฑ์อะไรเลย

จึงแปะเทนโซพลาส ทายาหม่อง แล้วขอกลับบ้านที่เกาหลีใต้ เพื่อฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บ ภารกิจฮีโร่โซเชียลของเขาที่ยูเครน จึงจบลงมีชัยชนะอย่างงดงามที่เกาหลีไต้ มีโรงงาน S-OIL เป็นโรงกลั่นน้ำมันในนิคมอุตสาหกรรม Onsan กำลังการผลิตน้ำมันสูงถึง 669,000 บาร์เรล/วัน ใหญ่ที่สุดเป็นลำดับ 6 ของโลก ลำดับ 3 ของเกาหลีไต้รองจากโรงกลั่น SK และ SG-Caltex , ใหญ่พอๆ 3 โรงกลั่นใหญ่ที่สุดของไทยรวมกัน คือ PTT, IRPC, ไทยออยล์ , ใหญ่กว่าโรงกลั่นที่จูร่ง สิงคโปร์ “ใหญ่กว่าโรงกลั่นที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ” ล่าสุดได้เกิดระเบิดขนาดมหึมา ที่โรงกลั่นน้ำมันแห่งนี้เสียหายอย่างหนัก เปลวเพลิวลุกลามแดงฉาน ควันเต็มท้องฟ้า ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน

ผลกระทบคือจะทำราคาน้ำมันล่วงหน้า Future Trade Price ของน้ำมันดิบ/ปิโตรเลียม/ปิโตรเคมี ในเอเชีย มีราคาผันผวนและสูงขึ้น..เหตุระเบิดใหญ่นี้เกิดขึ้นพร้อมกับช่วงที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ เดินทางไปเยือนประเทศเกาหลีไต้ ญี่ปุ่น เพื่อเร่งให้ซื้ออาวุธจากสหรัฐมาตุนไว้มากๆ และเป็นช่วงที่กองทัพเกาหลีเหนือ จะต้อนรับขับสู้ด้วยขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก ความเร็วสูงสุด 10 มัค (12,250 กม./ชั่วโมง) และขีปนาวุธพิสัยกลางติดหัวรบนิวเคลียร์ ..ดังนั้น “ความไม่มั่นคงของคนอื่น คือความมั่นคงของตน ไปทำให้เกิดสงครามนอกบ้าน จะได้ไม่เกิดในบ้าน”..สหรัฐ รับประกันความปลอดภัยเกาหลีไต้ สู้ต่อไป ชนะแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะเยือนเกาหลีใต้และญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 20-24 พ.ค. และจะพบหารือทวิภาคีกับผู้นำคนใหม่ของเกาหลีใต้ ยุน ซุกยอล ที่จะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 10 พ.ค. และพบหารือกับนายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น เพื่อกระชับความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ และขยายความร่วมมือใกล้ชิดเพื่อบรรลุผลลัพธ์ในทางปฏิบัติ นอกจากนี้เธอบอกว่าการเยือนจะเป็นการยืนยันความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าของรัฐบาล