ไบเดนแห้ว-เซเลนสกี้เซ็ง? แรนด์ พอลส.ว.มะกันหนึ่งเดียวขวาง ล้มงบ $40,000 ล้านช่วย ‘ยูเครน’

0

ในสนามรบยูเครนยังระอุ คนสู้ก็สู้กันไป ฝ่ายที่อยากใช้เงินก็ผลักดันกันสุดขีด เหตุการณ์ที่สภาคองเกรสทำเอาผู้นำยูเครนหงุดหงิด เมื่อสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกันหนึ่งเดียว ลงคะแนน “คัดค้าน” การอนุมัติงบประมาณช่วยเหลือยูเครน 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้กระบวนการโหวตในชั้นวุฒิสภาต้องล่าช้าออกไปอีกจนถึงสัปดาห์หน้า หนำซ้ำยังฟาดเจ็บใส่รัฐบาลปธน.โจ ไบเดนว่าจงใจอุ้มยูเครนด้วยการทำลายเศรษฐกิจสหรัฐ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

วันที่ 13 พ.ค.2565 สำนักข่าวเอพีและรัสเซียทูเดย์รายงานว่า แรนด์ พอล วุฒิสมาชิกจากเคนตักกี สังกัดพรรครีพับลิกัน ลงคะแนนเสียงวุฒิสภาค้านร่างกฎหมายการใช้จ่ายจำนวนมากสำหรับเคียฟ เรียกร้องให้มีการควบคุมดูแลการใช้จ่ายเงินอย่างเข้มงวดมากขึ้น ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจผันผวน

ร่างงบประมาณดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และจำเป็นต้องได้ไฟเขียวอย่างเป็นเอกฉันท์จากวุฒิสภาอันจะทำให้เรื่องนี้ไปต่อได้ ทว่าความพยายามดังกล่าวก็มาถูกยับยั้งด้วย 1 เสียงค้านของ  ส.ว.แรนด์ พอล ซึ่งยืนกรานให้มีการแต่งตั้ง “ผู้ตรวจสอบ” เพื่อติดตามการใช้จ่ายเงินก้อนนี้ว่าเป็นไปอย่างเหมาะสมหรือไม่อย่างไร

พฤติกรรมแตกแถวของ พอล ถือเป็นการหักหน้าเพื่อนร่วมพรรคอย่าง “มิตช์ แมคคอลเนลล์” ผู้นำ ส.ว.รีพับลิกันเสียงข้างน้อย ซึ่งย้ำเตือนก่อนที่จะเริ่มการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 ที่ผ่านมาว่า ส.ว. “ทั้ง 2 พรรค” จำเป็นจะต้องช่วยกันผ่านร่างงบประมาณนี้ให้ได้ “ภายในวันนี้” ทำหน้าแตกไม่เย็บไปหนึ่ง

พอล เรียกร้องให้แก้ข้อความในร่างกฎหมายเพื่อกำหนดให้มีผู้ตรวจสอบพิเศษ ที่เรียกว่า อินสเป็คเตอร์ เจเนอร์รัล(inspector general  มีหน้าที่คอยกำกับการใช้เงิน และยังตั้งข้อสังเกตว่า เงินที่จะช่วยยูเครนนั้นมากกว่างบประมาณที่สหรัฐฯ ใช้จ่ายกับหลายๆ โครงการที่สำคัญในประเทศเสียอีก และยังมากพอๆ กับงบป้องกันประเทศที่รัสเซียจัดสรรตลอดทั้งปี ซึ่งจะทำให้สหรัฐฯ ขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น และกระพือปัญหาเงินเฟ้อให้ยากที่จะรับมือ

พอล ย้ำว่า“ไม่ว่าเราจะเห็นอกเห็นใจพวกเขาขนาดไหน แต่ผมได้ให้สัตยาบันตอนเข้ารับตำแหน่งว่าจะปกป้องความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา”  “เราไม่สามารถปกป้องยูเครนด้วยการทำลายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เองได้”

WASHINGTON, DC – MARCH 06: U.S. Senate Majority Leader Sen. Chuck Schumer (D-NY)

ชัค ชูเมอร์(Chuck Schumer) ส.ว.จากนิวยอร์กแห่งพรรคเดโมแครต ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา อ้างว่าวอชิงตันมี”พันธะทางศีลธรรม”  ที่จะช่วยยูเครนในการต่อสู้กับสงครามของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน เขากล่าวว่าบทบัญญัติในการกำกับดูแลของพอล ถูกคัดค้านอย่างรุนแรงจากพรรคเดโมแครตและสมาชิกของพรรครีพับลิกันด้วย

พอลยืนยันว่าข้อเสนอของเขาจะถูกเพิ่มเข้าไปในร่างกฎหมาย ซึ่งจะกำหนดให้ร่างกฎหมายที่แก้ไขแล้ว ต้องกลับไปที่สภาเพื่อลงคะแนนอีกครั้งหลังจากอนุมัติจากวุฒิสภา เขาตั้งข้อสังเกตว่าแพคเกจล่าสุดจะนำความช่วยเหลือทั้งหมดของสหรัฐฯ ไปสู่ยูเครนเป็น 6 หมื่นล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ความขัดแย้งเริ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ เกือบเท่ากับที่รัสเซียจัดสรรงบประมาณไว้ทุกปีสำหรับงบประมาณด้านการป้องกันประเทศทั้งหมด

วุฒิสมาชิกคัดค้านว่าสหรัฐฯ จะให้เงินทุนสนับสนุนการทำสงครามของยูเครนด้วยเงินที่ยืมมา บวกกับหนี้ 30 ล้านล้านดอลลาร์ของอเมริกา และทำให้วิกฤตเงินเฟ้อแย่ลง พอลกล่าวท้วงว่า “คนอเมริกันรู้สึกเจ็บปวด และดูเหมือนว่าสภาคองเกรสกลับตั้งใจที่จะเพิ่มความเจ็บปวดนั้น ด้วยการผลักเงินออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”

พอลกล่าวว่า “สหรัฐฯ ยังคงพยายามกู้คืนเงินที่นำไปใช้จ่าย 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ในสงครามตะวันออกกลาง และเงินหาเงินอีก 5 ล้านล้านดอลลาร์ที่ยืมมาเพื่อใช้เป็นทุนในการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของ Covid-19”  “เราไม่ควรลืมว่าสหภาพโซเวียตล่มสลาย ไม่ใช่เพราะพ่ายแพ้ทางการทหาร แต่เป็นเพราะเงินหมด”เขากล่าวย้ำอีกว่า  “ในความพยายามที่จะกอบกู้ยูเครน เราจะลงโทษสหรัฐฯ ในอนาคตแบบเดียวกับที่เกิดขึ้นกับอดีตสหภาพโซเวียตเช่นนั้นหรือไม่?”

ก่อนหน้านี้ การเรียกเก็บเงินช่วยเหลือผ่านสภาด้วยการสนับสนุนจากพรรคเดโมแครตทั้งหมดยกเว้นจากส.ว.พรรครีพับลิกัน 57 คน ยอดเงินดังกล่าวจะมากกว่าสองเท่าของจำนวนเงินทั้งหมดที่ส่งไปช่วยเหลือในต่างประเทศจากสหรัฐฯ กรณีรายใหญ่ 10 รายในปี 2564 ผู้ที่คัดค้านกฎหมายนี้เช่น ส.ส.มาโจรี เทเลอร์ กรีนจากจอร์เจียแห่งรีพับลิกัน (Marjorie Taylor Greene (R-Georgia) ก็ถูกกล่าวหาว่าเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อของปูติน ฝักใฝ่รัสเซีย

ซัดกันเละในสภาคองเกรส แม้ว่าโดยภาพรวม สองพรรคใหญ่จะเห็นด้วยกับการรุมถล่มรัสเซีย ในด้านลึกมีความขัดแย้งในวิธีการอยู่บ่อยครั้ง ครั้งนี้แรนด์ พอลอาจขวางได้ระยะหนึ่ง ก็แค่ล่าช้า ทำเอาผู้นำสหรัฐและผู้นำยูเครนเกิดอาการเซ็งไประยะหนึ่ง อย่างไรเสียก็คงต้องผลักดันกลับเข้ามาอีกเป็นแน่ มีคนรอใช้เงินอยู่เยอะ แต่ไม่ใช้คนอเมริกันที่กำลังยากลำบากทางเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ที่ถูกเลื่อนงบประมาณเยียวยาโควิด-19 ไปแล้วอย่างไม่มีกำหนด???