ขบวนพาเหรดเกียรติยศของกองทัพรัสเซีย จะส่งเสียงดังก้องไปทั่วจัตุรัสแดงของมอสโกว์ เพื่อรำลึกถึงวันที่ประเทศได้รับชัยชนะเหนือฝ่ายลัทธิทหารสุดโต่งในเยอรมนีครั้งสงครามโลกครั้งที่สอง
วันแห่งชัยชนะในปีนี้ไม่เพียงให้เกียรติความขัดแย้งที่สิ้นสุดเมื่อ 77 ปีก่อนเท่านั้น ชาวรัสเซียจำนวนมากจะนึกถึงกองกำลังหลายพันนายที่กำลังสู้รบในยูเครนที่อยู่ใกล้เคียง สัญญาณของการสนับสนุนกองทัพได้เติบโตขึ้นทั่วประเทศนับตั้งแต่ปฏิบัติการพิเศษทางการทหารเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ โดยมีตัวอักษร “Z” ปรากฏบนป้ายโฆษณาและป้ายตามถนนและรถไฟใต้ดิน ตลอดจนในโทรทัศน์และโซเชียลมีเดีย
เครมลินปฏิเสธที่จะอ้างถึงการต่อสู้ในยูเครนว่าเป็น “สงคราม” โดยเรียกว่า “ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ” ก่อนหน้านี้ฝั่งตะวันตกต่างโหมกระพือข่าวว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินจะใช้วันหยุดนี้เพื่อประกาศปฏิบัติการครั้งนี้เป็นสงครามในที่สุด เพื่อสนับสนุนความมุ่งมั่นระดับชาติของรัสเซียต่อความพยายามดังกล่าว
เรื่องนี้ทางรัสเซียเย้ยเจ็บ โดยโฆษกของเครมลิน ดมิทรี เปสคอฟ ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวว่าเป็น “เรื่องน่าขันและไร้สาระ” เมื่อวันพุธที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา
การเฉลิมฉลองด้วยสัญญลักษณ์แห่งชัยชนะสงครามในอดีต เป็นไปเพื่อรื้อฟื้นความทรงจำ ที่รัสเซียสูญเสียมากแค่ไหนในสงครามโลกครั้งที่สอง และถูกตะวันตกหักหลังแค่ไหนในเวลาที่ผ่านมา
สหภาพโซเวียตสูญเสียผู้คนไป 27 ล้านคนในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่ง เป็นมหาสงครามแห่งความรักชาติที่ใครก็ไม่อาจดูแคลน ชีวิตและจิตวิญญาณแห่งรัสเซีย ความขัดแย้งซึ่งทำลายล้างเมืองและชนบททำให้เกิดความทุกข์ทรมานมหาศาลและทิ้งรอยแผลเป็นลึกลงไปในจิตใจของประชาชาติ
วันแห่งชัยชนะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากในประวัติศาสตร์ หลังโซเวียตที่แตกแยก ซึ่งประเทศประเทศตะวันตกแสร้งเป็นให้ความเคารพ และเครมลินใช้ความรู้สึกนั้นเพื่อส่งเสริมความภาคภูมิใจในความรักชาติและเน้นย้ำบทบาทของรัสเซียในฐานะมหาอำนาจระดับโลกประเทศหนึ่ง ตลอดจนแสดงให้เห็นถึงแสนยานุภาพทางทหารของรัสเซียในวันนี้ว่า ใครก็ไม่อาจมองข้าม และรัสเซียพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับอริราชศัตรูในทุกมิติ
งานเฉลิมฉลองประจำปีนี้ประกอบด้วยขบวนพาเหรดทางทหารขนาดใหญ่ที่จัตุรัสแดง ซึ่งจัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ล่าสุดตั้งแต่รถถัง เครื่องบินขับไล่ ไปจนถึงขีปนาวุธข้ามทวีปเร็วกว่าเสียงแบบปลายนิวเคลียร์
ในปีนี้ อาวุธต่างๆ ที่จะนำมาแสดงในขบวนพาเหรดได้ลดจำนวนลงอย่างมากจากปีที่แล้ว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการปะทะกันอย่างหนักของกองทัพในยูเครน ขณะเดียวกันก็ปิดบังของจริงไว้ ไม่ให้ศัตรูรู้
ในการสั่งปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ปูตินประกาศย้ำว่ามุ่งเป้าไปที่ “การทำให้ปลอดลัทธิทหารสุดโต่ง” ของยูเครนเพื่อขจัดภัยคุกคามทางทหารต่อประชาชนเชื้อสายรัสเซียในดอนบาสส์ ที่ดำเนินมากว่า 8 ปีนับตั้งแต่รัฐประหารไมดานในยูเครน ขณะที่สหรัฐและตะวันตกหนุนหลังกลุ่มสุดโต่งในยูเครนให้เติบใหญ่ และใช้นาโต้เพิ่มการคุกคามติดรั้วบ้านรัสเซียไม่เลิกรา
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ซึ่งเป็นชาวยิว เย้ยหยันคำกล่าวอ้างของเครมลิน รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ ตอบโต้ด้วยการลากเส้นขนานระหว่างเซเลนสกี้และอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ซึ่งเป็นถ้อยแถลงที่มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากอิสราเอล แต่ที่สุดปธน.ปูตินก็ยอมขอโทษแทนต่ออิสราเอลที่ใช้คำไม่เหมาะสม ขณะที่ก็เปิดประตูต้อนรับผู้นำกลุ่มมุสลิมจากปาเลสไตน์อย่างเปิดเผย
บางคนในยูเครนและตะวันตกโหมกระพือข่าวว่า ปธน.ปูตินจะพยายามแสวงหาผลกำไรอย่างรวดเร็วก่อนวันหยุด 9 พฤษภาคม โดยพยายามทำนายว่า รัสเซียจะประกาศชัยชนะที่เด็ดขาดและใช้เป็นทางออกจากสิ่งที่ดูเหมือนหล่มที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทรัพยากรด้านความมั่นคงของรัสเซียร่อยหรอ นั่นคือตะวันตกพยายามสร้างภาพว่า รัสเซียใกล้แพ้ หมดสภาพซึ่งสวนทางกับความเป็นจริงอย่างชัดเจนต่อสายตานานาชาติ
จะว่าสหรัฐและตะวันตกจะยังอ่านกลศึกในสนามรบยูเครนของรัสเซียไม่ออก หรือเป็นเพียงกลยุทธ์จิตวิทยา เพื่อโฆษณาชวนเชื่อก็แล้วแต่ เพราะล่าสุดกองกำลังหัวรุนแรงที่ยูเครนและตะวันตกอวยหนักหนาว่าฝีมือรบยอดเยี่ยมไร้เทียมทาน เหลือกระจุกอยู่ใต้ดินของ เหมืองเหล็กอาซอฟทัล ต้องร้องขอให้นาโต้ช่วย
ในการให้สัมภาษณ์ในสัปดาห์นี้รมว.ต่างประเทศ เซอร์เก ลาฟรอฟ (Sergey Lavrov) กล่าวว่า “กองทัพของเราจะไม่เชื่อมโยงการกระทำของตนกับวันที่ใด ๆ รวมทั้งวันแห่งชัยชนะ”
ข้อมูลของฝ่ายตะวันตกมองว่า กองทัพของรัสเซียมีเจ้าหน้าที่ทหารประมาณ 1 ล้านคน โดย 400,000 คนเป็นทหารสัญญาจ้าง รวมถึง 147,000 คนในกองกำลังภาคพื้นดิน เจ้าหน้าที่ตะวันตกประเมินกำลังเบื้องต้นของกำลังบุกของรัสเซียที่ประมาณ 180,000 ซึ่งน่าสังเกตุว่ารัสเซียไม่เคยโอ้อวดทั้งด้านกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์ แต่ลงมือทำมากกว่า จะได้เห็นก็ต่อเมื่อนำออกมาใช้ และผลก็คือตะวันตกอ่านกลยุทธ์ไม่ออกพ่ายแพ้ซ้ำซากแม้จะชี้นำอยู่ข้างหลังยูเครนก็ตาม
กองทัพรัสเซียยอมรับว่าสูญเสียทหาร 1,351 นาย ณ วันที่ 25 มีนาคม และไม่ได้อัปเดตจำนวนผู้เสียชีวิตตั้งแต่นั้นมา ฝ่ายตะวันตกสร้างข่าวการสูญเสียอย่างต่อเนื่องและปิดบังข้อมูลจริงของความสูญเสียฝ่ายยูเครนอย่างถึงที่สุด
ล่าสุดปธน.โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ลงนามในแพ็คเกจอาวุธใหม่มูลค่า 150 ล้านดอลลาร์สำหรับยูเครนเมื่อวันศุกร์ โดยจัดหากระสุนปืนใหญ่ เรดาร์ และอุปกรณ์อื่นๆ แต่ยังไม้กล้าประกาศชนทางทหารอย่างซึ่งหน้า
ณ ปัจจุบันล่าสุดนี้ การสู้รบในยูเครนยังดำเนินต่อไปและขยายวง สู่แนวโน้มปะทะกับนาโต้อย่างเปิดเผย ในขณะที่สหรัฐและนาโต้สร้างข่าวเพื่อกระตุ้นเร้าไม่หยุด ไปพร้อมๆกับสร้างภาพแห่งชัยชนะข่มขวัญรัสเซียและพันธมิตรซึ่งนับว่าไร้ผล เพราะกลศึกทั้งในสนามรบ กลยุทธ์ในสงครามเศรษฐกิจ รัสเซียชนะขาด สหรัฐและพันธมิตรพ่ายแพ้หมดรูปอย่างไม่อาจปิดบัง!
