ดร.แสงเทียน ส่งข้อความถึง “ผู้มีอำนาจ” ฉีกความผิดพลาด ชำแหละทุกปัญหา เตรียมรับมืออนาคต

0

ความจริง ที่หนีไม่พ้น!? ดร.แสงเทียน ส่งข้อความถึง “ผู้มีอำนาจ” ฉีกความผิดพลาด ชำแหละทุกปัญหา เตรียมรับมืออนาคต ที่ไม่เหมือนเดิม!?

แนะรัฐพูลนักวิชาการด้านสารสนเทศสู้โควิด
รศ.ดร.แสงเทียน อยู่เถา
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเวชระเบียน ม.มหิดล และประธานยุทธศาสตร์วิจัยสถาบันทิศทางไทย
(๒ พฤษภาคม ๒๕๖๔)

จากกรณีที่มีการระบาดของการติดเชื้อโควิด-๑๙ ในรอบใหม่และทวีความรุนแรงจนเพิ่มผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตั้งแต่กลางเมษายน ๒๕๖๔ เป็นต้นมา และการดำเนินการของประเทศในการประสานงานต้องพบกับปัญหาและโดนกล่าวถึงในวงกว้าง ทั้งกรณีของการประสานเรื่องเตียง การพบกับปัญหาลงทะเบียนเพื่อเข้ารับวัคซีนว่าหมอพร้อมหรือหมอไม่ค่อยพร้อม และก่อนหน้านี้ในการดำเนินการเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการลงทะเบียนในทุกแอพพลิเคชั่น ต่างถูกนำมาโจมตีรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง

นักวิชาการในกระทรวงต่างๆ ของประเทศของเรามีจำนวนไม่น้อย มีผู้ที่มีความรู้ความสามารถด้านระบบฐานข้อมูล ข้อมูลข่าวสารสนเทศ คอมพิวเตอร์ โครงข่ายคอมพิวเตอร์ และการสื่อสาร โดยเฉพาะการเกิดขึ้นใหม่ของกระทรวงอย่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่เรียกกันว่ากระทรวงดีอีหรือ MDES ที่มาจาก Ministry of Digital Economy and Society ซึ่งจะเป็นความหวังใหม่ทางด้านนี้สำหรับคนไทยทั้งประเทศ เมื่อพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องนี้ประชาชนส่วนใหญ่ยังมองเห็นผลงานเกียวกับกระทรวงนี้เรื่องการต่อต้านข่าวปลอมและการดำเนินการเรื่องอาสาสมัครดิจิทัล

แต่ในสถานการณ์โรคระบาดเช่นนี้รัฐควรให้ความสำคัญของบทบาทจากกระทรวงดีอีในการเป็นแม่งานเพื่อรวบรวมนักวิชาการจากทุกกระทรวงด้านนี้มาทำงานร่วมกันเพื่อสนับสนุนนายกรัฐมนตรี ศบค. และทุกหน่วยที่กำลังดำเนินการต่อสู้กับสถานการณ์โรคระบาดในทุกระดับ ไม่ใช่ให้กระทรวงต่างๆ หรือหน่วยงานอย่างกรุงเทพมหานครดำเนินการกันไปโดยต่างคนต่างทำ แม้จะเข้าใจได้ว่าทุกหน่วยทุกองค์กรก็มีแนวคิดอิสระ แต่มีงานด้านอื่นๆ ที่สามารถดำเนินการอิสระได้อยู่แล้ว

แต่การดำเนินการด้านนี้ต้องรวมกันเป็นหนึ่ง ผนึกกำลังกันในระดับชาติเพื่อดำเนินการ ทั้งการออกแบบนวัตกรรมร่วมกัน รวบรวมองค์ความรู้ต่างๆ ที่มีการดำเนินการมาจากทุกภาคส่วนทั้งจากมหาวิทยาลัยหรือภาคเอกชน ที่จะมาพิจารณาข้อดีข้อเสีย จัดทำเซิร์ฟเวอร์สำรองข้อมูลเพื่อรองรับการเข้ามาใช้งานในบางโปรแกรม บางแอพพลิเคชั่น จากประชาชนจำนวนมาก

เอาสิ่งใกล้ตัวที่กำลังดำเนินการและกำลังจะมาถึง คือ การเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชน การที่จะดำเนินการตามวิธีนี้ก็จะสามารถรองรับการจัดคิว การประยุกต์การใช้รถเคลื่อนที่ออกไปฉีดให้กับประชาชนที่ไหนก็ได้ ถ้ามีระบบข้อมูลที่ดีที่ประชาชนเพียงนำบัตรประชาชนไปเข้าคิว คัดกรองผ่านระบบเครือข่ายข้อมูลเข้าสู่ฐานข้อมูลในระดับชาติที่ดีและรวดเร็วจากการดำเนินการเฉพาะที่มีระบบเครือข่ายข้อมูลเข้าสู่เซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูลที่มีการจัดเก็บไว้หลายที่หรือมีระบบสำรองที่อัพเดทอัตโนมัติพร้อมกันทุกเซิร์ฟเวอร์ มีระบบที่ดีก็จะสามารถฉีดให้ได้ทันที ไม่ต้องทำอะไรให้ยุ่งยาก

ระบบแบบนี้จะเป็นฐานของการพัฒนาที่ดีไปสู่เรื่องอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การที่จะมีการเลือกตั้งแบบมีนวัตกรรมในอนาคต แบบ “การเลือกตั้งแบบดิจิทัล” ที่พกบัตรประชาชนไปเลือกตั้งผู้แทนราษฎรที่ไหนก็ได้ หรือที่ที่มีรถให้บริการเคลื่อนที่สำหรับจุดเลือกตั้งที่ไหนก็ได้ รวมถึง “การทำประชาพิจารณ์แบบดิจิทัล” นอกจากนี้ก็ยังสามารถประยุกต์เพื่อทำอย่างอื่นได้อีกมากมาย

สถาบันทิศทางไทย ขอเสนอไปยังผู้มีอำนาจในการที่จะพูลนักวิชาการทางด้านนี้เพื่อการพัฒนาระบบในการรองรับการให้บริการประชาชนในช่วงสถานการณ์โควิด ช่วยกันแก้ปัญหาต่างๆ ที่เคยพบในช่วงที่ผ่านมา ให้ประเทศไทยสามารถจัดการได้ดียิ่งขึ้น ประเทศของเราจัดการได้อย่างดีจนเป็น Best Practice หรือแบบอย่างที่ดีในหลายเรื่องของการจัดการเรื่องนี้ การพูลนักวิชาการจากทุกส่วนงานก็เป็นอีกประการหนึ่งที่จะช่วยให้เราบริหารจัดการเพื่อผ่านวิกฤตินี้ไปได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน