นักการเมืองฝ่ายค้าน ไม่ทำการบ้าน โหนม็อบล้มเจ้า ประณามตำรวจใช้ความรุนแรง ออกโรงป้องม็อบ “ชุมนุมโดยสงบ”
จากกรณีที่การชุมนุมของกลุ่ม REDEM เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ถ้าดูข่าวสารด้วยความเป็นธรรม ก็จะเห็นได้ว่า เกิดความรุนแรงขึ้น แต่สิ่งที่ต้องพิจารณาก็คือ ใครก่อความรุนแรงขึ้นก่อน ณ เวลานี้ เมื่อกลุ่มม็อบสามกีบนัดชุมนุม ก็ต้องรู้เลยว่า จะต้องเกิดความรุนแรงขึ้น ฝากไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐ ตั้งแต่ผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้มีหน้าที่รับผิดชอบทั้งหลายว่า อย่าปล่อยให้เหตุการณ์เกิดขึ้นถึงมาแก้ไข ต้องดำเนินการทางกฎหมายทางหนึ่งทางใดก่อน ในการที่จะป้องกันเพราะวันนี้ จะอ้างสิทธิเสรีภาพอย่างไรก็ตามแต่ การชุมนุมที่ไม่ขออนุญาตเกิดขึ้นไม่ได้ ทั้งในแง่การชุมนุมทางการเมืองและในแง่ของการระวังป้องกันโควิด-19 แต่พวกนี้หาได้อินังขังขอบไม่ พวกยุ ไอ้พวกบงการ ไอ้พวกแอบอยู่ข้างหลัง ก็บอกว่า วันที่ 20 มีนาคม ราษเก็ต ก็ไปเล่นสเก็ตกันด้วยความสงบ ธนาธร โพสต์เฟซบุ๊กตัวเองว่า ตัวเองไปปรากฎตัวอยู่ที่นครพนม จะแสดงให้เห็นว่า ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราว อยู่ต่างจังหวัด แต่ปรากฎว่า ต่อมาในยามดึกก็มีคนพบเห็นพร้อมทั้งบันทึกภาพได้ว่า ธนาธรไปดื่มเหล้าอยู่ใกล้ๆสถานที่เกิดเหตุ
ย้อนไปก่อนที่ม็อบสามกีบจะนัดชุมนุมกันในวันที่ 20 มีนาคมนั้น ก็ปล่อยข่าวออกมาเป็นระยะๆ ว่าจะต้องทำวิธีการใดวิธีการหนึ่งที่จะก้าวล่วงพระบรมมหาราชวังหรือวัดพระแก้ว บ้างก็ว่าจะขว้างนกไปเพื่อให้ไปถึง แน่นอนว่า เจตนาก็คือ ต้องการที่จะพุ่งเป้าไปที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ตำรวจก็พยายามหาทางป้องกัน แต่วิธีป้องกันของตำรวจเป็นการป้องกันแบบตั้งรับ ก็เอาตู้คอนเทนเนอร์ เอาตาข่ายมาขึงเพื่อไม่ให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดลุล่วงเข้าไปได้ นี่แหละที่บอกว่า ตำรวจคิดแต่เรื่องตั้งรับ ไม่ได้เตรียมการป้องกัน หรือดำเนินการอะไร จึงปรากฎภาพที่พวกนี้ก่อเหตุขึ้นว่า ทันทีที่เริ่มเกาะกลุ่มกัน มีคนแต่งตัวที่พร้อมออกสู้รบ ใส่หมวกกันน็อค ใส่สนับเข่า สนับแขน เตรียมปะทะ การประกาศว่าไม่มีแกนนำ เป็นการเลียนแบบการชุมนุมที่ฮ่องกง ทันทีที่มีการประกาศว่าไม่มีแกนนำ ก็คือการตั้งใจที่จะก่อความรุนแรง เพราะถ้ามีแกนนำ แกนนำต้องรับผิดชอบ แต่ลองคิดว่า มีการ์ดที่เตรียมพร้อมมา พร้อมทั้งหน่วยแพทย์ หน่วยพยาบาล ซึ่งควรจะเตรียมได้ แต่ถ้าเป็นการชุมนุมสงบจริงๆ จะต้องเตรียมการอย่างนั้นหรือ คำถามง่ายๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจเคยบุกเข้าไปตีก่อนไหม ไม่มี ไม่เคยเห็น
กลุ่มผู้ชุมนุม พยายามที่จะดึงตู้คอนเทนเนอร์ ลงมาเพื่อที่จะดำเนินการบางอย่างให้บรรลุประสงค์ของตัวเองต่อพระบรมมหาราชวัง และหลังจากนั้น ก็เริ่มมีการขว้างระเบิดปิงปอง ยิงน็อตสกรู รวมทั้งมีการพกพาอาวุธ ซึ่งจะเป็นอาวุธจริงหรืออาวุธเทียมปืน แต่ก็ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะเอามาในที่แบบนั้น หากผิดพลาดพลาดพลั้ง เกิดเข้าใจผิดและเกิดยิงกันตายอะไรจะเกิดขึ้น ความต้องการจะโหนศพมันชัดเจนอยู่แล้ว คำถามว่านอกเหนือจากการกระทำเหล่านี้ พวกยังเอากระดาษไปติดที่พระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และเขียนว่า เป็นที่ทิ้งขยะ ทำลายจิตใจคนไทยผู้จงรักภักดีทั้งชาติ แล้วก็พยายามจะจุดไฟเผา ดีที่สังคมไทยยังมีแท็กซี่ที่มีหัวใจจงรักภักดีหนีขึ้นแท็กซี่ และแท็กซี่ก็จัดการให้ตำรวจมาจับไปเรียบร้อย วันนี้ก็จะไปตามล่าเขา แต่ตอนนี้พี่น้องคนไทยก็ร่วมกันปกป้องแท็กซี่ผู้จงรักภักดี
การกระทำทั้งสิ้นทั้งปวงของพวกนี้ เป็นการชุมนุมโดยสงบหรือไม่ แน่นอนว่า พอเกิดเหตุขึ้น ก็มีการโหนสถานการณ์ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานกลุ่มสร้างไทย กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจปฏิบัติการสลายการชุมนุมกลุ่มรีเดมว่า “การใช้ความรุนแรงไม่ควรจะเกิดขึ้น และทราบว่าเกิดขึ้นหลังจากยุติการชุมนุมแล้ว ซึ่งควรดูแลให้กลับบ้านด้วยความปลอดภัย ไม่มีใครต้องมาถูกทำร้าย หากมีการกระทำผิดตามกฎหมาย ก็ยึดหลักสากลดำเนินคดีไป ส่วนตัว ไม่ปรารถนาที่จะเห็นภาพความรุนแรงใดๆที่จะเกิดขึ้น” ฟังดูดีเหลือเกิน คำว่าสลายไปแล้ว แกนนำประกาศ ไหนว่าชุมนุมตอนแรกไม่มีแกนนำ แต่หลังจากประกาศแล้ว ม็อบที่แตกกระจายไป ก็เริ่มจุดไฟเผา รื้อกระถาง เข้าโจมตีตำรวจ ตำรวจพยายามที่สลายใช้กระสุนยางจะเป็นจะตาย แต่หญิงหน่อยโหนทุกครั้ง เป็นแบบนี้ทุกที เลิกนิสัยแบบนี้เถอะ เล่นการเมืองมายาวนาน
ย้อนไปเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2563 อานนท์ นำภา แต่งตัวแฮรี่พอตเตอร์ โจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเปิดเผยครั้งแรก วันที่ 7 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม แต่ไม่ได้ดำเนินคดีในมาตรา 112 เพราะตอนนั้นตำรวจยังไม่มีนโยบายที่จะดำเนินการ จากกรณีที่พล.อ.ประยทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บอกว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระเมตตาไม่อยากจะดำเนินการ วันที่ 7 ตำรวจจับอานนท์ นำภา วันที่ 8 ที่น่า สน.บางเขน หญิงหน่อยก็ไปโหนทันที หยุดคุกคามประชาชน เชื่อหญิงหน่อยไม่ได้ดูรายละเอียดที่อานนท์พูด เพราะพอ 10 สิงหาคม มีการชุมนุมที่ธรรมศาสตร์รังสิต ยื่น 10 ข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็ชะงักอึ้งไป ก็ออกมาตำหนิเด็ก นั่นคือ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กำลังจะตั้งพรรคการเมืองใหม่ ก็ดูเส้นทาง ดูทิศทางว่า ประชาชนควรจะสนับสนุนหรือไม่
ส่วนอีกพรรคหนึ่ง คือพรรคเพื่อไทย แน่นอนตั้งแต่เป็นเหยื่อไอ้สามกีบมาเพราะอยากจะแก้รัฐธรรมนูญ ไปใช้ระบบการเลือกตั้งแบบเดิม สองใบที่จะทำให้พรรคตัวเองยิ่งใหญ่ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ก็อาศัยเงื่อนไขการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปเชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวของม็อบสามกีบ ดังนั้น ไม่ว่าสามกีบจะโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไร หรือสามกีบจะทำอะไร ก็ดูดีดูงามไปหมด อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย บอกว่า “เจ้าหน้าที่รัฐไม่ควรสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง เกินกรอบของกฎหมาย บอกไม่ควรยิงกระสุนยาง ในการชุมนุมโดยสงบของเด็กและเยาวชน”
ทั้งๆที่พวกนี้พยายามจะก่อเหตุ ก่อความรุนแรง พยายามที่จะเผาพระบรมฉายาลักษณ์ ซึ่งแน่นอนว่า ตำรวจควรระมัดระวัง ป้องกันไม่ให้เกิดภาพแบบนี้ขึ้น แต่อนุสรณ์บอกว่านี่คือการชุมนุมโดยสงบ อีกคนหนึ่ง พิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้มีลูกชายที่เก่งกล้าสามารถ ตอนเป็นรัฐมนตรีพลังงาน บทบาทของลูกชายเป็นที่รู้กันทั่วทั้งวงการ ออกมาโพสต์ว่า “อย่าชินกับความชั่ว! รัฐบาลประยุทธ์สั่งปราบผู้ชุมนุมด้วยความรุนแรง ทั้งแก๊สน้ำตา กระสุนยาง และ ไม้ตี ในการชุมนุมทุกครั้งช่วงหลังนี้ จนเหมือนเป็นเรื่องปกติ ทั้งๆที่เป็นความเลวร้าย ประชาชนต้องร่วมกันประณามและต่อต้าน อย่าได้คิดว่าความชั่วร้ายเป็นเรื่องปกติ #ม็อบ20มีนา #ประยุทธ์ออกไป” ยังมีอีกที่ไปโยงเรื่องของพม่าว่า “น่าอับอายสุดขีด! ในขณะที่ทั้งโลกกำลังประณามทหารพม่าที่ฆ่าผู้ชุมนุมอย่างป่าเถื่อน แต่ทหารไทยกลับมีข่าวส่งอาหารให้ทหารพม่า อีกทั้งไทยยังมีการทำร้ายผู้ชุมนุมเหมือนกัน ทำแบบนี้ไทยไม่ต่างจากพม่า แล้วจะตอบประชาคมโลกอย่างไร #ม็อบ20มีนา #รัฐบาลส้นตีนคนเชียร์ก็ส้นตีน”
ความหมายที่ม็อบสามกีบโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ ผิดมาตรา 112 คนหนึ่ง 9-10 คดี กระทำต่อเนื่อง เผาพระบรมฉายาลักษณ์ ม็อบ 20 มีนา ก็ทำลาย ทำร้าย ต้องการเผาพระบรมฉายาลักษณ์ นี่เป็นการชุมนุมโดยสงบหรอ? ถามว่า ถ้าม่ได้กั้นและเอาหัวน็อตยิงเข้าไปในพระบรมมหาราชวัง อะไรจะเกิดขึ้น อะไรจะเสียหายกับสมบัติของชาติ สมบัติของคนไทยทุกคน แต่ไอ้นักการเมืองพวกนี้โหนเด็ก โหนม็อบสามกีบ เหมือนกับ… ที่เดินตามหลังธนาธร