ปลายยอดเขา ถล่มแล้ว!! ชำแหละ ปรากฏการณ์ปืนแตก “สมศักดิ์เจียม” ประกาศ “ถอยทัพ” ขบวนการปฏิวัติล้มเจ้า ล้มครืน!!
ถือว่าค่อนข้างที่จะออกมาชัดเจนแล้วสำหรับการชุมนุมในประเทศไทย ของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “คณะราษฎร” ว่าไม่มีทางชนะแล้ว ยิ่งพยายามยกระดับความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แนวร่วมยิ่งลดลง ถึงขนาดที่ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล หนึ่งในเสาหลัก และกลุ่มผู้ชุมนุมมักเรียกว่าเป็น “ศาสดา” ได้เคลื่อนไหวล่าสุด ยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว
โดยการเคลื่อนไหวของ “นายสมศักดิ์” ในครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเขามักจะนุนนำ ชักนำม็อบให้อยู่ในขบวนที่เขาตั้งเป้าไว้ เป็นแถวอย่างมีระเบียบในช่วงแรก กระทั่งผู้ชุมนุมสามารถทำการจาาบจ้วงสถาบันฯในที่สาธารณะ ตามที่กลุ่มชังชาตินอกประเทศได้วางเป้าหมายไว้ แต่แล้วทุกอย่างก็จบลง และยอมรับความพ่ายแพ้ ส่งผลให้น่าจับตามองเป็นอย่างมากว่า “ม็อบ” จะเดินอย่างไร ในเมื่อหัวเรือใหญ่ ไม่สู้แล้ว
ล่าสุดทางด้านของ ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความในประเด็น “มันล่มสลายแล้ว” โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
สิ่งที่ผมจะเขียนต่อไปนี้ ผมไม่ได้ตั้งใจเขียนให้คนเชียร์ม็อบคณะราษฎรอ่านหรอกนะ
แต่ผมมุ่งเขียนให้คนมีสติ คนมีวิจารณญาณในประเทศนี้อ่านเป็นหลัก ขอให้ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันก็แล้วกัน
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้ มันคือ
#ปรากฏการณ์ของกระบวนการล่มสลายของขบวนการปฏิวัติล้มเจ้า ที่นำโดยธนาธรกับปิยบุตร
พวกผู้ใหญ่ที่เป็นครูบาอาจารย์ เสาหลักทางจิตวิญญาณและความคิดให้แก่พวกเยาวชนล้มเจ้า
อย่างสมศักดิ์เจียมและชาญวิทย์
แทนที่จะออกมาปรามแต่แรกๆว่าสถานการณ์ปฏิวัติล้มเจ้ายังไม่สุกงอม อย่ารีบร้อนผลีผลาม
แต่สมศักดิ์เจียมกลับยอมรับกับผมเองว่า เขาเป็นคนอยู่เบื้องหลังผลักดันข้อเสนอ “ปฏิรูปสถาบันฯ10ข้อ” โดยมีผู้บงการม็อบยัดเยียดใส่มือรุ้งอีกทีให้ขึ้นเวทีที่ธรรมศาสตร์รังสิต เพื่อออกไปประกาศเรื่องนี้ในคืนวันที่ 10 สิงหาคม 2020
การแสดงตัวออกมาอย่างโจ่งแจ้งเปิดเผยว่าเป็น ขบวนการ(ม็อบ)ปฏิวัติล้มเจ้าของจริง คือวันที่ 10 สิงหาคม 2020 นี้เอง ซึ่งเปรียบเสมือน “วันเสียงปืนแตก” ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งแระเทศไทยในอดีต
จนชาญวิทย์ถึงกลับหลุดปากออกมาเองว่า
“ได้เห็นในสิ่งที่ไม่คิดว่าในชีวิตนี้ของตัวเองจะได้เห็น”
#คนอย่างสมศักดิ์เจียมและชาญวิทย์คือปลายยอดภูเขาน้ำแข็ง ของ “เครือข่ายปัญญาชนล้มเจ้า” ที่ทั้งเกาะเด็ก ป้อยอเด็ก และหลอกใช้เด็ก เพื่อ #สำเร็จความใคร่ทางอุดมการณ์ของตัวเองเท่านั้น
#คนพวกนี้ขี้ขลาดและเห็นแก่ตัว เพราะไม่มีใครกล้าออกมาขวางเรือยามน้ำเชี่ยว เพื่อเตือนสติพวกเด็กและพวกแกนนำหุ่นเชิด ด้วยการพูดความจริงเกี่ยวกับ #ความไม่มีจริงของสถานการณ์ปฏิวัติล้มเจ้า แม้แต่คนเดียว
ผ่านไปเจ็ดเดือน … สมศักดิ์เจียมที่ยังมีสติและความเป็นมนุษย์มากกว่าปวิน ถึงยอมออกมาเขียนสารภาพยอมรับความจริงว่า
“ไม่มีวันชนะ เพราะคนส่วนใหญ่ไม่เอาด้วย”
จากนั้นชาญวิทย์จึงกระมิดกระเมี้ยนแชร์โพสต์ของสมศักดิ์เจียม
… เท่านั้นแหละ ปรากฏการณ์วงแตก ล้มครืนแบบโดมิโน่ก็เกิดขึ้นภายในขบวนการปฏิวัติล้มเจ้า … อย่างที่สังคมกำลังเห็นอยู่ในตอนนี้
ปรากฏการณ์เห็บหมัด ปรสิตเผ่นกระโดดหนีหมาแก่ป่วยใกล้ตาย จึงเกิดขึ้นในขณะนี้
ไม่ก็ทะเลาะตบตีกันเองแบบไม่เผาผีกัน
มีแต่ “นางงาม”หน้าโง่ที่หิวแสงเท่านั้นที่ดันโผล่ออกมาโหนม็อบตอนนี้
ส่วนพวกหัวโจกและแกนนำก็โดนคดีกันเพียบ
หายนะมาแน่ๆ
แต่ที่จะตามมาอีกต่อจากนี้ คือ #วิกฤตศรัทธาในขบวนการปฏิวัติล้มเจ้าของธนาธรและปิยบุตร
สังคมรอดูต่อไปเถิด
สุวินัย ภรณวลัย
16 กุมภาพันธ์ 2021