จะเลือกชีวิตลูกค้า? หรือเงิน? 7-11 จะต้องยอมสละเงิน 4,752 ล้าน???

0

กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ จนทำให้มีคำถามว่า ร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่นฯจะเลือกชีวิตลูกค้า? หรือเงิน? 7-11​ จะต้องยอมสละเงิน 4,752 ล้าน​ ถ้าจะจ้างคนเฝ้าตรวจอุณหภูมิ​หน้าร้าน​ ทุกสาขา​ ด้วยมาตรการเข้ม​ Lockdown กรุงเทพ​ และเมืองใหญ่​ ทำให้เกิดพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ร้านรวงที่เปิดอยู่​ โลตัส​ บิ๊กซี​ แมคโคร​ ไม่สามารถเดินเข้าไปได้สะดวกเหมือนเมื่อก่อน

 

ซึ่งต้องผ่านจุดคัดกรองข้างหน้า​ มีเจ้าหน้าที่หรือพนักงาน​อย่างน้อย​ 2​ คนคอยเอาเครื่องวัดอุณหภูมิ​มาตรวจ​ และ​ เอาสติ๊กเกอร์ผ่านได้มาติดเสื้อ​  และบังคับให้ทุกคนใส่หน้ากาก เวลายืนรอคัดกรองก็ต้องยืนห่างกัน​ 1​ เมตร เป็นแบบนี้หมด​ มาถึง​ ธนาคาร​ที่ยังเปิด ไปรษณีย์ไทย​ หรือ​ โลตัส​ Express​ หลายแห่งมีการจำกัดคนเข้า​ เพื่อลดความแออัด​ของคนข้างใน​ แต่ปรากฏว่าคนต้องทะลักมารอกันข้างนอก

 

เป็นความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น​ ที่ต้องจำยอม  แต่สิ่งเหล่านี้ไม่เกิดที่หน้าร้านสะดวกซื้อ​ เกือบทุกยี่ห้อ​ แต่ที่ต้องพูดถึงมากกว่าใครเพื่อนคือ​ 7-11​ เพราะ​ 7-11 มี​ 11,000​  สาขาทั่วประเทศ ถ้าต้องมีจุดคัดกรอง​หน้าสาขาทุกสาขา​ จะต้องใช้พนักงานอย่างน้อย​ 1​ คน​  ถ้าต้องเปิด​ 24​ ชม.​ก็ต้องมีคนทำตรงนี้อย่างน้อยสันละ​ 3​ คน​ (ทำงานวันละ​ 8​ ชม.)​

 

แต่ตอนนี้​มีคำสั่ง​เคอร์ฟิว​ 7-11​ ตั้งแต่เที่ยงคืนถึง​ตี​ 5​ ก็ลดคนไป​ 1​ คน​ เหลือ​ สาขาละ​ 2​ คน แต่เนื่องจากต้องเปิด​ตลอด​ เสาร์-อาทิตย์​ ต้องมีจ้างอีก​ 1​ คน​เพื่อสลับให้เกิดวันหยุดอย่างน้อย​อาทิตย์ละวัน สรุปคือ​ 7-11​ต้องเพิ่มคน​ 3​ ต่อสาขาเพื่อทำให้เกิดจุดคัดกรอง​หน้าร้าน​  ตั้งแต่​ตี 5​ ถึง​ เที่ยงคืน​ ทุกวัน

 

สรุปว่า​ 7-11​ อาจต้องเพิ่มคนอย่างน้อย​ 33,000 คนเพื่อการนี้ พนักงาน​1​ คน​มีเงินเดือน​รวมสวัสดิการก็ประมาณ​ 12,000​ บาท คิดเป็นเงินส่วนนี้​ 396 ล้านบาท/เดือนโดยประมาณ 1​ ปี​ ก็​ 4,752​ ล้านบาท  เงิน​ 4,752​ ล้านนี่สำหรับชาวบ้านนี่โคตรเยอะ​ แต่สำหรับเจ้าสัว​ CP​ แค่นี้​จิ๊บๆ

 

ปีที่แล้ว​  CPALL รายได้ 569,349 ล้านบาทมาจาก 3 กลุ่ม 1.​ กลุ่มร้านสะดวกซื้อ (7-Eleven) 335,532 ล้านบาท (59%) 2.​ ศูนย์จำหน่ายสินค้าแบบชำระเงินสดและบริการตนเอง (Makro) 192,932 ล้านบาท (34%) 3.​ ธุรกิจอื่นๆ 40,885 ล้านบาท (7%) เงิน​ 4,752 ล้าน​ คิดเป็น​ 1.42% เท่านั้น​ของรายได้​ 7-11​ ทั้งหมด​ (3.5 แสนล้าน)​ พูดภาษาชาวบ้านคือ​ ขนหน้าแข้งไม่ร่วง

 

ทีจะจ้าง​ Delivery​ เพิ่ม​ 20,000​ อัตรายังทำได้​ ทำไมจะจ้างคนมาเพื่อเฝ้าจุดคัดกรองหน้าร้านไม่ได้ ไม่ต้องไปเสียเวลาเอาเงินไปบริจาค  50​ ล้าน-100​ ล้านเหมือนเจ้าสัวคนอื่น​  ทำบุญด้วยการช่วยคนสร้างงานสร้างอาชีพในยามวิกฤตินี่แหละได้ทั้งบุญที่สุดแถมได้ทั้งช่วยให้ลูกค้า​ ประชาชน​ ประเทศชาติ​ ปลอดภัยจาก​เชื้อ​ Covid-19  ถ้าจริงใจ​ ไม่งก​ ก็ควรรีบทำเลย​ ณ.บัด​ now