ดร.เวทิน ฉีกมาตรฐาน จุฬาฯ ประจานความเละเทะ ปล่อยข้อมูลเท็จ ไม่หยุด

0

จากกรณีที่นายณัฐพล ใจจริง ได้มีการเขียนวิทยานิพนธ์เรื่อง การเมืองไทยสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ภายใต้ระเบียบโลกของสหรัฐอเมริกา [พ.ศ.2491-2500]

ซึ่งเป็นข้อมูลที่บิดเบือน ซึ่งในหน้า 105 มีย่อหน้าหนึ่งที่อ้างถึงรายงานสถานฑูตสหรัฐอเมริกาว่า ผู้สำเร็จราชการแทนพยายามรักษาอำนาจตั้ง “รอยัลลิสต์” พวกตัวเองเข้าเป้นสมาชิกวุฒิสภา โดยไม่ปรึกษาหอรือรัฐบาลท่านจอมพล ผู้สำเร็จราชการขยายบทบาททางการเมือง เข้าประทับเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีของท่านจอมพล

โดยอ้างว่านำข้อมูลมาจาก หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ วันที่ 18 ธันวาคม 2493 แต่หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ฉบับที่นายณัฐพลอ้างอิงถึงได้รายงานว่า รัฐมนตรีบางคนคิดว่าการแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภาโดยไม่ปรึกษารัฐบาลนั้นไม่รอบคอบพอ จอมพล ป. อ้างว่า รัฐบาลกับราชบัลลังก์ ควรทำงานใกล้ชิดมากขึ้น จึงขอร่วมประชุมองคมนตรีด้วย ซึ่งในหนังสือพิมพ์ไม่มีการพูดถึงผู้สำเร็จราชการเป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรี สรุปได้ว่า ที่ผู้สำเร็จราชการเข้าประทับเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีนั้น ไม่มีแหล่งอ้างอิง หรือก็คือ ณัฐพล ใจจริง กุเรื่องขึ้นมา

ต่อมาทางด้าน ศาสตราจารย์ ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และหนึ่งในคณะกรรมการวิทยานิพนธ์ ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และพบว่าข้อมูลในวิทยานิพนธ์ฉนับดังกล่าว เป็นการกล่าวอ้างขึ้นมาเอง ไม่มีแหล่งอ้างอิง

นายณัฐพล ใจจริง ได้ทำหนังสือชี้แจงยอมรับข้อผิดพลาดและอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจ เสนอขอแก้ใหม่ตัดประเด็นการเป็นประธานการประชุมออกไป แต่ผิดอย่างไรก็ไม่กระทบใจความหลักของทั้งเล่มแต่อย่างใด ทางคณะรัฐศาสตร์ได้หารือกันว่า ให้งดเผยแพร่และอ้างอิง ถ้าจะเผยแพร่ตีพิมพ์จะต้องขออนุญาตบัณฑิตวิทยาลัยก่อน ต่อมาทาง นิตรสารฟ้าเดียวกัน ก็ได้นำข้อมูลดังกล่าวตีพิมพ์ขายด้วย

นอกจากนี้ วิทยานิพนธ์ฉบับดังกล่าว ยังมีการพบในฐานข้อมูลของสถาบันพระปกเกล้า ต่อมาเนื้อหาที่เกี่ยวกับผู้สำเร็จราชการในฐานข้อมูลสถาบันพระปกเกล้านั้นได้ถูกลบออกไป แต่ยังย้อนดูในประวัติการแก้ไขได้ นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ ธงชัย วินิจจะกูล นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ชาวไทย ได้ออกมากล่าวถึงกรณีดังกล่าวหาว่า สถาบันการศึกษาเซ็นเซอร์วิทยานิพนธ์ “ที่ดีเยี่ยม” ด้วยข้อหาผิดพลาดทั้งที่เข้าใจผิดตีความเกินเลยไปเท่านั้น ไม่ได้สำคัญอะไร

ซึ่งต่อมา สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ได้ออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าว ว่าหนังสือขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี นั้นได้ปรับปรุง แก้ไขข้อบกพร้องของวิทยานิพนธ์ การเมืองไทยภายใต้ระเบียบโลกของสหรัฐอเมริกา 2491-2500 เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งติงกลับว่า ไชยันต์นั้นมโน

ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว อ.ไชยันต์​ เพียงแค่ทำหน้าที่ตรวจสอบ ด้วยจรรยาบรรณนักวิชาการควรต้องทำ ที่สำคัญประเด็นมันไม่ใช่แค่เรื่องหนังสือเล่มนี้​ แต่อยู่ที่​ ความพยายาม​ที่จะสร้าง​ “เอกสาร” หรือ​ “แหล่งอ้างอิง” อันดูมีความน่าเชื่อถือทางวิชาการ​ ให้กับขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อล้มล้าง​ เปลื่ยนแปลง​ สถาบันพระมหากษัตริย์​ โดยขยายบริบทการเผยแพร่จากวงวิชาการแคบๆ(ที่ไม่มีใครอ่าน)​ ให้ไปสู่สาธารณะ​ ซึ่งเป็นอันตรายต่อประเทศชาติอย่างรุนแรง

ซึ่งเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.63 ทางด้านของ ดร.เวทิน ชาติกุล ผ.อ.สถาบันทิศทางไทย ก็เคยพูดถึงในประเด็นดังกล่าวและความเน่าเฟะตั้งแต่ในมหาวิทยาลัย​ มาจนถึง สำนักพิมพ์ล้มเจ้า การสร้าง​ โปรพาเกนด้า​ ที่ดูเป็นวิชาการ​ โดยการใช้​กระบวนการของราชการในระบบอุดมศึกษา​มารองรับ​ เพื่อกร่อนเซาะทำลาย​ สั่นคลอนความคิด​ ความเข้าใจเกี่ยวกับรัฐและสถาบันพระมหากษัตริย์ลงอย่างช้าๆ และจี้ให้ทางด้านของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต้องออกมารับผิดชอบ ในเรื่องดังกล่าว

“ดร.เวทิน” ชำแหละ วิทยานิพนธ์ลวงโลก​ นักวิชาการล้มล้าง​ นิตยสารล้มเจ้า​ ทำกันเป็นขบวนการ!!

หลังจากนั้นในวันที่ 4 ม.ค.64 ทางด้านของ จุฬาฯ ก็ได้ออกมาส่งจดหมายลับให้กับทางด้านของนักวิชาการหลายคน ซึ่งเป็นการเตรียมแถลงปม วิทยานิพนธ์ฉบับดังกล่าว ว่าเข้าข่ายบิดเบือนโจมตีสถาบัน แต่เรื่องทุกอย่างก็เงียบลง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เปิดจดหมายลับ จุฬาฯ เตรียมแถลงปม “วิทยานิพนธ์ล้มเจ้า” บิดเบือนโจมตีสถาบัน!!

ล่าสุดในวันที่ 28 ม.ค.64 ทางด้านของ ดร.เวทิน ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว โดยได้จี้ไปที่ทางด้านของ มาตรฐานวิชาการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ให้วิทยานิพนธ์ ฉบับนี้ผ่านการตรวจสอบได้อย่างไร โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ฉีกมาตรฐานวิชาการจุฬาฯทิ้งไปเถอะ​ หลักฐาน​ ณัฐพล​ อ้างอิงเท็จ​ โผล่ไม่หยุด​ ประจานความเละเทะตั้งแต่อาจารย์ที่ปรึกษายันกรรมการสอบ
/////
1.​ คา​วิทยานิพนธ์​ และ​ หนังสือ​ “ขุนศึก” ที่​ เฟคเดียวกัน​ เถียงคอเป็นเอ็นว่า​ แก้ไขแล้ว
2.​ คราวนี้​ ใส่ร้าย​ กรมพระยาชัยนาท​ ผู้สำเร็จราขการฯว่า​ รีบลงนามรับรอง​ รัฐประหาร​ 2490
3.​ ทั้งๆที่เอกสารที่นำมาอ้างอิงทั้งหมด​ ไม่ได้ปรากฏข้อความดังกล่าว​หรือปรากฎข้อความที่เข้าใจได้ว่า​ กรมขุนชัยนาทฯถูกกดดันให้เซ็นรับรองรัฐประหาร

4.​ ที่หนักกว่านั้น​ ก็คือ​ 1​ ในเอกสารที่เอามาอ้าง​ เป็นหนังสือของ​ นายสุธาชัย​ ที่เป็น​ กก.สอบวิทยานิพนธ์ด้วย​ แต่ไม่ได้ทักท้วงเรื่องความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
5.​ ซึ่งแสดงว่า​ วิทยานิพนธ์ที่สอบผ่านระดับดีเยี่ยม​ เละเทะ​ ตั้งแต่​ ตัวผู้เขียน​ อาจารย์ที่ปรึกษา​ กรรมการสอบวิทยานิพนธ์
6.​ นี่หรือ​ มาตรฐานวิชาการของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย