ดิ้นเป็นหมาถูกน้ำร้อน ไทยภักดี จัดตั้งพรรคการเมือง นโยบายต่อต้านทุนผูกขาด ก้าวไกล กลัวหัวหดเจอมวยถูกคู่ ต่อสู้ลำบากแน่
ตอนนี้กลุ่มไทยภักดี ซึ่งก่อตั้งมา 5 เดือนแล้วตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563 ได้มีการจัดการแถลงข่าวระดมรับสมาชิก ซึ่งต้องถือว่า เป็นกลุ่มการเมืองที่เปิดตัวมาอย่างมีความชัดเจนทางการเมืองอย่างยิ่ง นั่นก็คือ ได้แสดงบทบาทในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่นอกเหนือจากการปกป้องสถาบันก็ยังเปิดเผยอย่างชัดเจนว่าจะสืบสานความเป็นไทย ต่อต้านทุนผูกขาด และจะนำพาเอาเทคโนโลยีใหม่ๆมารับใช้เศรษฐกิจพื้นฐานของประชาชน ดังนั้น ดูตั้งแต่นโยบายที่เปิดกลุ่มาตั้งแต่ต้น ก็ชัดเจนว่ากลุ่มไทยภักดีต้องการที่จะพัฒนาตัวเองไปเป็นพรรคการเมือง เพราะนอกเหนือจากการเปิดนโยบายออกมา ยังได้มีการเปิดรับสมาชิกนำมาเชื่อมโยงในโลกโซเชียล ได้มีการสมัครต้องมีการยืนยันบัตรประชาชน แล้วตั้งแต่เปิดตัวมา นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ก็ไม่เคยทำให้ประชาชนผิดหวัง กลุ่มไทยภักดีได้รับการตอบรับจากประชาชนคนไทย
ประกาศตัวจัดตั้งเป็นพรรการเมือง ทิศทางหลักในการประกาศตัวในครั้งนี้ นอกเหนือจากนโยบายเดิม 5 ข้อแล้ว ก็ชัดเจนว่า เพื่อต่อสู้กับพรรคก้าวไกล ต่อสู้กับกลุ่มก้าวหน้า และม็อบสามนิ้ว ทำไมถึงต้องสนับสนุนเพราะนับตั้งแต่เกิดพรรคอนาคตใหม่ขึ้น เกิดม็อบสามนิ้ว สร้างกระบวนการในโลกโซเชียลนำคนสู่ท้องถนน แล้วไปจัดตั้งการ์ดเดินหน้าเรื่องความรุนแรง ยังไม่เคยเห็นนักการเมืองในสภาผู้แทนราษฎรที่จะต้องออกมาปกป้องสถาบัน ทั้งๆที่เป็นหน้าที่ แต่กลับเงียบ มิหนำซ้ำบางครั้งบางคราวยังโหนกระแส เช่น พรรคภูมิใจไทย ตอนม็อบสามนิ้วเคลื่อนไหวใหม่ๆ บอกว่า หยุดคุกคามประชาชน พรรคภูมิใจไทยออกมาประกาศ โดยหัวหน้าพรรค อนุทิน ชาญวีรกูล บอกว่าอย่าคุกคามประชาชน หลังจากนั้นถอนตัวทัน เพราะเห็นธาตุแท้ของพวกนี้
ดังนั้น การที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบและกลายมาเป็นพรรคก้าวไกลผสมผสานกับม็อบสามนิ้ว ยกระดับการเคลื่อนไหว การต่อสู้เพื่อหวังเปลี่ยนแปลงสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยใช้เวทีรัฐสภา ซึ่งมีกฎหมายรองรับออกมาต่อสู้ วันนี้พึ่งพรรคการเมืองพรรคไหนไม่ได้ ก็จำเป้นที่จะต้องเชียร์หมอวรงค์ให้พัฒนากลุ่มการเมืองกลุ่มนี้ ให้มีสถานะทางกฎหมายรองรับเพื่อที่จะได้ไปต่อสู้กับพวกนี้ และทันทีสำนวนไทยที่ว่า ร้องเป็นหมาถูกน้ำร้อนลวก ปรากฎว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ก็ออกมาโพสต์ทวิตเตอร์ว่า การตั้งพรรคโดยชูเรื่องปกป้องสถาบันกษัตริย์ ไม่ว่าหวังดีต่อสถาบันฯ หรืออ้างเพื่อทำลายผู้อื่น แต่ทั้งหมด คือ การนำสถาบันฯ เข้ามาอยู่ใน “แดนทางการเมือง” หากประชาชนเลือกพรรคนั้นน้อย จะหมายความอย่างไร? การปกป้องสถาบันฯ ที่ถูก ต้องช่วยกันรักษาสถานะความเป็นกลางทางการเมืองของสถาบันฯ
เป็นเจตนาที่กำลังโดนน้ำร้อนลวก เหตุผลคือ พวกนี้ไม่อยากให้มีพรรคการเมืองในลักษณะไทยภักดี เพราะจะมีสถานะเป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อ มัดต่อมัดในสภา กลุ่มต่อกลุ่มในการเคลื่อนไหวภายนอกทั้งในโลกโซเชียลและการเคลื่อนไหวมวลชน ดังนั้น วันนี้ที่กระทำอยู่ฝ่ายเดียว กลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวต่างๆ ก็เป็นประชาชนคนทั่วไปที่รักชาติ รักสถาบันพระมหากษัตริย์ ยังไม่มีพรรคการเมืองไหนออกมาทำ แต่คำพูดของปิยบุตร อยากทบทวนให้ปิยบุตร เผื่อจะลืม แต่ด้วยนิสัยที่บิดเบือนตลอดเวลา จะได้เข้าใจข้อเท็จจริงว่า คนที่ไปดึงสถาบันพระมหากษัตริย์ลงสู่การเมืองและนำพามาจนสู่สถานการณ์ความขัดแย้งในสังคมปัจจุบัน ที่ชาญวิทย์ เกษตรศิริ ปรมาจารย์ของพวกคุณบอกว่า สิ่งที่ไม่ได้เห็นก็จะได้เห็น ก็คือการที่เด็กๆ ออกมาโจมตีสถาบันด้วยข้อมูลที่บิดเบือน ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะคุณเดินเข้าสู่การเมือง แล้วคุณไปดึงสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาอยู่ในความขัดแย้ง
พรรคอนาคตใหม่ประกาศจัดตั้งพรรค ก่อตั้งพรรคขึ้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2561 มีธนาธร จึงรุุ่งเรืองกิจ เป็นหัวพรรค มีปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นเลขาธิการพรรค คำขวัญพรรคคือ อนาคตใหม่คือ อนาคตที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน ไทยสองเท่า คนท่าเทียมกัน ไทยเท่าทันโลก การตั้งคำขวัญก็มุ่งหมายให้ร้ายต่อสถาบัน หลังจากนั้น ธนาธรมาออกหนังสือ พอตเทรตธนาธร ปิยบุตร มาออกในเดือนพฤศจิกายน ปี 2561 หลังจากจัดตั้งพรรคการเมืองแล้ว จากนั้น 8 เดือน หนังสือที่ออกมามันชัดเจน หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ที่คนเรียกตี๋ทอน ประกาศชัดว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ใช่ตำแหน่งที่ต้องการ แต่อยากมีอำนาจเพื่อที่จะไปปต่อรองกับ… ซึ่งทุกคนรู้ว่าหมายถึง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ” นี่คือการลากการเมืองไปเกี่ยวพันกับสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมกับบอกเหตุผลว่า ถ้าไม่ทำแบบนี้ ก็ไม่สามารถเอาทหารออกจากการเมืองได้ ไม่สามารถจัดการเรื่องศาลได้ หมายความว่า กล่าวหาว่า สถาบันพระมหากษัตริย์แทรกแซงการเมืองผ่านกองทัพ ผ่าทหาร และผ่านศาล
ปิยุบตรเองก็ไปพูดที่มหาวทิยาลัยลอนดอน และผิดมาตรา 112 จนถึงวันนี้ก็ยังสงสัยว่าทำไมยังไม่มีใครจัดการ ที่ไปกล่าวหาบิดเบือนพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ว่าไปสั่งศาล ทั้งๆที่พระองค์ทานพูดด้วยพระราชหฤทัยที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง นี่คือการที่ตั้งพรรคขึ้นมาแล้วดึงสถาบันพระมหากษัตริย์ลงมาสู่การเมือง โดยกล่าวหาว่าพระองค์ท่านแทรกแซงการเมือง เวลาเขาตั้งพรรคไทยภักดี บอกเขาว่าอย่าไปลากสถาบันเข้ามา พวกคุณพูดเรื่องความเท่าเทียม พูดเรื่องการจะดูแลประชาชน แต่ไทยภักดีพูดชัดเจนกว่า เขาจะต่อสู้กับทุนผูกขาด เขาจะนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับฐานของประชาชนให้ทีความเท่าเทียมกันทางด้านเศรษฐกิจ ยังไม่เคยได้ยินพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล ทำในเรื่องเหล่านี้ นอกจากออกมาสนับสนุนม็อบในการเคลื่อนไหว ไม่เคยทำอะไรที่เป็นประโยชน์
หลังจากพรรคอนาคตใหม่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามา ในวันที่ 17ตุลาคม 2562 รัฐบาลได้เสนอพระราชบัญญัติ กำหนดโอนย้ายกำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย และกระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ปรากฎว่าพรรคอนาคตใหม่ออกมาคัดค้าน เรื่องไหนเป็นเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์ก็คัดค้านไว้ก่อน อภิปรายขยายความไว้ เตรียมเรื่องราาวไปร้องรับความคิดคน เพื่อให้ข้อมูลในโลกโซเชียลไปขยายบิดเบือนต่อเพื่อโจมตีสถาบัน แม้แต่หลุดออกไปจากการเป็นสส.แล้ว นายธนาธร ได้รับการเสนอชื่อโดยพรรคก้าวไกล ไปเป็นกรรมธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ ปี 2564 ซึ่งมุ่งเน้นไปโจมตีสถาบัน เรื่องที่ธนาธร เอาไปอภิปรายเพื่อขอตัดงบประมาณของมูลนิธิปิดทองหลังพระ บอกว่าจะให้มูลนิธิไปทำทำไม ปิดทองหลังพระ ทำตามแนวพระราชดำริทับซ้อนกับหน่วยราชการที่ทำอยู่แล้ว แต่ละปีก็จัดสรรงบประมาณให้มาโดยตลอดตั้งแต่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สู่รัฐบาล ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ไม่เคยลงไปดูเอง
นี่คือบทบาทที่เข้าไปปอยู่ในพรรคการเมือง เพื่อทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ข้างนอก ม็อบสามนิ้วเสนอข้อเรียกร้อง 10 ข้อเคลื่อนไหวมาต่อเนื่อง วันนี้กำลังจะมีคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อ ก็ต้องจับตาดูกัน เพราะการเมืองก็คือการเมือง ท้ายที่สุดประชาชนจะเป็นคนตัดสิน