ธนาธร-ปิยบุตร ขี้ขลาดกลัวติดคุก เจอ “ป้าอัญชัญ” แชร์ผิดม. 112 เจอคุก 43 ปี 5 เดือน!?!

0

ธนาธร-ปิยบุตร ขี้ขลาดกลัวติดคุก เห็นตัวอย่าง ป้าอัญชัญ แชร์ผิดม. 112 เจอคุก 43 ปี 5 เดือน เตือนสาวกปลดแอก ดูไว้

เรื่องของการกระทำความผิดกฎหมายอาญาตามมาตรา 112 กฎหมายฉบับนี้เป้นกฎหมายเพื่อการคุ้มครองประมุข ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ มีความผิด เป็นกฎหมายธรรมดาทั่วไปที่ต้องมีเพื่อคุ้มครองความเป็นประมุข ซึ่งความจริงยังมีความผิดในมาตราอื่นๆที่คุ้มครองไปถึง ประมุขของรัฐต่างประเทศ คุ้มครองศาล คุ้มครองข้าราชการ และคุ้มครองประชาชนคนธรรมดาทั่วไป แต่ลำดับของโทษหนักเบาต่างกัน ตามความสำคัญแต่ละบุคคล

นายปิยบุตร เสนอให้ยกเลิกมาตรา 112 ไม่ต้องมีความผิดทางอาญา ให้ว่ากันไปทางแพ่ง สติปัญญาของนักกฎหมายคนนี้ ถ้าเป็นแบบนี้ คนที่ไม่พอใจ พระมหากษัตริย์ พระราชินี องค์รัชทายาทหรือผู้สำเร็จราชการแทน เป็นการใช้อารมณ์ ไม่ได้ใช้เหตุผล ไปด่าทอกล่าวว่า จะให้พระองค์ท่านลงมาฟ้องแพ่งประชาชนหรือ รัฐธรรมนูญก็เขียนเอาไว้ชัดเจนว่า พระมหากษัตริย์อยู่ในฐานะที่ผู้ใดจะละเมิดมิได้ แต่เสนอกฎหมายแบบนี้ เสนอด้วยความขี้ขลาดว่าตัวเองจะติดคุก และขี้ขลาดเพื่อแสดงความกล้าออกมาว่าปกป้องพวกแกนนำที่โง่หลงเดินตามปิยบุตร ธนาธร จนโดนดำเนินคดีตามมาตรา 112 กันระนาว ถ้าแน่จริงทำไมไม่ออกมาวิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยตนเอง เพราะตัวเองรู้ว่า ผิดกฎหมาย

ที่ไปพูดที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ บิดเบือนพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 ซึ่งมีพระราชดำรัสกับคณะศาลให้ช่วยกันดูแลประเทศเพราะติดขัดในประเด็นของกฎหมาย พระองค์ท่านก็เตือนให้ศาลช่วยดูแล ให้จัดการให้ประเทศเดินไปได้ แต่ปิยบุตรเอาไปบิดเบือนไปพูดให้ฝรั่งฟังว่า ในหลวง ใช้อำนาจเหนือศาล ใช้อำนาจทางการเมืองผ่านศาล เมื่อพูดถึงปิยบุตรแล้ว จะไม่พูดถึงธนาธรไม่ได้ เพราะสองคนนี้ตัวร้าย ทำหนังสือ พอตเทรตธนาธร เปิดประเด็นเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ว่ามีอำนาจสั่งศาล สอดคล้องกับที่ปิยบุตรพูด มีอำนาจสั่งทหาร แต่ตัวเองอยากจะมีอำนาจเพื่อจะไปต่อรองกับพระมหากษัตริย์ เพราะกระบวนการความคิดที่สร้างมาและไปเปิดประเด็นในโลกโซเชียล มันจึงทำให้เด็กจำนวนหนึ่งซึ่งไม่รู้เรื่องรู้ราว ไปหยิบเอาเรื่องบิดเบือน เรื่องหลอกลวง ของสถาบันพระมหากษัตริย์มาโพสต์มาแชร์กันในโลกโซเชียล

อยากจะเตือนไปถึงผู้ปกครองของเด็กๆทั้งหลาย แต่ไม่เตือนแกนนำเพราะแกนนำโดนไปแล้ว 30 ราย ไม่ได้เหยียบย่ำหรือซ้ำเติมเด็กๆ แต่คุณจะเป็นอนาคตของชาติไม่ได้ ถ้ามีความคิดเพียงด้านเดียว ไม่มีข้อมูลที่ตรวจสอบ ไม่มีการค้นหาข้อเท็จจริง นึกอยากจะพูดตามข้อมูลที่ได้รับมา กฎหมายมีไว้ลงโทษผู้กระทำความผิดที่มีเจตนาร้าย

เมื่อวันที่ 18 -19 มกราคมที่ผ่านมา มีการตัดสินคดีการกระทำความผิดตามมาตรา 112 วันที่ 18 นักเขียนประชาไท หมิ่นในหลวงร.9 ชื่อนามปากกาว่า “รุ่งศิลา” ชื่อจริงคือนาย นายสิรภพ กรณ์อรุษ เป็นนักเขียนแนวร่วมเสื้อแดง โดนตัดสินจำคุกไป 4 ปี 6 เดือน กาารกระทำความผิดนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2552 โดยเขียนข้อเขียน กลอน โพสต์ลงเว็ปไซต์ประชาไท โจมตีพระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 และทำความผิดต่อเนื่อง ทั้งข้อความและเป็นภาพการ์ตูน ปรากฎว่าถูกจับดำเนินคดี ศาลตัดสินจำคุก 6 ปี แต่ให้การเป็นประโยชน์ให้ลดโทษ 1 ใน 4 เหลือ 4 ปี 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ถูกจำคุก เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2557- 11 มิถุนายน 2562 ติดคุกมาแล้ว 4 ปี 11 เดือน 18 วัน เลยจากเวลาที่ศาลตัดสิน จึงปล่อยตัวไป ถือว่าติดคุกมาเพียงพอแล้ว แต่คดียังอยู่ในขั้นตอนของการอุทธรณ์ต่อไป ซึ่งก็ต้องรอผล

แต่คดีของนายสิรภพ ยังไม่เท่าของอีกคน ที่ตัดสินเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา ชื่อัญชัญ ปรีเลิศ อดีตข้าราชการระดับซี 8 กรมสรรพากร เป็นข้าราชการระดับผู้ใหญ่ เป็นระดับผู้อำนวยการกอง ตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน 2557 – 24 มกราคม 2558 ได้แชร์เสียงหรือข้อความที่เป็นความผิด ที่เป็นของนายบรรพต ซึ่งลงในยูทูป และแต่ละครั้งที่แชร์ เมื่อถูกดำเนินคดี เขานับเป็นกรรม รวมทั้งสิ้น 29 กรรม ถูกจำคุกในระหว่างที่ศาลพิจารณาตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2558 – 2 พฤศจิกายน 2561 เกือบ 4 ปี การพิจารณาคดีอยู่ในช่วงรัฐประหารของคสช. ศาลทหาร ต่อมาย้ายมาศาลธรรมดา รับสารภาพเพราะคิดว่าศาลธรรมดาจะให้ความเมตตา เมื่อรับสารภาพ หลักฐานชัด ทั้งโจทย์และจำเลย ไม่มีการสืบพยาน ก็โดนไป 29 กรรม 29 กระทง ศาลสั่งจำคุกกระทงละ 3 ปี รวมจำคุก 87 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดลงกระทงละกึ่งหนึ่ง จาก 3 ปี เหลือ 1 ปี 6 เดือน 29 กระทง รวมเป็นโทษจำคุกทั้งสิ้น 29 ปี 174 เดือน หมายความว่า 43 ปี 5 เดือน นี่คือการกระทำที่ไม่คิด มักง่าย ไม่หาข้อเท็จจริง ไม่ตรวจสอบ เห็นเขาโพสต์รู้สึกสะใจ แชร์ต่อแล้วไม่คิดเอาเองว่าไม่มีอะไร

เหมือนที่แกนนำที่รู้สึกสะใจ ทั้งๆที่ไม่ได้รู้ข้อเท็จจริง เหมือนที่รุ้ง ปนัสยา มารับสารภาพโดยการให้สัมภาษณ์ BBC ว่ารับข้อมูลมายังไม่ถึงวัน เอามาอ่านในการชุมนุมที่ธรรมศาสตร์ รังสิต แต่ก็รู้สึกว่าต้องอ่าน มีความภาคภูมิใจ และพิสูจน์กันตอนที่มาออกรายการของจอมขวัญทางไทยรัฐทีวีกับดร.อานนท์ เรื่องของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ไม่รู้เรื่องสักเรื่อง พิสูจน์ชัดว่า ไม่ได้ศึกษาเลย คิดเอาตามอารมณ์ที่ไปรับสื่อ มาจากพวกปลุกปั่น และคนที่เปิดประเด็นก็คือ ธนาธร ปิยบุตร วันนี้ก็เลียบๆเคียงๆ ไม่กล้าออกมานำเอง เพราะรู้ว่าเวลาถูกดำเนินคดีแล้วจะเป็นอย่างไร ตัวอย่างของอัญชัญ 43 ปี 5 เดือน ผู้ปกครองทั้งหลายต้องเตือนลูกหลานของท่านด้วย