กางผลเลือกตั้งฟาด “ทักษิณ” เสื่อมอำนาจ เพื่อไทยทรุดหนัก นปช.แตกยับแล้ว!?!

0

สนธิญาณ กางผลเลือกตั้งนายกฯ อบจ.เพื่อไทย ฟันฉับ ทักษิณ สิ้นอำนาจ ลูกก๊วนตีจาก นปช.แตกยับ พรรคเพื่อไทยกำลังจะทรุด

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2563 นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ได้กล่าวถึงกรณีของทักษิณ ชินวัตร ที่กำลังสิ้นอำนาจ ลูกพรรคตีจาก นปช. แตก เพื่อไทยทรุด ซึ่งได้กล่าวในรายการ สนธิญาณ ชัด ครบ จบ จริง ว่า ทักษิณ ชินวัตร กับยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สองคนพี่น้อง สองนายกฯที่หลอกให้ปะชาชนสู้เพื่อตัวเอง แล้วก็ทิ้งให้ติดคุกติดตาราง หรืออย่างลูกน้องคนสนิทที่สู้มาแทบเป็นแทบตาย หรือสู้ให้ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ซึ่งรวยอยู่แล้วได้กอบโกยมากขึ้น ตอนนี้ก็ติดคุกติดตารางแทบเป็นแทบตาย

ได้ข้อสรุปว่า ทั้งชีวิตที่ทุ่มเทให้กับทักษิณ ยิ่งลักษณ์ และคนในตระกูลชินวัตร สิ่งที่ได้มาก็แค่เศษเนื้อข้างเขียง เศษเล็กเศษน้อย แต่สิ่งที่ต้องเผชิญหนักหนาเกินที่จะทนไม่ว่าจะเป็นบุญทรง จตุพร หรือพี่น้องประชาชนคนอื่นๆ ติดคุกติดตารางตั้งแต่คราวชุมนุมใหญ่ตั้งแต่พฤษภาคม 2553 ต่อเนื่องในพฤติกรรมต่างๆ ของทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยากที่ต้องการจะสู้ก็พูดจายกย่อง เช่น จตุพรน้องรัก หรือพี่น้องประชาชนที่ออกมาสู้เพื่อผม มีเรื่องผมจะออกมานำหน้า ท้ายที่สุดหนีหัวซุกหัวซุน เตลิดเปิดเปิงไปอยู่อย่างสุขสบายในต่างประเทศ

กรณีล่าสุดที่เกิดขึ้น จะต้องเอามาเป็นบทเรียนว่าวันนี้ ทักษิณและคนในตระกูลชินวัตร ใกล้จะจบสิ้นบทบาททางการเมืองและความเชื่อถือของประชาชน รวมทั้งผู้คนที่แวดล้อมใกล้ชิดแล้ว แม้ล่าสุดจะออกมาสนับสนุน สว.ก๊อง หรือพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ในการลงสู้นายกฯอบจ.ที่เชียงใหม่ ต้องเรียกว่า ออกแรงกันสุดๆ แต่เลือกคนที่มีตำหนิมาด้วย ได้คะแนนไป 421,426 คะแนน สมใจทักษิณ ยิ่งลักษณ์ ที่อุตส่าเขียนจดหมาย รวมทั้งทุ่มเทกำลังอื่นๆอย่างเต็มที่ แต่ถ้าดูภาพรวมการเลือกตั้งทั้งหมด ในการเลือกตั้งนายกฯอบจ. ครั้งนี้ จะเห็นได้ว่า อนาคตของพรรคเพื่อไทยกำลังดิ่งเหวจริงๆ ตามที่ได้บอกไว้แล้วว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมี 20 จังหวัด ส่งไป 10 จังหวัด ได้มาแค่ 3 จังหวัด ภาคเหนือส่งไป 6 ได้มา 5 จังหวัด ก็พอที่จะกู้หน้าได้ แต่ ภาคกลางมี 20 จังหวัด ส่งไป 9 จังหวัด แพ้ทุกจังหวัด

สำหรับคะแนน 3 จังหวัดที่ชนะ ได้แก่ อุดรธานี อุบลราชธานี มุกดาหาร แต่ทั้ง 3 จังหวัดที่ชนะ คะแนนลดลงทั้งสิ้น ส่วนจังหวัดอื่นๆ ก็ลดฮวบลงไปเยอะ ถือว่า คะแนนรวมในภาคอีสานลดลงไปเยอะคือ จาก 1,852,660 คะแนน ลดลงเหลือ 1,505,610 คะแนน มาดูภาคกลางมีน่าสนใจก็คือที่สุพรรณบุรี ได้บวกขึ้นมา 63,474 คะแนน ตอนเลือก สส. มีหลบกันให้เกียรติกับพรรคชาติไทย พอเลือกตั้งนายกฯอบจ.ก็ได้คะแนนมา 96,842 แต่ก็แพ้ ภาคกลางลดฮวบจากคะแนนรวม 2,979,829 ครั้งนี้ได้ 2,564,829 ลดลง 400,000 ส่วนภาคเหนือ ก็กู้หน้าของทักษิณเอาไว้ ส่งไป 6 จังหวัด ได้มา 5 แต่เชียงรายที่แพ้ไป ตอนเลือก สส.ได้ 282,544 เลือกตั้งนายกฯอบจ.ได้ 211,023 หายไป 71,521 ไม่แปลกที่แพ้ จังหวัดที่ชนะ ก็คือ ลำพูน หายไป 9,412 คะแนน จากตอนเลือกสส.ได้ 102,685 มาครั้งนี้ได้ 93,273 คะแนน น่าน ตอนเลือกสส.ได้ 115,432 ครั้งนี้ได้ 88,319 คะแนน ลดไป 27,113 รวมแล้วในเขตภาคเหนือ ตอนเลือกสส.ได้มา 1,047,788 ครั้งนี้ได้ 1,000,304 หายไป 47,484 คะแนน

สิ่งที่เห็นนี่คือการถดถอย มนต์ขลังทักษิณจบสิ้นลงแล้ว เห็นชัดว่า ไปต่อไม่รอด ไม่ได้เฟื้องฟู ไม่ได้ผงาดในการที่เดินหน้า ถ้ายิ่งมาดูผลการเลือกตั้งที่ออกมา บอกได้เลยว่า ขณะที่พรรคเพื่อไทยได้ไป 8 จังหวัด ส่งทั้งสิ้น 25 จังหวัด ตอนแถลงก็บอกว่าดูดีได้ 40% ซึ่งพรรคที่กำลังมาแรงในขณะนี้ก็คือ ภูมิใจไทย ต้องเรียกว่า ฉีกหน้าเพื่อไทย ฉีกหน้าทักษิณ ภาษาของเนวิน “นายครับมันจบแล้ว” ก็น่าจะยังใช้ได้ มาดูพรคคภูมิใจไทยที่ผงาด

– นครพนม ศุภพานี โพธิ์สุ วัย 36 ปี เป็นลูกสาวของศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฏร คะแนน 161,933 คะแนน – โคราช ยลดา หวังศุภกิจโกศล แม้เป็นการลงในนามกลุ่มสร้างโคราชโฉมใหม่ เป็นก็เป็นภรรยา นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ พรรคภูมิใจไทย

– บุรีรัมย์ ภูษิต เล็กอุดากร หลานชาย เนวิน ชิดชอบ ฉลุยหลังจากที่กรุณา ชิดชอบ ภรรยาเนวินวางมือ บุรีรัมย์ไม่ต้องพูดกันอยู่แล้วเมืองของเนวิน

– บึงกาฬ แว่นฟ้า ทองศรี เป็นภรรยาของทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

– ลพบุรี ก็ไม่ธรรมดา อรพิน จิระพันธุ์วาณิช ได้ไป 205,320 คะแนน เพราะเป็นสะใภ้ของ กมล จิระพันธุ์วาณิช อดีตสส.หลายสมัย วันนี้สังกัดพรรคภูมิใจไทย

– มหาสารคาม ดร.คมคาย อุดรพิมพ์ รักษาเก้าอี้เอาไว้ได้ สวมเสื้อภูมิใจไทยชัดเจน ได้ไป 192,119 คะแนน

– อำนาจเจริญ วันเพ็ญ ตั้งสกุล ลงแข่งภายใต้กลุ่มภูมิใจไทยอำนาจ เป็นทายาทร้อยล้าน ลูกสาวของสวัสดิ์ ตั้งสกุล นักธุรกิจ แต่แรงผลักดันอยู่ที่สุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการทระทรวงคมนาคม เชื่อได้ว่าเลขนุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมก็คือ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ น้องชายของเนวิน ชิดชอบ

– พระนครศรีอยุธยา สมทรง พันธ์เจริญวรกุล รักษาแชมป์เก่าเอาไว้ได้ในฐานะมารดาสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล สส.พระนครศรีอยุธยา พรรคภูมิใจไทย

– เชียงราย อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ เคยอยู่พรรคเพื่อไทย รอบนี้ออกมาแข่งกับพรรคเพื่อไทย แข่งกับน้องยิ้ม วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ลูกสาวของสส.วิสาร เตชะธีราวัฒน์ แพ้ราบคาบ

นี่คือตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าภูมิใจไทยกำลังผงาด กำลังแซงโค้งเพื่อไทย ต้องจับตาดูในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะภูมิใจไทยกับอนาคตใหม่ จะกลายเป็นพรรคที่บดบี้พรรคเพื่อไทยให้ทรุดลง ในภาคอีสาน ภาคกลางและภาคเหนือ ซึ่งเป็น 3 ภาคหลักของเพื่อไทย มนต์ขลังของทักษิณ ที่จบสิ้นลงมาจาก การบ้าอำนาจ มักมากด้วยผลประโยชน์ หักหลังลูกน้อง ทรยศคนใกล้ชิด

ดูตอนกราบสะท้านแผ่นดินของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร วันที่ 23 กันยายน หลังจากนั้น 1 ตุลาคม 2563 ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ก่อนที่จะมีการปรับเปลี่ยน ทันทีที่คุณหญิงพจมานกราบ ถัดมา 2 วัน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประกาศลาออกจากประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ชัดเจนว่าเกิดร่องรอยบางอย่างที่ไม่ลงตัว ย้ำว่า สุดารัตน์ โดนทักษิณหลอก ไม่ว่าจะให้เป็นปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับ 1 นายกฯ ลำดับ 1 ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าไม่ได้ ตั้งข้อสงสัยมานานว่าสุดารัตน์ ไม่ฉลาดหรือว่ายอมให้ทักษิณหลอก เพื่อหวังผลในระยะยาว แต่วันนี้จบแล้ว เพราะถึง 30 พฤศจิกายน สุดารัตน์ ลาขาดออกจากพรรคเพื่อไทยแล้ว

หลังจากนั้น วัฒนา เมืองสุข ก็ลาออกตามมา โพสต์เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมว่า อยู่ไม่ได้ ไม่ไหวแล้ว โดยเฉพาะเรื่องที่วัฒนาพูดน่าสนใจเป็นอน่างยิ่ง ก็คือ เหตุผลข้อที่ 3 เพราะพรรคเพื่อไทย กำลังเดินตามก้าวไกล เดินตามม็อบ 3 นิ้ว แนวคิดสุดโต่งแบบสาธารณรัฐ วัฒนาบอกรับไม่ได้ เชื่อว่าต้องยืนอยู่กับคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้คือการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันนี้รุนแรงมาก เหมือนกับวัฒนากล่าวหาว่าพรรคเพื่อไทยกำลังเดินไปสู่เส้นทางของม็อบ ส่วนอีกคนหนึ่งที่ลาออกและสร้างแรงสั่นสะเทือนให้แก่พรรคเพื่อไทยและทักษิณคือ โภคิน พลกุล คนที่ได้ตำแหน่งมามากมายจากการเข้ามาทำงานกับทักษิณ โภคิน ลาออกด้วยเหตุผลง่ายว่า พรรคนี้ถูกครอบงำด้วยทักษิณ ใครเข้าไปหา ใครใกล้ชิดก็จะได้รับการดูแลจากทักษิณ และการตัดสินใจมาจากทักษิณทั้งสิ้น โภคินได้ยกย่องสุดารัตน์ว่า มีข้อดี มีบารมี เวลาไปตรงไหนคนรู้สึกเหมือนพี่เหมือนน้องเหมือนญาติและอยู่การเมืองมานานเข้าใจการเมือง ที่เหลือก็คือการร่วมกันและนำเสนออย่างเป็นระบบ ถ้าท่านจะเป็นผู้นำ แปลว่า วันนี้สุดารัตน์กำลังเตรียมการตั้งพรรคการเมือง โภคิน วัฒนา ไปแน่ และไม่ใช่แค่โภคินกับวัฒนา จะมีคนในพรรคเพื่อไทยเดินตามออกมาเป็นโขยง นี่คือในส่วนของพรรคเพื่อไทย

มาดูนปช. วันนี้แตกแหลกละเอียด เพราะเกิดความไม่ลงรอยระหว่างทีมณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หมอเหวง วีระกานต์ กับทีมของจตุพร เอาจะๆเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา 18 ธันวาคม ณัฐวุฒิ น้องรักจตุพร อดีตที่เคยยืนยง สามเกลอ วีระกานต์ ณัฐวุฒิ จตุพร วันนี้ไม่มีภาพนั้นแล้ว นับตั้งแต่ณัฐวุฒิ ออกจากคุกมา ไม่มีภาพของจตุพรเข้าไปเกี่ยวข้อง เพื่อไทยก็พัง นปช.ก็แตก ทั้งสิ้นทั้งปวงมาจาก การบ้าอำนาจและการหวังผลประยชน์ของทักษิณและบรรดาเครือข่ายญาติพี่น้องทั้งสิ้น